31 ธ.ค. 2553

หมอดู ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ทำนายปี54

สภาวการณ์ทางด้านสังคมและการเมืองโดยรวมประจำปี พ.ศ. 2554 ปีนักษัตรเถาะ
ธาตุทอง
ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นวันตรุษจีน
เป็นการก้าวเข้าสู่ปีนักษัตรเถาะ ธาตุทอง หรือปีซิงเบ้า ตามหลักจักรพรรดิ
และถ้านับตามดวงจีน (ลิบชุน) จะเริ่มย่างเข้าตั้งแต่วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์
2554 ซึ่งจะมีส่วนส่งผลให้ภาพรวมโดยทั่วไปในปีนี้จะเป็นปีแห่งความใจดี
มีคุณธรรม
เป็นปีแห่งการประนีประนอม การถ้อยทีถ้อยอาศัย การเจรจาตกลงยอมความกันในทุกๆ
ฝ่าย ไม่ว่าจากธนาคารต่อธนาคาร ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ ระหว่างคู่ความกับคู่
กรณี จากสภาพปัญหาที่เคยกระทบกระทั่ง
กระแทกแดกดันจนมีการแตกแยกแตกหักชนิดที่มีการล้มหายตายจากในช่วงหลายปีที่
ผ่านมา
ถึงแม้ภาพรวมจะมีท่าทีผ่อนคลายลง แต่ลึกๆ
แล้วยังไม่ยอมสิ้นฤทธิ์ มีคลื่นใต้น้ำแฝงอยู่ตลอดเวลา
มีดีกรีความร้อนแรงที่ยังเดือดครุกรุ่นอยู่ภายใน ที่พร้อมจะปะทุขึ้นมาปะทะ
กันอยู่ตลอดเวลา ถ้าควบคุมดูแลไม่ดีก็อาจจะมีการระเบิดออกมา
ทำให้ทุกคนทุกฝ่ายต้องเกิดการพัง เดือดร้อนทุกวงการทุกหย่อมหญ้า
ถ้าทุกฝ่ายรู้สำนึกและมองเห็นถึงสิ่งที่ตามมาว่าตัวเองต้องเดือดร้อน
ด้วย จึงช่วยกันเบรก อย่าปล่อยให้เรื่องราวต้องปะทุบานปลายออกไป
อีก ทุกอย่างก็จะเริ่มเย็นลง คลื่นลมก็ค่อยๆ
สงบลง จากน้ำเดือดก็กลายเป็นน้ำอุ่นและกลายเป็นน้ำเย็นที่มีความสดใสได้ใน
อนาคต
ถ้าหากว่าไม่มีใครมาจุดประกายไฟให้มีการโหมกระพือขึ้นมาอีกในภายภาค
หน้า เพื่อผลประโยชน์และกิเลสส่วนตัวของคนบางคนหรือคนบางกลุ่มที่หวังซึ่ง
อำนาจเงินตรา อำนาจบารมีโดยไม่มีคุณธรรม
เพราะว่าสัจธรรมความเป็นจริงมีเรื่องปรากฏให้เห็นอยู่เสมอว่า ความไม่แน่นอน
ยังคงเป็นสิ่งที่แน่นอน เราจะเห็นได้ว่าธรรมชาติมีการเปลี่ยนฤดูกาลทุกๆ 3 เดือน
จังหวะชีวิตมีขึ้นมีลง มีดวงดีดวงตกทุกๆ
1 ปีครึ่ง ซึ่งก็ไม่มีใครสามารถไปเปลี่ยนกฎแห่งฟ้า ไม่สามารถเปลี่ยนฤดูกาลได้
มีแต่ปรับตัวเพื่อตั้งรับกับสภาวการณ์ของแต่ละฤดูกาลที่มีการเปลี่ยน
แปลง จากร้อนเป็นฝน จากฝนเป็นมรสุม จากมรสุมเป็นหนาว และหมุนจากหนาวมาเป็นร้อน
อีกทั้งช่วงรอยต่อของฤดูกาลแต่ละครั้งก็จะมีการผันผวนปรวนแปรให้เห็นหนักๆ
อยู่ตลอดเวลา
อีกทั้งในปัจจุบันที่คนเราทำลายธรรมชาติจนทำให้มีปรากฏการณ์ เอลนีโญ ลานี
ญา จนทำให้เกิดอุบัติภัย อุทกภัย วาตภัย ธรณีพิบัติเกิดขึ้นอยู่เนืองๆ
ดังนั้น
ในสภาวการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงจากปีนักษัตรต่างๆ และจากธาตุดินมาสู่ธาตุ ทองใน
2 ปีนี้ ทำให้หลายๆ อย่างทางด้านเศรษฐกิจจะค่อยๆ ปรับตัวเข้าที่เข้าทาง
คนในสังคมโลกก็เริ่มปรับตัวยอมรับกับสภาวการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน ไม่
ว่าต้องลดความฟุ้งเฟ้อ
ลดการฟุ่มเฟือยช่วยกันประหยัด ใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างรู้คุณค่า
ไม่ทำลายมลภาวะสิ่งแวดล้อม ต้องร่วมมือต้องร่วมด้วยช่วยกัน
หันหน้าเข้ามาปรึกษาหารือนำพาธุรกิจสังคมและการเมือง ให้มีความสามัคคี ปรองดอง
ร่วมกันก้าวเดินไปข้างหน้าสู่ความรุ่งเรืองสดใสและมั่นคงของตัวเอง
ของสังคม และเพื่อบ้านเมืองที่เราได้อยู่อาศัยทำมาหากิน อย่าอิจฉาตาร้อน
อย่าโทษกันไปโทษกันมา บางเรื่องอภัยกันได้ก็อภัยกัน ลืมได้ก็ลืมไปเสีย
อย่านำมาฝังใจจดจำอาฆาตแค้นต่อกัน
จะทำให้ทุกอย่างสามารถจบลงด้วยการส่งผลที่ดีให้เกิดขึ้นแก่ส่วนรวมในไม่ช้า
ไม่นาน
ดังนั้น ในปีนี้ซึ่งเป็นปีกระต่าย ธาตุทอง ที่ใจดี
จึงเป็นช่วงปีที่เหมาะกับการที่ทุกคนทุกฝ่ายจะมานั่งจับเข่าคุยเจรจาตกลงกัน
จะทำให้เรื่องราวต่างๆ จะสงบนิ่งมากขึ้นไปเรื่อยๆ
จนทำให้เป็นช่วงปีที่เหมาะสมในการที่จะถ่ายโอนมอบอำนาจ เปลี่ยนแปลงสัญญา
เปลี่ยนแปลงตัวบทกฎหมาย กฎบัตรประชาคม
ให้ทุกคนทุกฝ่ายยอมรับกันมากขึ้น ไม่ค่อยมีกระแสการคัดค้านหรือกดดันให้เกิด
ความรุนแรงกระทบกลับมา
จากการที่มีการไปเปลี่ยนแปลงในด้านที่ดูแล้วมีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และ
เป็นแนวทางที่สร้างสรรค์มากสักเท่าไหร่นัก
ซึ่งจะมีส่วนส่งผลให้ภาคเศรษฐกิจ การเงินของส่วนรวมในแง่มหภาคภายในประเทศ
ไทยเรา ก็พลอยมีการเคลื่อนตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นเช่นเดียวกัน
ถึงแม้ว่าจะมีการอิจฉาตาร้อน
มีการไม่เห็นด้วยจากบางคนบางกลุ่มที่ต้องสูญเสียผลประโยชน์ หรือไม่ได้รับ
อานิสงส์จากการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้
ออกมาร้องแรกแหกกระเชอสร้างความปั่นป่วน
ถ้าหากว่าทุกคนไม่ช่วยพัดกระพือ ต่างช่วยกันเบรก ช่วยกันดับกระแสข่าวลือ
ข่าวร้ายต่างๆ
ช่วยกันเคลียร์ปัญหา ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว ทุกเรื่องทุกราวก็จะ
สามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต่ขณะเดียวกันเมื่อทุกอย่างก้าวเดินไปด้วยดี
ผู้ที่มีอำนาจในการบริหารบ้านเมือง
ก็ต้องช่วยกันดูแลอย่าให้มีการทุจริต กินสินบาทคาดสินบน ในกลุ่มคนที่มีบทบาท
มีอำนาจเติบโตตามไปด้วย
เพราะไม่เช่นนั้นปัญหาวงจรอุบาทว์เดิมๆ อำนาจมืดเก่าก็จะค่อยๆ
คืบคลานกลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งหนึ่ง และเมื่อนั้นแหละความยุ่งวุ่นวายก็จะ
หวนคืนมาได้อีกในอนาคต
ทางด้านการเมืองก็ต้องขอให้ข้อคิดเห็นแก่ผู้ที่มีอำนาจควบคุมดูแลอยู่ว่า
"ประเทศชาติจะไปได้รอดปลอดภัยถ้าผู้นำมีคุณธรรม มีความสุจริตยุติธรรม
ไม่เห็นแก่ประโยชน์ของตนหรือของพรรคพวกตัวเอง
มากกว่าคนในส่วนรวม" ซึ่งในปีกระต่าย ธาตุทองปีนี้จะเป็นช่วงที่ดี
ที่มักจะได้ผู้บริหารบ้านเมืองเป็นคนดีมีคุณธรรมส่วนใหญ่มา บริหารประเทศ
ใครที่ไม่ดี ไม่มีคุณธรรม มีปัญหาที่ไม่ดีหมกเม็ดอยู่ภายใน
ก็มักจะถูกขุดคุ้ยมาประจานให้ทุกคนรู้ทั่วไป และจะถูกปรับออกไปเรื่อยๆ
จนทุกอย่างในสังคมการเมืองดูดีขึ้น ถึงแม้จะไม่ดีพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์
มีการช่วงชิงดีชิงเด่นอยู่ภายในลึกๆ ก็ตาม แต่ก็จะมีส่วนดีมากกว่าส่วนเสีย
ไม่เหมือนในอดีตที่ผ่านมาที่มีแต่เสียมากกว่าดี
ทางด้านสังคมส่วนรวมถึงแม้จากช่วงปีที่ผ่านมา ที่มีการเสื่อมถอยทางด้าน
ศีลธรรมไปบ้าง ไม่ว่าเป็นการเกิดจากการเผยแพร่อารยธรรมของต่างประเทศ โดย
เฉพาะทางตะวันตก
ที่มีคนนำความเสื่อมเข้ามามอมเมาเยาวชนภายในประเทศโดยไม่เห็นแก่คุณธรรม แต่
ในช่วงปีนี้ก็มักจะมีผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีทั้งจรรยาบรรณและคุณธรรมขึ้นมาชี้
แนะแนวทาง มาวางกรอบให้สังคมเริ่มมองเห็นถึงความสำคัญทางด้านนี้
ที่จะได้ไม่ทำให้เยาวชนก็ต้องตกเป็นเหยื่อของมารสังคม ของการที่ต้องหลงกล
เข้าไปสู่ช่วงของอบายมุขของยาเสพติดที่ให้โทษ ของสุรายาเมาที่โยงไปสู่การ
ติดเอดส์ ที่มีการกลายพันธุ์ เป็นโรคที่หมดทางรักษามีแต่ต้องรอวันตายลูก
เดียว ซึ่งมีการแพร่เชื้อโรคไปแบบเงียบๆ และมากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ
เพราะคนที่ติดก็เจ็บใจจากการที่มีคนแพร่มาให้ ก็อยากที่จะให้คนอื่นตายตาม
ตัวเองไปด้วย จึงขอให้คนที่ชอบเที่ยวเตร่ เป็นชายชอบสนุก
เป็นหญิงที่ชอบความสนุกสนาน ต้องรู้จักควบคุมดูแลตัวเองให้ดี
อย่าไปตกเป็นเหยื่อของภัยร้ายเลย
อีกทั้งเหล่าหมู่คนที่เป็นคนรกโลก เป็นสัตว์นรกมาเกิด ที่แฝงอยู่ในคราบของ
ผู้ดีมีคุณธรรม
อยู่ในชนชั้นสูงที่มีอำนาจ ก็มักจะมีโอกาสถูกขุดคุ้ยมาเผยแพร่มาประจานให้คน
ในสังคมได้รับรู้ว่าใครเป็นอย่างไร ทำให้คนเหล่านี้ก็จะถูกกำจัด
ถูกกีดกันจากสังคมที่ดีออกไปเรื่อยๆ
ทำให้คนบริสุทธิ์จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
หรือต้องสมยอมชนิดที่พูดไม่ออกอีกต่อไป

