18 ส.ค. 2553

10 หนทางสู่ความสำเร็จจากนักธุรกิจดัง

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท อมรินทร์พรินติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง ได้จัดงานเปิดตัวหนังสือ ทรัมป์ 101 หนทางสู่ความสำเร็จ ของ โดนัล เจ.ทรัมป์ ในงานดังกล่าวได้เชิญแขกรับเชิญผู้เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน มาถ่ายทอดประสบการณ์และแนวทางในการดำเนินธุรกิจตามแบบฉบับของตนเอง ซึ่งในเนื้อหาการเสวนาดังกล่าวมีข้อมูลที่น่าสนใจอยู่หลายประการ

โดยนักธุรกิจที่มากประสบการณ์คนแรกที่จะมาเปิดเผยเคล็ดลับในการทำงานให้ประสบความสำเร็จของเขานั้นมีอะไรบ้าง คือ ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป กล่าวถึงแนวคิดในการทำงานจนประสบความสำเร็จอย่างเช่นในทุกวันนี้ว่า กว่าที่จะมาถึงวันนี้เขาเคยล้มเหลวมาหลายครั้ง และเคยท้อถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่รูปไม่หล่อ พ่อไม่รวย แถมเรียนไม่เก่ง ด้วยความที่ชีวิตไม่มีความพร้อมเลยสักอย่าง จึงทำให้ต้องมีมานะอดทน และต้องขยันให้มากกว่าคนอื่น เขาทำงานตั้งแต่เวลา 07.00-20.00 น. ต้องทำงานให้มากกว่าคนอื่นจะได้รู้มากกว่าคนอื่น เชื่อว่าถ้ามีมานะอดทน มุ่งมั่น แล้วแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ให้ตัวเองอยู่เสมอ ก็จะประสบความสำเร็จได้ ต้องค้นหาตัวเองให้เจอ หลังจากล้มเหลวมาเมื่อสมัยหนุ่มๆ หลังจากนั้นเขาขอเวลาตัวเองลุกขึ้นสู้อีกครั้งเมื่อวัยเกือบ 30 ปี เป็นเวลาหลายปีกว่าที่เขาจะเริ่มประสบความสำเร็จได้ เพราะความสำเร็จไม่ได้หล่นจากฟ้า อยากได้ต้องสร้างเอาเอง ดังนั้น คาถาประจำใจของ ตัน ภาสกรนที ก็คือ

1. มุ่งมั่น ขยัน อดทน
2. มีทัศนคติในเชิงบวก
3. เชื่อมั่นในตนเอง
4. แสวงหาโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ
5. ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ล้มเหลวแต่ไม่ล้มเลิก

คนต่อมาคือนักธุรกิจคลื่นลูกใหม่มาแรงที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดีก็คือ ดาราหนุ่ม โก้-ธีรศักดิ์ พันธุจริยา เจ้าของธุรกิจ โครี่ ซีรั่ม ที่เปิดเผยถึงมุมมองและแนวทางในการดำเนินธุรกิจ จากจุดเริ่มต้นที่แตกต่างสู่ตำแหน่งผู้บริหารและเจ้าของธุรกิจ ในวัยไม่ถึง 30 ปี กล่าวว่า เขาเองก็เกิดมาในครอบครัวปานกลางไม่ได้ร่ำรวย ดังนั้นก็ต้องช่วยตัวเองพอสมควร โดยมีแนวคิดในการทำงานว่า

1. ต้องทุ่มเทให้มาก
2. ภาวะผู้นำต้องมีอยู่เสมอ
3. คิดให้ใหญ่ ฝันให้ไกล อย่าพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่
4. แสวงหาความรู้อยู่เสมอ
5. อย่าติดกับความสบาย ถ้ารักสบายจะนิ่งอยู่กับที่

นอกจากนี้ ในการเสวนายังได้นำเนื้อหาบางส่วนของหนังสือมากล่าวถึงอย่างน่าสนใจว่า การจะประสบความสำเร็จในโลกธุรกิจนั้น แค่ความคิดดีๆ และการทุ่มเทให้กับการทำงานหนักยังไม่พอ คุณต้องมั่นใจ มั่นคง หนักแน่น ไม่ย่อท้อ ใฝ่รู้ ยืดหยุ่น กระตือรือร้น อดทน และรักในสิ่งที่คุณทำ ถ้าคุณเกิดมาพร้อมคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้นแค่เพียงไม่กี่ข้อ อย่าเพิ่งท้อใจไป อีกไม่กี่ข้อที่เหลือคุณสามารถสร้างเองได้ และต้องสร้างให้ได้ โดยสามารถเรียนรู้จากหนังสือ How To ต่างๆ หรือเรียนลัดจากนักธุรกิจที่เขาประสบความสำเร็จแล้ว

1.อย่าเสียเวลากับงานที่คุณไม่รัก

ถ้าจะให้ดีต้องเริ่มทำงานจากสิ่งที่รักเสียก่อน เลือกทำเฉพาะสิ่งที่รักเท่านั้นแล้วจะได้เปรียบ มีความสุขในสิ่งที่เลือกแล้ว หากได้ทำงานที่รักจะรู้สึกมีความสุข มีความกระฉับกระเฉง และทำมันได้ดีขึ้นๆ เพราะเหมือนกับการได้ฉีดสารกระตุ้นจากความกระตือรือร้นและความปรารถนาอันแรงกล้าในตัวเอง คุณจะไม่รู้สึกว่าคุณกำลังทำงาน และสร้างแรงจูงใจให้ทำงานได้อย่างสุดความสามารถทีเดียว

ทรัมป์เองได้เคยกล่าวไว้ในหนังสือของเขาว่า ความรู้สึกรักหรือหลงใหลในสิ่งที่กำลังทำ คือสิ่งที่สำคัญมากที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้อย่างยาวนาน จากประสบการณ์ของเขาเองนั้น มันทำให้เขารู้ถึงความสำคัญในข้อนี้ได้ดี เพราะถ้าไม่ชื่นชอบในสิ่งที่ทำ ในที่สุดจะล้มเหลวไม่เป็นท่า หรืออย่างดีที่สุดก็คือคุณจะกลายเป็นแค่คนทำงานธรรมดาๆ เท่านั้น จะไม่ได้ชีวิตการทำงานที่ยิ่งใหญ่ แต่ถ้าได้ทำงานที่รัก ชอบ ความทุ่มเทสุดตัวก็เกิดขึ้น ทำงานให้เต็มที่เพื่อที่จะเป็นมนุษย์ทำงานที่ยิ่งใหญ่ เพราะความรู้สึกหลงใหลในสิ่งที่ทำจะเป็นแรงผลักดันที่สำคัญที่ทำให้งานประสบความสำเร็จ คุณจะไม่ยอมแพ้และรู้สึกเหน็ดเหนื่อย

2.ตั้งมาตรฐานให้สูง

ถามตัวเองว่าอะไรคือมาตรฐานของสิ่งที่ต้องการให้ใครๆ รู้จัก บอกตัวเองให้ได้ว่ามาตรฐานนั้นอยู่ตรงไหน และทำให้ได้ตามนั้น อย่าหลอกตัวเอง จงตั้งมาตรฐานให้สูงเข้าไว้ แล้วใช้เวลาไตร่ตรองสิ่งที่มุ่งหน้าจะทำ เปิดกว้างรอรับความคิดเห็นใหม่ๆ และสิ่งที่จะมากระทบ สิ่งที่คาดหวังต้องยืดหยุ่นได้ ไม่ใช่คงที่ตายตัว ค้นให้พบว่าใครหรืออะไรที่เป็นสุดยอดในสายตาของคุณ ใครคือผู้นำ ใครคือผู้กำหนดแนวทาง ใครคือผู้ทรงอิทธิพล อะไรคือสาเหตุที่พวกเขาเป็นที่หนึ่งได้ ศึกษามาตรฐานของเขา

หาให้ได้ว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องเรียนรู้ หรือต้องทำเพื่อให้กลายเป็นที่หนึ่งในสายงานที่สนใจ หาทางที่จะเข้าอบรม พบปะผู้คน ไปเป็นเด็กฝึกงาน หาประสบการณ์ที่จำเป็นต้องมีเพื่อจะทำเป้าหมายให้ลุล่วงได้ ให้เวลาตัวเองที่จะรับทุกอย่างเข้ามา ค่อยๆ เพิ่มพูนและรู้จักมันอย่างทะลุปรุโปร่ง มองหาแนวคิดดีๆ จากนอกสายงานที่ถนัด หาสิ่งแปลกใหม่ วิธีใหม่ๆ และฝึกฝนจนสามารถปรับมันให้เข้ากับสายงานของคุณได้

ทรัมป์ได้แนะนำไว้ว่า “ในทุกสิ่งที่คุณกำลังดำเนินอยู่ ถามตัวเองว่า ฉันจะทำให้ดีขึ้นได้อย่างไร ฉันจะให้มีคนพูดถึงฉันมากกว่านี้ได้อย่างไร จะทำให้มันสะท้อนส่วนที่ดีกว่าของฉันได้อย่างไร ถ้าหาคำตอบได้ครบจากนั้นก็ลุยเลย”

3.ดื้อดึงสู้ตาย อย่าย่อท้อ

แม้ว่าคุณจะไม่ได้เกิดขึ้นมาจากกองเงินกองทองก็ไม่ได้เป็นข้อจำกัดการไปให้ได้ไกลที่สุด จงยอมรับและชื่นชมแม้ว่าคุณจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ลองหาข้อดีให้เจอแล้วทำให้เป็นข้อได้เปรียบ เช่น มีการศึกษาที่ดี มีครอบครัวที่อบอุ่น มีความแน่วแน่ มุ่งมั่น ไม่ลดละ คุณสมบัติเหล่านี้ก็มากพอที่จะช่วยให้สำเร็จได้

4.หากไร้ซึ่งความรู้ ความสามารถ ก็หมดโอกาส

จงไขว่คว้าหาความรู้ เรียนรู้ทุกอย่างเท่าที่ทำได้จากแต่ละโครงการที่คุณรับผิดชอบ หากเข้ามาในสนามการทำงานที่ไม่รู้มากพอ จะเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา เปรียบเหมือนการแข่งกีฬาโดยไม่รู้กติกาของเกม คุณจะมีแต่เสียเปรียบ ศึกษาธุรกิจของตัวเองให้รอบด้าน ทุกธุรกิจมีความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงจะน้อยลงมากหากเรียนรู้ทุกด้านของสิ่งที่กำลังทำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แสวงหาความรู้ให้มากเพื่อจะได้ตัดสินใจได้ดีขึ้นและกลายเป็นคนเก่งขึ้นได้ในที่สุด ใครก็อยากคุยกับคนเก่งมากกว่า เมื่อเป็นคนมีความรู้คุณจะกลายเป็นคนน่าสนใจและได้รับความเอาใจใส่มากขึ้น จงเริ่มแต่เนิ่นๆ และหมั่นศึกษาอยู่เสมอไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ หรือจะประสบความสำเร็จแค่ไหน เมล็ดพันธุ์แห่งความรู้เติบโตได้ในทุกแห่งหน

5.ทำงานกับคนที่คุณชอบ

หากเราได้ทำงานกับคนที่เราชื่นชอบเราจะรู้สึกมีความสุขมากขึ้น และทำให้อายุการทำงานในสถานที่นั้นๆ นานขึ้น หลายคนชื่นชอบในหัวหน้างาน เจ้าของบริษัท และทำงานอยู่ด้วยกันเป็น 10 ปี หรือ 20 ปี ถ้าไม่ศรัทธาในกันและกันคงทนกันไม่ได้นานขนาดนี้ ดังนั้นให้กำหนดตัวอย่างในการทำงานและสรรหาบุคคล เพื่อที่คุณจะได้ดึงดูดคนที่เหมาะสม นั่นคือวิธีที่ดีที่สุดที่จะได้ทำงานกับคนที่ชอบ องค์กรส่วนใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องมีความหลากหลาย ซึ่งดีกว่ามีคนที่มีพื้นฐานเหมือนกันไปหมด ความแตกต่างดังกล่าวนำมาซึ่งความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ และเพิ่มความเข้าใจให้กับงาน

6.จงว่ายทวนน้ำ

พื้นที่ที่สะดวกสบายมากเกินไปสามารถลากคุณให้ลงไปสู่จุดที่อยู่ใต้น้ำได้ เพราะเผลอกับความสบายมากเกินไป ดังนั้นกระแสไฟของคุณอาจไหลดีขึ้นหากเปลี่ยนเต้าเสียบเสียใหม่ให้ลงตัวกว่าเดิม มันง่ายที่จะเดินตามเส้นทางสายเก่าและไม่ก่อคลื่นลูกใหม่ แต่วิธีง่ายที่สุดสามารถทำให้เรากลายเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีไฟไปได้ แค่นั่งหวังลมๆ แล้งๆ ว่าทุกอย่างจะดีขึ้นจะกลายเป็นการดับฝันคุณได้ ไม่เป็นไรถ้าคุณไม่ชอบความท้าทาย ความสบายจะกลายเป็นหลุมพรางที่หลอกล่อให้อยู่กับที่ มันทำให้ขี้เกียจ ไม่อยากก้าวไปข้างหน้า แต่ในโลกธุรกิจความสบายใจจะฉุดรั้งให้หยุดอยู่กับที่ อย่ากลัวที่จะเสี่ยง ทำสิ่งที่คุณรักและชอบแล้วกำหนดทิศทางของคุณเอง ถามตัวเองเสมอๆ ว่ากำลังทำสิ่งที่คุณรัก อยากทำ และมันคือสิ่งที่ใช่สำหรับคุณหรือเปล่า ไม่ต้องสนใจความคาดหวังของคนอื่นแต่สู้กับความต้องการของตัวเอง แต่ก่อนตัดสินใจให้ดูสถานการณ์ให้ดีก่อนทุ่มเทไปอย่างเต็มตัว

7.เงินไม่ใช่บรรทัดสุดท้ายเสมอไป

ในโลกแห่งความเป็นจริง พวกเราส่วนใหญ่ต้องการหาเงินกันทั้งนั้น แต่ก็ยังมีจุดประสงค์อื่นที่สำคัญไม่แพ้เงิน หรือสำคัญกว่า เช่น แรงกระตุ้นและความพอใจที่เราได้จากการทำงาน รวมทั้งความท้าทายของมัน การได้สร้างโอกาสที่จะเรียนรู้ เติบโต และติดต่อกับคนที่โดดเด่น เพราะการเดินทางสายอาชีพของเรานั้นเป็นการลงทุนระยะยาวที่จะทำให้คุณมีอะไรทำไปตลอดชีวิต จงสร้างอนาคตและใคร่ครวญถึงวัตถุประสงค์มากกว่าแค่ก้มหน้าก้มตาหาเงินอย่างเดียว คิดถึงชื่อเสียงของคุณ และบริษัทของคุณ หาเพื่อนใหม่ สร้างความสัมพันธ์กับองค์กรและชุมชน ลงทุนกับความพอใจส่วนตัวที่งานสามารถนำมาให้ได้ คนที่คิดว่าเงินบันดาลทุกสิ่ง อาจถูกมองว่าทำทุกอย่างเพื่อเงิน

8.รอจังหวะที่เหมาะสม

ความสำเร็จในชีวิตหรือหน้าที่การงานในหลายๆ ครั้ง เป็นเรื่องของจังหวะและความอดทน เพราะจังหวะคือทุกสิ่ง ทุกวันนี้มีบริษัทคู่แข่งมากมายที่ทำธุรกิจเดียวกับคุณ แต่การมาอย่างถูกจังหวะย่อมดีกว่าการเป็นรายแรกเสมอไป เช่นเดียวกับการเลือกโอกาสที่เหมาะสม เพราะวัตถุประสงค์ในการทำธุรกิจก็คือทำให้สินค้าติดตลาดขายดีและอยู่รอด ถ้าคิดว่าทำให้เร็วก็อาจจะไปเร็วได้เช่นกัน ฉะนั้นจงรอคอยจังหวะและโอกาสที่เหมาะสมด้วย คิดถึงแผนระยะยาว มีความอดทนและทำงานอย่างมีวินัย

9.หลีกเลี่ยงรูปแบบที่ตายตัว

รู้จักเปิดกว้างและยืดหยุ่นในการทำงาน บ่อยครั้งที่ต้องทำงานอย่างมุ่งมั่นและดันทุรังบ้าง แต่คุณต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ควรเปลี่ยน และเมื่อไหร่ควรยืดหยุ่นได้ ถ้าจะทำเฉพาะสิ่งที่ตายตัวมันอาจจำกัดตัวคุณ และอนาคต ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ และไม่มีอะไรที่เป็นไปตามแผนทั้งหมด ดังนั้นหากมีอะไรต้องเปลี่ยนแปลง อย่างที่มันน่าจะเกิด ก็ต้องปรับตัว เปลี่ยนแปลง และบางครั้งอาจต้องวกกลับเลยก็ได้

10.ความเร็วชนะในการแข่งขัน

ทุกธุรกิจไม่มีเวลามากพอสำหรับคนที่พูดจาเรื่อยเปื่อยไม่เข้าประเด็น ไม่ว่าคุณจะทำอะไร จงทำให้สั้น กระชับ ฉับไว และตรงประเด็น การพูดจาที่สั้นกระชับได้ใจความเป็นวิธีที่สุภาพ เพราะมันแสดงว่าคุณให้เกียรติเวลาของคนอื่น เพราะเวลาที่คนต้องฟังอะไรที่ยืดยาวไม่ได้ความ จะทำให้เขาอึดอัด เบื่อหน่าย และมีหลายครั้งพวกเขาไม่ฟังสิ่งเหล่านั้นเลย กำหนดระยะเวลาให้ตัวคุณเอง ฝึกนำเสนองานหรือรายงานให้จบได้ภายใน 5 นาที ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปให้หมด พูดให้ตรงประเด็น ถ้ามีคำถามพวกเขาจะถามคุณเอง ข้อมูลมากมายแต่ไม่ได้ใช้ก็ไม่มีสาระอะไร

ไม่มีความคิดเห็น: