20 มี.ค. 2553

สุขภาพในช่องปากเกี่ยวข้องกับปัญหาการสูญเสียความทรงจำอย่างไร?


ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทันตแพทย์ผู้วิจัยเรื่องสุขภาพในช่องปากกำลังค้นพบว่า โรคเกี่ยวกับฟันและเหงือกมีความเกี่ยวข้องกับปัญหาทางสุขภาพอื่นๆ มากมาย ตั้งแต่โรคหัวใจไปจนถึงการคลอดก่อนกำหนด และโรคแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ ล่าสุดงานวิจัยบางชิ้นพบว่า สุขภาพในช่องปากนั้นมีความเกี่ยวข้องกับปัญหาการสูญเสียความทรงจำด้วย


เมื่อแก่ตัวลง ฟันฟางของคนเราก็เริ่มหลุดร่วง เช่นเดียวกับความทรงจำที่ค่อยๆ เลือนหายไปเมื่อกาลเวลาล่วงเลย แล้วทั้งสอง 2 สิ่งนี้มีอะไรเกี่ยวข้องกันหรือไม่ นั่นเป็นคำถามที่นักวิจัยพยายามค้นหาคำตอบ

นายแพทย์ริชาร์ด เคราท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเหงือก แห่งวิทยาลัยแพทย์มหาวิทยาลัยเวสท์ เวอจิเนีย เล่าว่า คนไข้สูงอายุของเขาหลายคนที่สูญเสียความทรงจำ มักจะมีสุขภาพฟันและเหงือกที่ไม่ดีนัก และบ่อยครั้งที่คนไข้เหล่านั้นหลงลืมการดูแลสุขภาพช่องปากขั้นพื้นฐานครับ

คุณหมอบอกว่า ผู้ป่วยโรคความจำเสื่อม หรือจิตเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ อาจจะลืมแปรงฟันหรือขัดฟัน แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ มีความเกี่ยวข้องระหว่างการสูญเสียความทรงจำระดับที่ไม่รุนแรง กับโรคในช่องปากอย่างแน่นอน นายแพทย์เคราท์ และลูกศิษย์ได้ตรวจสอบข้อมูลจากสถาบันวิจัยแห่งชาติอเมริกัน และเก็บตัวอย่างสุขภาพฟันของคนไข้พบว่า ผู้ป่วยโรคเหงือกและฟันจะทำคะแนนได้ต่ำกว่า ในการทดสอบวัดประสิทธิภาพความทรงจำและการรับรู้

คุณหมอเคราท์ตั้งสมมติฐานว่า การติดเชื้อในช่องปากโดยเฉพาะโรคเหงือกที่รุนแรงขึ้น ก่อให้เกิดเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของอาการอักเสบลุกลามไปยังส่วนต่างๆ ของสมอง ซึ่งเป็นส่วนที่เชื่อว่าควบคุมความทรงจำ อย่างไรก็ตาม นักวิจัยผู้นี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า อาการใดน่าจะเกิดก่อนระหว่างการสูญเสียความทรงจำ กับโรคในช่องปาก จึงยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในระยะยาวทั้งเรื่องโรคเยื่อหุ้มฟันอักเสบ และโรคความจำเสื่อม

ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเหงือกผู้นี้บอกว่า หลังจากทดสอบทั้งในด้านทันตกรรม โรคเหงือกและฟัน และทดสอบความทรงจำของคนไข้กลุ่มตัวอย่างแล้ว จึงจะสามารถทำการเก็บข้อมูลในขั้นต่อไป เช่น การทดลองโดยมอบแปรงสีฟันไฟฟ้าให้แก่ผู้ป่วยโรคความจำเสื่อมบางคน เพื่อให้รักษาความสะอาดของช่องปากได้ดียิ่งขึ้น แล้วติดตามผลในระยะยาว เปรียบเทียบกับผู้ป่วยที่ใช้แปรงสีฟันธรรมดาเพื่อดูว่า ความสามารถด้านการจดจำของกลุ่มตัวอย่างกลุ่มแรกว่าพัฒนาขึ้นหรือไม่ อย่างไร.

ไม่มีความคิดเห็น: