ทำไม Rapaport ถึงมีความสำคัญกับคุณเวลาซื้อเพชรหรือคะ….เพราะว่าสำหรับเพชรที่มีใบเซอร์ นั้น ร้านขายเพชรหรือผู้ขายเพชรจะยึด Rapaport ในการคำนวณราคาเป็นหลักค่ะ วันนี้ Lamour Diamond จึงอยากจะบอกวิธีการดู Rapaport สำหรับผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยหรือผู้ที่ไม่รู้จักนะคะ
เกร็ดเล็กน้อยสำหรับ Rapaport ค่ะ
1. ราคา “Rapaport” แบ่งได้ 2 ชนิดนะคะ ใบราคาสำหรับเพชรกลม “ROUND” และราคาสำหรับเพชรรูปทรงแฟนซีต่าง ๆ “PEARS”
2. ราคาที่ระบุในตาราง Rapaport นั้นจะระบุเป็นราคา US Dollar
3. ราคาที่ระบุในตารางถูกย่อไว้ ถ้าต้องการราคาจริงต้องคูณด้วย 100 ก่อนนะคะ
สมมุติ ในใบราคาเขียนไว้ 80 ต้องนำตัวเลขนั้นมาคูณด้วย 100 ก่อน จะได้ราคาจริงๆคือ 8,000 usd ค่ะ
4. Rapaport มีลักษณะเป็นตารางแบ่งแยกตามช่วงน้ำหนักของเพชร เช่น (1.00-1.49 CT),(1.50-1.99 CT) เป็นต้น
5. ตัวเลขที่เป็นตัวหนา (bold) จะแสดงว่ามีการเปลี่ยนแปลงราคาจากครั้งก่อนนะคะ
ขั้นตอนและตัวอย่างการดู Rapaport นะคะ
มาลองดูตัวอย่างกันนะคะ สมมุติว่าอยากทราบราคาเพชรกลม ขนาด 1กะรัต สี F ความสะอาด VS1
1. ให้ดูวันที่ว่า Rapaport ใบนี้อัพเดทล่าสุดหรือไม่นะคะ
2. ให้ดูว่าใบราคานี้แสดงราคาเพชรกลม (Rounds) อยู่นะคะ
3. ให้ดูหัวตาราง (สีดำทึบ) ที่แสดงน้ำหนักเพชร 1.00-1.49CT จากรูปจะเป็นตารางทางด้านขวานะคะ
4. เสร็จแล้วให้ดูตัวอักษรทางด้านซ้ายในตารางอันนั้น แล้วเลือกดูตัวอักษร F คือสีที่เราต้องการ
5. ให้เลือกเกรดความสะอาดที่เราต้องการทางด้านบนของตารางอันนั้น ในที่นี้เราเลือก VS1 นะคะ
6. เสร็จแล้วให้เราหาตัวเลขที่ ช่องตัวอักษร F ทางด้านซ้าย และ ช่องตัวหนังสือ VS1 ตัดกัน ในที่นี้จะได้ตัวเลข 96
7. นำตัวเลข ที่ได้มาคูณด้วย 100 นะคะ 96×100 = 9,600 ก็จะได้ราคาเป็น ดอลล่าร์ นะคะ
8. สุดท้ายแล้ว นำราคามาคูณด้วย อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท ก็จะได้ราคาตลาดกลางของเพชรเม็ดนี้เป็นบาทแล้วค่ะ 9,600×30 = 288,000 บาทต่อกะรัตค่ะ
ที่นี้คุณก็จะรู้แล้วว่าโดยปกติร้านขายเพชรหรือผู้ขายเพชรแต่ละร้าน จะขายเพชรโดยให้ส่วนลดกับลูกค้าแตกต่างกันไป โดยอ้างอิงราคาจาก Rapapot เป็นหลักนะคะ ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น