เป็นปีที่ทางวงการแพทย์มักมีโอกาสค้นพบตัวยาดีๆ ที่สามารถรักษาโรคที่ในอดีต
ไม่สามารถรักษาได้
หรือสามารถยืดต่ออายุขัยของคนที่เป็นโรคได้ยาวนานและมากขึ้น แต่ก็ต้องระวัง
ความผันผวนของธรรมชาติที่มักจะทำให้มีอุบัติภัยมากขึ้นเรื่อยๆ จากการที่คน
เรามักไปทำลายสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ ไม่ว่าการตัดไม้ทำลายป่า การขุดเจาะบ่อ
น้ำมัน น้ำบาดาล การทดลองขีปนาวุธบนอากาศ
ใต้น้ำ ใต้ดิน ทำลายมลภาวะทำให้เกิดโลกร้อนมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดภัยพิบัติ
ทางธรรมชาติที่มีโอกาสคร่าชีวิตคนครั้งละมากๆ
ดังนั้น
การที่จะเดินทางใกล้ไกล ไปไหนมาไหนควรตรวจสอบเส้นทางและสภาพอากาศให้ดี
เพื่อความสะดวกปลอดภัยในการเดินทาง ตรวจสอบสภาพความพร้อมของยานพาหนะที่จะพา
เราไป เพื่อความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของเราและของคนอื่น
อีกทั้งก็จะส่งผลให้ผู้ที่เกิดปีเถาะธาตุทองในรอบนี้
มักจะมีการแสดงออกให้เห็นถึงบุคลิกที่มีความสงบนิ่ง ไม่ค่อยหวั่นไหวต่อสิ่ง
เย้ายวนที่อยู่รอบข้าง แต่ในส่วนลึกของจิตใจแล้ว
กลับโหยหาในการให้มีคนมาคอยห่วงใยเอาอกเอาใจเช่นเดียวกับปีเถาะรอบอื่นๆ แต่
ทว่าถ้าหากมีคนมาคอยติดตามตื๊อหรือมาพะเน้าพะนอเอาใจมากเกินไป กลับมีความ
รู้สึกรำคาญ จึงทำให้ดูแล้วเป็นคนที่เข้าใจยาก เอาใจไม่ถูก
ต้องคอยดูอารมณ์ความต้องการในแต่ละเหตุการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไม่เหมือน กัน
จากการที่มีธาตุทองควบคุม จึงทำให้เป็นคนที่มีความเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวในการ
ตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม
ไม่ชักช้าในการที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลคนที่มีความเดือดร้อน
โดยไม่ฟังคำคัดค้านจากใคร มักมีสายตาที่ยาวไกล มีความเฉลียวฉลาด สุขุมลุ่มลึก
ยามดีก็ดีใจหาย
ยามโมโหขึ้นมาก็พร้อมที่จะบุกตะลุยโดยไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมได้เช่น
เดียวกัน
เป็นคนที่มีความสุนทรีย์ทางอารมณ์ ด้านศิลปะ รักดนตรีและเรื่องสวยๆ งามๆ
ชอบบรรยากาศที่มีความเรียบง่ายสบายๆ มากกว่าการปรุงแต่งไม่ว่าบุคคลหรือสถาน ที่
อีกทั้งก็เป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองว่าสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีกับคน
อื่น จึงอยากที่จะให้คนอื่นเจริญรอยตาม แต่ไม่ชอบผูกมัดตัวเองกับอะไรหรือ
ใครมากเกินไป เพราะกลัวที่จะผูกมัดผูกพันตัวเอง
แต่ถ้าลองได้ตัดสินใจให้ความจริงใจในการคบหาหรืออยู่กินกับใครแล้ว
ก็พร้อมที่จะทุ่มเทให้ทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่ยอมเปลี่ยนแปลงเลยทีเดียว

สภาวการณ์ของสังคม การเมืองและเศรษฐกิจในระหว่างรอบเดือนต่างๆ ของปี 2554
ช่วงระหว่างวันที่ 6 ธันวาคม 2553 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2554 เป็นเดือนที่
11 คือเดือนชวด ธาตุดิน สภาวการณ์ของสังคม การเมือง
และเศรษฐกิจโดยทั่วไปในช่วงระหว่างเดือนนี้
ขอให้เข้าใจว่าสำหรับผู้ที่น้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
เมื่อได้พบเห็นผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากแล้วรีบกุลีกุจอเข้าไปช่วยเหลือโดยไม่มี
การแบ่งชั้นวรรณะ มองเห็นทุกสิ่งเท่าเทียมกันหมด คนแบบนี้ไม่ว่าจะไปอยู่ที่
ไหนก็สามารถทำให้ตรงนั้นเกิดความสามัคคีได้ เพราะว่าเป็นผู้ที่มีอัธยาศัย
น้ำใจดีงาม เป็นมิตรที่ดีกับทุกผู้คน
เป็นคนใจกว้าง ไม่ใจแคบ สามารถทำได้ทุกอย่างโดยไม่เกี่ยงงาน
ยิ่งถ้าหากว่าเป็นผู้ที่มีหน้าที่ใหญ่โตทางบ้านเมือง เป็นผู้ที่มีเกียรติ
ทางสังคม เป็นผู้บริหารที่มีลูกน้องจำนวนมาก
คนแบบนี้จะทำให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า เป็นที่รักใคร่ของลูกน้อง
เป็นที่นับหน้าถือตาแก่คนทั่วไป
เพราะความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
คือการเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างภาคภูมิใจ
เป็นช่วงที่ข่าวลือ เสียงซุบซิบนินทาจะย้อนกลับมาสู่สังคมในทุกชนชั้นอีก
ทำให้ทุกคนทุกฝ่ายต่างเกิดความสับสนในเรื่องราวที่เกิดขึ้น
มองเห็นอยู่ว่าเป็นเรื่องหนึ่ง
แต่เสียงลือเสียงเล่าอ้างกลับทำให้ฟังดูแล้วเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทุกคนจับต้น
ชนปลายไม่ถูก ผิดๆ ถูกๆ ดีๆ ชั่วๆ ถูกย้อมแมวขาย
บ้างก็เหมือนไก่เห็นพลอย ไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่
กลับไปเห็นข้าวเปลือกที่ด้อยค่ากว่ากันเยอะเลย
จับขึ้นมาขัดสีฉวีวรรณ จนผลสุดท้ายก็เสียทั้งเงินทอง
เสียทั้งเวลาและโอกาสที่ดีให้หลุดลอยไป
ก็ขอให้ทุกคนอย่าไปตื่นตามกระแสที่มีคนปลุกปั่นขึ้นมา ขอให้มองถึงความเป็น
จริงและใจเย็นๆ ในไม่ช้าไม่นาน ตัวจริงเสียงจริงเป็นใครและทำอะไรไว้
มันก็จะโผล่มาให้เราได้เห็นเอง ใครทำอะไร หมกเม็ดอะไรไว้
ก็ขอให้สังคมช่วยกันคัดกรองส่วนที่ไม่ดีให้หลุดออกนอกวงโคจรที่ดีไปเลย

ช่วงระหว่างวันที่ 4 มกราคม 2554 ถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2554
เป็นเดือนที่ 12 คือเดือนฉลู ธาตุดิน สภาวการณ์ของสังคม การเมือง
และเศรษฐกิจโดยทั่วไปในช่วงระหว่างเดือนนี้
ขอให้เข้าใจว่าเราจะพบว่าในความเป็นจริงของชีวิต ถ้าเราได้ทำงานเพื่อหา
ทรัพย์สินสร้างฐานะของตัวเองขึ้นมาได้ด้วยหยาดเหงื่อแรงกายของตัวเอง ถึงแม้
ในสายตาของคนอื่นมันไม่มีคุณค่า ไม่มีราคาค่างวดอะไรมากนัก
แต่ถ้าหากหามาได้ด้วยความสุจริต ไม่ได้ไปคดโกง กินสินบาทคาดสินบน
ทุจริตคอรัปชั่นเพื่อเอามาเป็นทรัพย์สินของตัวเรา
ถึงแม้จะไม่ได้ทำให้เราร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีอย่างคนอื่นๆ เขา
แต่เราก็มีความสุขและความพึงพอใจในทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ด้วยความภาคภูมิใจ
ดีกว่าที่จะมีทรัพย์สมบัติมหาศาล
แต่ไม่ได้หามาด้วยหยาดเหงื่อแรงกายของตัวเราเอง หากแต่ไปคดโกงฉ้อฉลหรือขโมย
ของคนอื่นเพื่อมาเป็นของเราเอง โดยไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ก็ถือว่า
เป็นบาป
และทรัพย์สินเหล่านั้นก็มีโอกาสที่จะอยู่กับเราไม่นาน หรือไม่เช่นนั้นเราก็
อาจจะอยู่ได้ไม่นาน ไม่ได้มีโอกาสใช้ทรัพย์สินที่โกงมาเหล่านั้น
เพราะมันไม่ใช่เป็นของเรา
ใครทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ในระยะนี้ เป็นช่วงที่คุณธรรมค้ำจุนโลก
หรือเรียกได้ว่า พระเจ้ามีตาทิพย์ ที่มองเห็นว่าใครเป็นอย่างไร ทำอะไรเอาไว้
ก็มีการป่าวประกาศออกมาให้คนในสังคมได้รับรู้ถึงความดีความชั่วของคนที่มี
อำนาจในสังคมที่ทุกคนต้องอยู่อาศัย ทั้งในอดีตและปัจจุบัน
จวบจนในอนาคตไม่ใกล้ไม่ไกลว่าเป็นอย่างไร
ซึ่งก็ต้องขอให้คนที่มีอำนาจที่มีคุณธรรม
มีความชอบธรรมได้ใช้อำนาจช่วยดูแลบ้านเมืองต่อไป ให้สามารถก้าวไปสู่ความ
รุ่งเรืองสดใสในปีต่อๆ ไป อย่าเพิ่งถดถอยหมดแรงหมดกำลังใจเสียก่อน

ช่วงระหว่างวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 ถึงวันที่ 5 มีนาคม 2554
เป็นเดือนที่ 1 คือเดือนขาล
ธาตุทองตามหลักของโหราศาสตร์จีน ซึ่งก็เป็นเดือนแรกของการย่างก้าวเข้าสู่ปี
นักษัตรเถาะ ธาตุทอง หรือปีกระต่ายทอง
สภาวการณ์ของสังคม การเมือง และเศรษฐกิจโดยทั่วไปในช่วงระหว่างเดือนนี้ ก็
เป็นการย่างก้าวเข้าสู่ปีเถาะ ธาตุทองอย่างเต็มตัว เป็นการเปลี่ยนจากปีขาล
ธาตุทอง
ที่ได้เคยพยากรณ์ไว้ว่าเป็นปีเสือดุ ที่จะคร่าชีวิตของคนทั้งในประเทศไทยและ
ทั่วโลกมากพอประมาณ
ไม่ว่าเกิดจากพิษการเมืองที่มีการขัดแย้งจนมีการรบพุ่งฆ่าฟันกันอยู่ตลอด
เวลาไม่รู้จักหยุดจักหย่อน มีภัยธรรมชาติที่เกิดจากสภาวะโลกร้อนที่เป็นตัวแปร
ที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ทำให้เกิดขึ้น ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหว คลื่นยักษ์สึนามิ
พายุ น้ำท่วม และโรคแปลกๆ เกิดขึ้นอยู่เป็นระยะๆ
เมื่อย่างมาสู่ปีเถาะ ธาตุทอง ทุกอย่างก็จะค่อยๆ มีการพลิกผันเปลี่ยนแปลง
จากความยุ่งเหยิงวุ่นวาย ปะฉะดะกันอยู่เรื่อยๆ เข้าสู่ปีแห่งความใจดีมีคุณธรรม
ปีแห่งการเจรจาต่อรอง ปีแห่งการสงบสุข
มีการเจรจาแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ระหว่างคู่ความคู่กรณีกัน จากสภาพปัญหาที่
เคยมีการกระทบกระทั่ง กระแทกแดกดันจนมีการแตกแยกแตกหัก
ชนิดที่ทำให้มีการล้มหายตายจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็จะมีทีท่าค่อยๆ
ผ่อนคลายลง
ก็ขอให้คนที่มีบทบาท มีอำนาจในการควบคุมบ้านเมือง ควรออกมาส่งสัญญาณ
ให้ทุกคนทุกฝ่ายในสังคมได้รู้ว่าตัวเองจะเอาอย่างไร คนอื่นจะได้ก้าวถูก
ไม่ใช่ทุกคนทำด้วยความละล้าละลัง
ต้องเดาใจว่าท่านผู้นำจะเอาแบบไหน ทำให้ทุกอย่างไม่สามารถเคลื่อนตัวไปในแนว
ทางเดียวกัน
ขอให้ท่านเหล่านั้นที่มีอำนาจอยู่ในมือ ต้องกระทำด้วยความยุติธรรม มี
คุณธรรมอยู่ในจิตใจ ก็ทำให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีไม่ได้
อีกทั้งทำให้ความเป็นจริงที่คนบางคนเคยปกปิดเอาไว้ ก็จะค่อยๆ
เปิดเผยออกมาให้สังคมได้รับรู้มากขึ้นไปเรื่อยๆ
จนต้องถูกกำจัดให้หลุดไปจากวงจรอำนาจที่ถูกต้องชอบธรรมได้

ช่วงระหว่างวันที่ 6 มีนาคม 2554 ถึงวันที่ 4 เมษายน 2554 เป็นเดือนที่ 2
คือเดือนเถาะ ธาตุทอง สภาวการณ์ของสังคม การเมือง
และเศรษฐกิจโดยทั่วไปในช่วงระหว่างเดือนนี้
เป็นช่วงที่จะกล่าวได้ว่าพระเจ้ามีตาจริงๆ เป็นเวลาที่คุณธรรมค้ำจุนโลก
เป็นเดือนเถาะ ธาตุทอง ในปีเถาะ ธาตุทอง ที่จะมีความสงบนิ่ง
ชนิดที่ใครพูดอะไรทำอะไร ทุกคนทุกฝ่ายจะได้ยินได้เห็น
เป็นเวลาที่ต้องขอให้ผู้ที่มีอำนาจอยู่ในมือ ต้องยืนหยัดอยู่บนความถูกต้อง
ชอบธรรม มีความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจ ขอให้อย่าโอนเอนไปมา
อย่าคล้อยตามไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง
ต้องพิจารณาว่าเรื่องราวที่ได้ตัดสินใจกระทำหรือสั่งการลงไป
ถ้าต้องทำให้ส่วนตัวหรือส่วนรวมเกิดความเดือดร้อนได้ในภายภาคหน้า ก็ขอให้
อย่ากระทำ
ขอให้มองระยะยาว อย่ามองสั้นๆ เพราะว่าสังคมจะมองออกว่าอะไรเป็นอย่างไร แต่
ถ้ามีความชอบธรรม และส่งผลดีในภายภาคหน้าก็ขอให้ทำไป
ถึงแม้จะมีการคัดค้านจากฝ่ายที่เสียผลประโยชน์หรือไม่เห็นด้วยก็ตาม ไม่ต้อง
เกรงกลัว ชนิดที่ใครจะเป็นทองแท้ ทองเทียมหรือเป็นทองคำเปลว
ก็อยู่ที่การตัดสินใจในช่วงนี้ ถ้าใครทำดีในช่วงนี้
ถึงแม้จะถูกโจมตีก็จะเข้าทำนองที่ว่า ยิ่งถูกตียิ่งดังครับ

ช่วงระหว่างวันที่ 5 เมษายน 2554 ถึงวันที่ 5 พฤษภาคม 2554 เป็นเดือนที่ 3
คือเดือนมะโรง ธาตุน้ำ สภาวการณ์ของสังคม การเมือง
และเศรษฐกิจโดยทั่วไปในช่วงระหว่างเดือนนี้
ในระยะนี้ก็จะเป็นช่วงเวลาที่เรียกได้ว่า ฟ้าหลังฝนย่อมสดใส
เป็นเดือนแห่งพญามังกรออกมาคะนองน้ำ
เปรียบเสมือนผู้มีอำนาจที่จะออกมาสนับสนุนคนดีมีศีลธรรมให้มีพลังแห่งกำลัง
ใจ มีกำลังกายในการที่จะลุยโลดแล่นไปในสายธาราแห่งความสับสนวุ่นวาย ที่มี
แรงกระแทกกระทั้น ถาโถมเข้ามาจากทุกคนทุกฝ่าย
ที่มีทั้งคนเห็นด้วย ที่สรรเสริญเยินยอ และจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย
ที่คอยสร้างปัญหาให้มีอุปสรรคปัญหาให้ต้องแก้ไขอยู่เนืองๆ
แต่ผู้ที่กระทำนั้นก็มีความยินดีปรีดาอยู่ในจิตใจ ที่ลึกๆ
แล้วไม่มีใครหยั่งถึง ที่มีจุดมุ่งหมาย
มุ่งไปสู่เป้าหมายสูงสุดที่ตัวเองตั้งไว้ ในด้านที่อยากทำให้ส่วนรวมและ
ประเทศชาติก้าวไปสู่ความรุ่งโรจน์รุ่งเรืองในภายภาคหน้าเป็นช่วงเวลาที่ทำ
ความจริงให้ปรากฏแก่สังคมโลก ใครรกโลก ใครลวงโลก ก็ช่วยกันปราบปรามให้สิ้นซาก
ส่งเสริมให้คนดีมีคุณธรรมได้มีบทบาทมาช่วยสังคม ช่วยประเทศชาติ
ดีกว่าปล่อยให้เป็นเพชรที่จมอยู่ในโคลนตมเลย

ช่วงระหว่างวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 ถึงวันที่ 5 มิถุนายน 2554 เป็นเดือนที่
4 คือเดือนมะเส็ง
ธาตุน้ำ สภาวการณ์ของสังคม การเมือง และเศรษฐกิจโดยทั่วไปในช่วงระหว่าง
เดือนนี้ เป็นระยะเวลาที่จะให้ข้อคิดแก่คนที่มีบทบาท มีอำนาจต่อสังคมส่วนรวมว่า
อันที่จริงทุกคนก็อยากให้เราดี แต่ถ้าเด่นขึ้นทุกทีเขาหมั่นไส้ จนทำดีแต่
อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครเขาอยากเห็นเราเด่นเกิน
ก็ต้องขอให้ระวังคนข้างตัวให้ดี ชนิดที่เรียกว่า ระวังหอกข้างแคร่
ที่จะมีการพลิกผันเปลี่ยนแปลงชนิดที่ชักน้ำเข้าลึก
ชักศึกเข้าบ้าน มีการเชือดเฉือนให้ตัวเองต้องเจ็บตัวแล้วยังต้องเจ็บใจชนิด
ที่ต้องฝังใจจำไปอีกนานแสนนาน จนถึงขั้นไม่เผาผี ไม่นับญาติกันเลยก็ว่า
ได้ ทำให้ตัวเราเองที่หลงไว้วางใจ ต้องแก้ไขปัญหาที่มีการพัลวันพัลเก
วุ่นวายอีนุงตุงนัง
ไม่ว่าปัญหาระยะสั้นเฉพาะหน้าหรือระยะยาวที่พัวพันไม่รู้จักจบจักสิ้น
อีกทั้งต้องระวังหลุมพรางที่มีคนหวังดี แต่ประสงค์ร้ายขุดไว้รอบๆ ตัวเรา
หรือปรารถนาดีแต่รู้เท่าไม่ถึงการณ์จนทำให้มีการเสียชื่อเสียเสียงได้ ก็ควร
พิจารณาคนรอบตัวให้ดี ควรมีการเปลี่ยนแปลงคนที่ไม่ดีออกไป หาคนที่ดีมีความพร้อม
ที่จะเสียสละ มาปรับเปลี่ยนช่วยเหลือสังคมส่วนรวมต่อไปก็จะเป็นการดีที่สุด

ช่วงระหว่างวันที่ 6 มิถุนายน 2554 ถึงวันที่ 6 กรกฎาคม 2554 เป็นเดือนที่
5 คือเดือนมะเมีย
ธาตุไม้ สภาวการณ์ของสังคม การเมือง และเศรษฐกิจโดยทั่วไปในช่วงระหว่าง
เดือนนี้ เป็นช่วงเวลาที่สิ่งดีๆ ที่คนมีอำนาจที่มีคุณธรรมได้กระทำลงทุนลงแรงไป
ได้ตั้งใจเพาะบ่มไว้ตั้งแต่แรกที่เริ่มเข้ามารับภาระงาน ไม่ว่าของตัวหรือ
ส่วนรวม ก็จะค่อยๆ
โผล่ขึ้นมาให้ทุกคนในสังคมส่วนรวมได้เห็นถึงผลงาน เห็นถึงผลประโยชน์ที่ทุก
คนทุกฝ่ายจะได้รับ เห็นถึงข้อเท็จจริงว่า ผู้นำท่านนั้นเป็นคนอย่างไร
ถ้าดีก็จะได้รับการสรรเสริญเยินยอไปอีกยาวนาน
แต่บางคนที่ซุกหมกเม็ดในเรื่องที่ไม่ดีเอาไว้
ก็จะมีการโผล่ขึ้นมาประจานในความแหลกเหลว
หรือเรื่องราวที่ไม่ดีให้ทุกคนได้มองเห็นเองโดยไม่ต้องมีใครไปขุดคุ้ยอะไร เลย
เมื่อเป็นเช่นนั้น
ถ้าไม่ใช่เป็นเรื่องหนักหนาสาหัสอะไรนัก อภัยได้ก็ขอให้อภัยกันเถอะ
ครับ อย่าไปบีบบังคับหรือประจานข่มเหงอะไรมากจนเกินไปนัก เพราะถ้าอีกฝ่าย
ฮึดสู้ก็จะทำให้สังคมเกิดความวุ่นวายได้ ซึ่งก็จะส่งผลให้เป็นช่วงเวลาที่
มักจะมีแต่เรื่องดีๆ ที่จะส่งผลให้ทุกคนในส่วนรวมมีความสุขได้ช่วงขณะหนึ่ง
เป็นยาชูกำลังให้มีกำลังใจในการที่จะต่อสู้กับอุปสรรค เพื่อก้าวไปสู่ปีที่ดีๆ
ในอีก 2 ปีข้างหน้าได้

ช่วงระหว่างวันที่ 7 กรกฎาคม 2554 ถึงวันที่ 7 สิงหาคม 2554 เป็นเดือนที่
6 คือเดือนมะแม
ธาตุไม้ สภาวการณ์ของสังคม การเมือง และเศรษฐกิจโดยทั่วไปในช่วงระหว่าง
เดือนนี้ เป็นระยะเวลาที่จะแสดงให้ทุกคนในสังคมส่วนรวมได้มองเห็นถึงสัจธรรม
ความเป็นจริงว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ใครทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
ทำอะไรไว้ ก็จะได้ผลสิ่งนั้นกลับมาตอบมาทดแทน
พูดอะไรไว้ก่อนพูดเราเป็นนาย แต่เมื่อพูดออกไปแล้วคำพูดก็เป็นนายเรา
เป็นการบ่งบอกว่าผู้ที่กระทำหรือผู้พูดนั้นเป็นคนอย่างไร เป็นชนิดที่ปากพูด
อย่างแล้วทำอย่าง หรือเป็นคนที่ปากปราศรัยแต่น้ำใจเชือดคอ
หรือข้างนอกสดใส ข้างในต๊ะติ๊งโหน่ง ก็ขอให้คนที่ทำไม่ดี
ต้องทำใจรับกรรมที่ตัวเองก่อไว้
อย่าให้ต้องตกไปเป็นของลูกหลานที่จะต้องมาชดใช้กรรม ในการกระทำของตัวเราเอง
ในอนาคตเลย อย่าไปยึดติดอะไรให้มากนัก

อีกทั้งคนมีอำนาจก็อย่าเที่ยวหาคนมาเป็นแพะรับบาปให้แทนในการกระทำของตัวเรา
เองเลย เพราะว่าปัจจุบันเป็นยุคอิเล็กทรอนิกส์
เป็นยุคการสื่อสารที่ไร้พรมแดน ทุกคนรู้เท่าทันกันหมด ดีไม่ดีอาจจะต้อง
เสื่อมเสียทั้งตระกูล จนคนในครอบครัวหรือลูกหลานต้องสาปแช่งสาปส่ง
หรือเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลไปจนหมด

ช่วงระหว่างวันที่ 8 สิงหาคม 2554 ถึงวันที่ 7 กันยายน 2554 เป็นเดือนที่
7 คือเดือนวอก ธาตุไฟ สภาวการณ์ของสังคม
การเมือง และเศรษฐกิจโดยทั่วไปในช่วงระหว่างเดือนนี้ ก็เป็นช่วงเวลาที่เรา
จะพบกับความพลิกผันในบางเรื่อง จากความสงบนิ่ง ชนิดที่ทุกคนเริ่มสงบสุข
สบายกายสบายใจมาได้ช่วงขณะหนึ่ง ก็ก้าวเข้าสู่ช่วงที่แทบจะพูดได้ว่า
ความไม่แน่นอนยังคงเป็นสิ่งที่แน่นอน
และจะมีความปั่นป่วนวุ่นวายที่เกิดจากผู้ที่ไม่หวังดีต่อบ้านเมือง
หรือผู้ที่หวังดีแต่ประสงค์ร้าย จะเริ่มออกมาก่อกวน สร้างปัญหา ออกมาโวยวาย
มายุแยงตะแคงรั่วเพื่อสร้างกระแสแห่งความขัดแย้งขึ้นมาให้ได้
จนถึงขั้นอาจจะมีการสร้างสถานการณ์ที่ไม่ดีให้เกิดขึ้น ไม่ว่าเกิดจาก
อาวุธ ระเบิด ปืนไฟ
จนมีเหตุการณ์ที่จะต้องเสียเลือดเสียเนื้อเกิดขึ้นได้ บางคนเรียกร้องได้คืบ
ก็จะเอาศอก ได้อย่างก็จะเอาอีกอย่าง
ซึ่งจะทำให้อารมณ์ของคนในสังคมอาจจะไม่นิ่ง อาจจะถูกปั่นหัวแบบถูกลิงหลอก
เจ้าได้ แต่ถ้าหากคนทุกฝ่ายรู้เท่าทัน สังคมก็ยังไม่ตอบรับ
หรือเจ้าหน้าที่บุคคลในเครื่องแบบรู้จักออกมาคุมเกมคุมสถานการณ์ให้ดี
ไม่ปล่อยให้บานปลายออกไป แก้ไขปัญหาด้วยความใจเย็น มีสติ
ทุกอย่างก็จะสามารถผ่านไปได้โดยไม่มีปัญหาเกิดขึ้นก็ได้

ช่วงระหว่างวันที่ 8 กันยายน 2554 ถึงวันที่ 7 ตุลาคม 2554 เป็นเดือนที่ 8
คือเดือนระกา ธาตุไฟ สภาวการณ์ของสังคม การเมือง
และเศรษฐกิจโดยทั่วไปในช่วงระหว่างเดือนนี้
คนเรานั้นเมื่อรักกันใหม่ๆ ต่างคนต่างก็เอาความดีเข้าหากัน ต่างก็ให้ในสิ่ง
ที่อีกฝ่ายต้องการ ต่างมีมุมมองไปในแนวทางเดียวกัน ชนิดที่ชี้นกเป็นนก
ชี้ไม้เป็นไม้ แต่เมื่อได้ประโยชน์ในสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้ว
พออยู่กินกันสักระยะหนึ่ง นิสัยความต้องการที่แท้จริงของแต่ละกลุ่มคนก็จะ
โผล่มาให้เห็น ถ้าเป็นบางเรื่องที่ไม่หนักหนาสาหัสสากรรจ์มากจนเกินไปนัก
อภัยกันได้ก็พอที่จะอภัยกัน

แต่บางเรื่องที่เลวมากชนิดที่แก้ไขกันไม่ได้ และไม่เป็นที่ยอมรับของอีกฝ่าย
หรือไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมส่วนรวม ก็ต้องเลือกว่าตัวเองจะเอาอย่างไร
จะอยู่ไหน แบบหวานอมขมกลืนต่อไป หรือเลิกรากันไป
ก็ต้องเลือกเอาว่าจะเดินไปในแนวทางไหน
ถ้าไม่เช่นนั้นก็จะมีบุคคลอื่นที่นั่งมองอยู่ภายนอก
จะเริ่มเข้ามายุแยงตะแคงรั่ว มากระแนะกระแหน กระทบกระเทียบเปรียบเปรย
หรือเข้ามาช่วงชิงผลประโยชน์ชนิดที่ขอร่วมวงไพบูลย์ด้วยจนบานปลาย ทำให้
สังคมส่วนรวมเริ่มมีความปั่นป่วนจนจิกตีกันได้อีก ก็ต้องขอให้ผู้ที่มีอำนาจ
ต้องออกมาห้ามปราม ออกมาเบรกก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลายออกไป
ก็จะทำให้ผ่านไปได้ในระดับหนึ่ง

ช่วงระหว่างวันที่ 8 ตุลาคม 2554 ถึงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2554 เป็นเดือนที่
9 คือเดือนจอ ธาตุดิน สภาวการณ์ของสังคม การเมือง
และเศรษฐกิจโดยทั่วไปในช่วงระหว่างเดือนนี้
ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี แต่ไม่ใช่ตอบแทนบุญคุณด้วยการทำ
สิ่งที่ไม่ดี ไม่ถูกต้องทั้งตัวเองและส่วนรวม ต้องเกิดความเดือดร้อนไป
ด้วย ขอให้เข้าใจว่าชีวิตของคนเราที่เกิดมาทุกคน ไม่มีใครดีบริสุทธิ์ชนิด
ที่ไม่เคยทำความผิดเลย คนเลวก็ใช่ว่าจะไม่เคยทำความดีมาเช่นเดียวกัน บางคน
อาจจะทำความดีมาตลอด

แต่จากความจำเป็นบังคับหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ กระทำความผิดโดยไม่เจตนา ศาล
ก็ยังลดหย่อนผ่อนโทษให้ ดังนั้น
บางคนที่มีอำนาจขึ้นมาก็ขอให้อย่าตัดสินใจมองคนในภาพที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า
ขอให้มองไปถึงภูมิหลังที่คนเหล่านั้นเคยทำคุณงามความดีมาบ้าง
ถ้ายกโทษอภัยได้โดยที่ไม่มีใครเดือดร้อน
อภัยได้ก็อภัยเถอะครับ สังคมที่รู้ความจริงจะไม่ตราหน้าว่าเราไม่
ยุติธรรม แต่กลับจะสรรเสริญเยินยอเสียอีก ดังนั้น
ในช่วงนี้ขอให้คนมีอำนาจพยายามทำความเป็นจริงให้ปรากฏ
มิฉะนั้นสังคมจะตราหน้าเป็นคนที่ไม่มีความจริงใจและพากันออกมาขุดคุ้ย ออกมา
ประจานความไม่ถูกต้องชอบธรรม สังคมก็อาจจะเกิดความสับสนวุ่นวาย เกิดการ
ทะเลาะเบาะแว้งกันได้อีกชนิดที่ว่าผลประโยชน์เกิดขัดกัน ก็บรรลัยกันไปข้าง
หนึ่ง

ช่วงระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายน 2554 ถึงวันที่ 6 ธันวาคม 2554
เป็นเดือนที่ 10 คือเดือนกุน ธาตุดิน สภาวการณ์ของสังคม การเมือง
และเศรษฐกิจโดยทั่วไปในช่วงระหว่างเดือนนี้
เมื่อมรสุมผ่านไป ท้องฟ้าก็แจ่มใส แต่ก็มักจะทิ้งซากของความปรักหักพังเอา
ไว้ให้ต้องคลี่คลาย สะสาง
ยุ่งวุ่นวายอยู่พักใหญ่ บางคนเสียหายน้อยก็ทำใจได้ ซ่อมแซมกันไป
แต่บางคนมีการสูญเสียมากชนิดที่หมดเนื้อหมดตัว
หมดญาติพี่น้องก็ต้องทำใจ เริ่มต้นกันใหม่ อย่าเพิ่งท้อแท้หมดกำลังกายกำลัง ใจ
คนข้างตัวที่ยังอยู่ก็ควรให้กำลังใจ ช่วยกันประคบประหงม
วันหนึ่งในอนาคตบุคคลเหล่านั้นอาจจะเป็นกำลังสำคัญในการกลับมาช่วยตัวเรา
หรือช่วยกันกอบกู้บ้านเมืองในอนาคตได้
ดังนั้นเมื่อบ้านเมืองเริ่มดูทีท่าว่าจะมีความสงบสุข ทุกอย่างกำลังเดินไป
สู่ทิศทางที่ดี ขอให้ผู้ที่มีบทบาทกับบ้านเมืองเร่งดำเนินการทุกอย่าง
ให้พุ่งไปสู่จุดหมายปลายทางที่ได้ตั้งเอาไว้ในด้านที่ดี ก็จะได้รับการตอบ
รับจากสังคม ส่งผลให้ทุกคนทุกฝ่ายเริ่มมีความมั่งคั่งมั่นคง
มีกำลังใจในการประกอบธุรกิจ และในการดำรงชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ได้อย่างสบายใจ
ถึงแม้จะเป็นช่วงขณะหนึ่งก็ยังดี

ช่วงระหว่างวันที่ 7 ธันวาคม 2554 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2555 เป็นเดือนที่
11 คือเดือนชวด ธาตุทอง สภาวการณ์ของสังคม การเมือง
และเศรษฐกิจโดยทั่วไปในช่วงระหว่างเดือนนี้
ภูเขายิ่งสูง ยิ่งมีคนอยากที่จะปีนขึ้นไปทำลายสถิติ ฉันใดก็ฉันนั้น ในวงสังคม
ธุรกิจ การเมือง
ทุกคนก็อยากที่จะก้าวไปสู่จุดสูงสุดของชีวิตทั้งสิ้น แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะ
สามารถก้าวไปถึงจุดนั้นได้ทุกคน มิฉะนั้นก็จะมีแต่คนร่ำรวย มีแต่คนที่ประสบ
ความสำเร็จแล้วทั้งนั้น บางคนตั้งเป้าหมายไว้ แต่ก็ไม่ได้เริ่มต้น
บางคนเริ่มต้นแล้วแต่มีอุปสรรค แต่บางคนก็ไปไม่ถึงเพราะกำลังกาย
กำลังใจตัวเองไม่มี ต้องหยุดลงกลางคัน แต่ทว่าบางคนพยายามเกาะคนอื่นไป
พอจะถึงจุดหมายปลายทางก็เตะตัดขาคนที่พาเราขึ้นมาให้ล้มลงไป
เพื่อตัวเองจะได้เดินไปสู่จุดหมายปลายทางเพียงคนเดียว
ดังนั้นเมื่อบ้านเมืองเริ่มสงบนิ่ง ทุกอย่างเริ่มดำเนินไปได้ด้วยดี ก็จะมี
คนที่อยากจะมายืนเสวยสุขบ้าง ก็พยายามออกมาสร้างกระแสที่ไม่ดี ตีไข่ใส่สี
วิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง
ไม่ว่าเกิดจากพรรคพวกฝ่ายเดียวกัน หรือจากฝ่ายตรงข้ามที่หมดบทบาท
หมดอำนาจไป มีการโยนหินถามทาง ออกมายุแยงตะแคงรั่ว
ให้คนที่ไม่ได้รับผลประโยชน์เหมือนตัวเองออกมาร้องบอกร้องขอส่วนแบ่ง
จนกระแสข่าวที่ไม่ค่อยดีกระจายออกไปทั่ว ทำให้สังคมเกิดความวุ่นวายสับสน
จนไม่รู้ว่าเรื่องไหนจริงหรือเท็จ
แต่ถ้าผู้ที่มีอำนาจรู้จักออกมาควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างก็จะค่อยๆ
สงบลงได้ในระยะหนึ่ง

ช่วงระหว่างวันที่ 6 มกราคม 2555 ถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555
เป็นเดือนที่ 12 คือเดือนฉลู
ธาตุทอง สภาวการณ์ของสังคม การเมือง และเศรษฐกิจโดยทั่วไปในช่วงระหว่าง
เดือนนี้ คนเรานั้น ใครให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นจะถึงตัว
จะเป็นช่วงระยะเวลาที่กรรมจะเริ่มสนองกรรม
ถ้าใครทำกรรมดีไว้คุณงามความดีก็จะสนองตอบให้ได้รับแต่สิ่งที่ดีๆ แต่เมื่อ
ได้ดีแล้วและเป็นใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ขอให้พยายามหมั่นทำความดีให้มากขึ้นไป
เรื่อยๆ อย่าเหลิงลมกับคำชื่นชมยินดีจนลืมตัว และไปทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
เมื่อเป็นเช่นนั้นสักวันหนึ่งเราก็จะตกลงมาสู่ที่เดิม ถ้าขึ้นไม่สูงมาก
เวลาตกก็ไม่เจ็บนัก แต่ถ้าขึ้นสูงมาก แล้วตกลงมาก็อาจจะแข้งขาหัก
ถึงแก่ชีวาวายชนิดที่เราได้เห็นมามากต่อมากแล้วในอดีตที่ผ่านมาซึ่งถ้า
หากว่าใครทำกรรมชั่ว ก็ต้องรับเคราะห์กรรมในสิ่งที่ตัวเองทำเอาไว้ คนเราที่
เกิดมาทุกคนในโลกใบนี้ ต่างหนีกฎแห่งกรรม
หรือการกระทำของตัวเองไม่พ้นหรอกครับ ไม่ชดใช้ชาตินี้ก็ชาติหน้าแน่นอน
หรือไม่เช่นนั้นก็ตกแก่ลูกหลาน
ที่ต้องรับกรรมในการถูกตราหน้าแทนบุพการีที่ได้ทำเอาไว้
แต่ถ้าหากว่าบุคคลเหล่านั้นได้รับผลกรรมจากการกระทำของตัวเองแล้ว เมื่อพ้น
ผิดออกมา สังคมก็ควรให้อภัย ควรให้โอกาสคนเหล่านั้นกลับตัวกลับใจ อย่าไปตรา
หน้าว่าเป็นคนที่ไม่ดีอยู่ร่ำไป ก็จะส่งผลให้ภาพรวมของเศรษฐกิจ สังคม
การเมืองของเมืองไทยเราในปีต่อๆ ไป ทุกอย่างจะค่อยๆ
เคลื่อนตัวไปในด้านที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นส่วนใหญ่.

ไม่มีความคิดเห็น: