31 ต.ค. 2550

เรื่องของดอกไม้ กับนายก้อนหิน

ผมรู้จักผู้หญิงคนหนึ่งด้วยความบังเอิญ แต่ผมบอกตัวเองว่า
เป็นเพราะพรหมลิขิต ผมพบเธอที่ริมบึงขนาดใหญ่หน้ามหาวิท
ยาลัย ขณะที่ผมกำลังไปวิ่งออกกำลังกาย เธอกำลังง่วนอยู่
กับผืนผ้าใบ และภาพอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ผมยาวที่ถูกรวบเป็นมวยด้านหลังถูกปักด้วยพู่กันอันโต แทนปิ่น
ปักผม เสื้อกล้ามตัวเล็กสีขาว สร้อยข้อมือเต็มแขนเล็กๆ
กางเกงยีนส์สีซีด และรองเท้าผ้าใบโทรมๆ เธอคงดูเป็นผู้
หญิงเรียนศิลปะที่เซอจนไม่น่าดู
หากไม่เพราะใบหน้าที่งดงามราวภาพวาดของจิตรกรเอกนั้น
เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่สวย หากไม่พิศมองอย่างดี แต่เธอก็ดูน่า
รักมากในสายตาผม ผมบอกตัวเองว่าหากผมวิ่งวนกลับมาอีก
รอบแล้วเจอเธอ ผมจะเข้าไปคุยด้วย



วันนี้ จู่ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาคุยกับฉัน เขา
เรียนวิศวะ ท่าทางเป็นหนุ่มเจ้าสำอางเชียว แต่ก็ดู
ท่าทางจะเป็นที่รู้จักในคณะน่าดูนะ เพราะตอนที่ช่วย
ฉันหอบอุปกรณ์วาดรูปมาส่งที่รถ มีรุ่นน้องมาทักเยอะ
เชียว



ยิ่งรู้จัก ผมยิ่งรู้สึกว่าเธอน่ารักครับ เธอเป็นรุ่น
น้องผม 1 ปี แต่ก็ไม่เคยเรียกผมว่าพี่ซักคำ
เธอบอกว่า เรารู้จักกันในฐานะเพื่อน ไม่ใช่รุ่น
พี่ รุ่นน้อง เพราะเธอขี้เกียจนอบน้อมผม อย่าง
ที่รุ่นน้องในคณะเป็น
ก็แหม ผมเคยเป็นประธานเชียร์นี่ครับ รุ่นน้องก็
ต้องเกรงเป็นธรรมดา เธอเป็นผู้หญิงที่ใจดีมาก
ครับ ทุกวันเสาร์เธอจะไปสอนศิลปะให้เด็กกำพ
ร้า และวันไหนที่ว่างก็จะไปอ่านนิทานอัดเทปให้
เด็กๆ ตาบอด
ตอนนี้ผมมั่นใจแล้วครับว่าผมชอบเธอมาก แถม
ภูมิใจมากที่คนที่ผมชอบเป็นคนดีมากด้วย



เขาเป็นผู้ชายที่ใช้ได้ทีเดียวแหละ อย่างน้อยก็รู้จักเทคแคร์
ผู้หญิงมากกว่าเพื่อนที่คณะของฉันเยอะทีเดียว แล้วก็เป็นคน
มุ่งมั่นดี เขาตั้งใจเรียนมากเลยนะ ไม่เคยขาดเรียนเลย
เล่นเอาฉันรู้สึกผิด ที่โดดเรียนเป็นว่าเล่น แล้วก็เป็นคน
ขยันทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัย ซึ่งฉันไม่คิดจะทำ ต่างกัน
จริงแหะฉันกับเขา



วันนี้เธอชวนผมไปขับรถเล่นครับ เธอบอกเธออยากไปอุทยานแห่งชาติแห่ง
หนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยของเรานัก แต่ก็เป็นร้อยกิโลเลยนะครับ
ผมมองมอเตอร์ไซต์เก่าๆ โทรมๆ ของผมแล้ว ก็ยากจะไปถึงครับ
เธอทำหน้าขรึมแล้วยื่นกุญแจรถของเธอให้ผม บ้านเธอรวยครับ เธอมีรถ
ยนต์ส่วนตัวใช้ ผมรู้สึกได้ทันทีว่าเธอกำลังไม่สบายใจ นั่งรถไปได้เดี๋ยว
เดียว เธอก็ร้องไห้โฮเลยครับ ผมเลยรู้ว่าเธอขี้แยไม่เบา
เรื่องของเรื่องที่เธอกลุ้มใจก็คือ ที่บ้านเธอไม่ยอมมาเยี่ยมเธอในวันนี้ตาม
ที่นัดไว้ครับ เพราะน้องชายไม่สบายนิดหน่อย ผมขำไม่ออก เพราะท่าทาง
เธอเสียใจกับเรื่องที่ผมเห็นเป็นสิ่งเล็กน้อยนี้มาก จึงได้แต่เงียบ แล้วก็
เล่าเรื่องของผมให้เธอฟังบ้าง



ฉันไม่กล้าฟูมฟายเลยทีเดียว เมื่อเขาเล่าเรื่องครอบครัวของเขาให้ฉั
นฟัง เขาเล่าให้ฟังว่าพ่อกับแม่ของเขาเลิกกัน และเขาก็ไม่เชิงว่า
ใครเลี้ยง เพราะอยู่กับพ่อบ้าง อยู่กับแม่บ้าง อยู่กับญาติบ้าง และแต่
ละที่ก็ไม่ใช่ที่ของเขา เพราะทุกคนต่างมีครอบครัวของตัวเอง อยู่ที่
ไหนเขาก็เหมือนเป็นแค่คนอาศัย
ตอนนี้เขาอาศัยการได้ทุนการศึกษาและค่าใช้จ่ายที่พี่สาวส่งให้นิดหน่อย
ดำรงชีวิต เพื่อก้าวไปยังเส้นทางที่สบายขึ้น ฉันทึ่งมากที่เขาเข้มแข็ง
และไม่ร้องไห้กับโชคชะตาของตนเอง ตั้งใจเรียน ไม่เกเร ฉันโชคดี
กว่าเขาเยอะมากทีเดียว สงสารเขาจังแหะ



เธอบอกผมว่า บางทีถ้าผมเสียใจ ผมควรจะร้องไห้
บ้าง เพราะถ้าไม่ร้องเสียบ้าง ความเสียใจต่างๆ
จะถูกสะสมเป็นตะกอนในหัวใจของผมเอง แล้วท้ายที่
สุด หัวใจผมจะกลายเป็นก้อนหิน แม้จะแข็งแกร่ง
และผมจะไม่มีวันเสียใจอีก
แต่มันจะทำให้คนใกล้ตัวผม บอบช้ำยามโดนผมกระทบ
ผมก็เลยบอกเธอว่า ผมเห็นเธอเป็นดอกไม้ของ
นายก้อนหิน ดอกไม้ที่ช่วยมาเติมความอ่อนหวานให้ก้อ
นหินที่ไม่ค่อยมีค่าก้อนนี้
สรุปแล้ววันนั้น เราก็ไปไหนไม่ได้ไกล เพราะทันทีที่
เห็นทุกนาเขียวขจีกว้างไกล เธอก็ขอให้ผมหยุดรถ
แล้วลงไปวิ่ง เหมือนไล่คว้าอะไรบางอย่าง เธอ
บอกว่า เธอกำลังวิ่งไล่จับความฝัน



วันนี้เขารับปริญญา ฉันอาสาเป็นตากล้อง ครอบครัวเขามีแม่มาแค่คน
เดียว แต่บ้านฉันมากันทั้งบ้านเลยแหละ พ่อแม่ และน้องชายฉันชอบ
เขามาก
ก็ดีแล้วล่ะ เพราะฉันอยากให้เขาได้รับความอบอุ่นในครอบครัวอย่างที่
ฉันได้รับมาเสมอบ้าง ฉันอยากให้เขามีความสุข เพราะความสุขของ
เขาก็เป็นความสุขของฉันเหมือนกัน
วันนี้เราสนุกสนานกันใหญ่ เหล่าเด็กอย่างพวกเราพาคนสูงวัย 3 คน
ไปปล่อยแก่กันในคาราโอเกะทั้งคืน ก็ไม่ได้จ่ายเองนี่ พ่อแม่มาทั้งที
แม่ของเขาเข้ากับแม่ของฉันดีทีเดียว



ผมได้ทุนจากมหาวิทยาลัยมาเรียนต่อที่ญี่ปุ่น เหงามากครับ ทั้งที่ผม
เคยชินกับความเหงามาตลอดชีวิต ก่อนที่จะพบเธอ ผมหลีกเลี่ยง
ความเหงาโดยการตั้งใจเรียน เวลาว่างก็ทำงานพิเศษ ผมเก็บเงิน
ได้ก้อนโตทีเดียวครับ คิดว่าพอเรียนจบกลับไปจะไปขอเธอหมั้นไว้ก่อ
น เธออีเมล์มาเล่าให้ฟังว่า เธอได้งานในบริษัทผลิตรายการโทรทัศ
น์แห่งหนึ่ง กำลังสนุกกับงาน



อีกไม่กี่เดือนเขาก็จะกลับมาแล้ว เห็นบอกว่าเอาแต่เรียนกับทำ
งาน จนไม่มีเวลาใช้เงิน แหมคงรวยใหญ่ ฉันเองก็กำลังสนุกกับ
งานที่ทำ อาจเหงาบ้าง แต่อีกไม่กี่เดือนคงหายเหงา พ่อเพิ่งซื้อ
คอนโดไว้ให้ กำลังตกแต่ง พ่อกับแม่วางแผนไว้เสร็จสรรพ ว่าพอ
เขากลับมาจะยัดเยียดลูกสาวให้ทันที แล้วให้ย้ายไปอยู่คอนโด
ใหม่ซะ พ่อกับแม่หาว่าอพาร์ทเม้นที่ฉันอยู่มันไม่ค่อยปลอดภัยสำหรับ
การอยู่คนเดียวนัก



วันนี้ผมได้รับจดหมายจากที่บ้านของเธอ เดาได้ว่าเธอคงยังไม่รู้
เรื่องแน่ๆ พ่อกับแม่ของเธอเขียนจดหมายมาบอกให้ผมกลับไปรับลูกส
าวไปจากอกท่านด่วน พร้อมกับซื้อคอนโดไว้เป็นค่าสินสอดให้แล้ว ถ้า
ผมจะเรียกร้องอะไรอีกก็ขอให้บอก ขอเพียงช่วยรับลูกสาวท่านไปเลี้
ยงดูแทนก็พอ พร้อมกับส่งเอกสารโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมาด้วย
ที่บ้านของเธอน่ารักอย่างนี้เสมอครับ ทั้งที่ผมเป็นคนอื่น แต่ท่านทั้งคู่ก็
เอ็นดูผมมากทีเดียว กลายเป็นว่าเงินทองที่ผมสะสมเพื่อขอเธอแต่งง
านก็อดใช้ครับ เก็บไว้ให้ลูกแทนละกัน
ตื่นเต้นครับ อีกไม่กี่วันผมก็จะได้กลับไปหาเธอแล้ว ดอกไม้ของผม



พรุ่งนี้เขาจะกลับมาแล้วล่ะ เดี๋ยวตอนเย็น ฉัน
จะออกไปหาซื้อข้าวของ และอาหารมาเตรียม
ไว้ทำให้เขากินพรุ่งนี้ เขาต้องแปลกใจมากแน่ๆ
ที่ฉันทำอาหารเป็นแล้ว หุหุ ใช้เวลาฝึกฝนแรมปี
เชียวนะ โอ๊ย ตื่นเต้นจังเลย แล้วพรุ่งนี้เจอกัน
นะ นายก้อนหินของฉัน
เราจะสมัครใจเป็นดอกไม้ที่อยู่ข้างก้อนหิน
เพราะดอกไม้สักแต่สวย หากแสนบอบบาง เรา
จะมีก้อนหินคอยดูแล ปกป้อง….
:
:
:



นายไม่ต้องห่วงหรอก ไปเรียนแค่ 2 ปี เราอยู่คนเดียวได้สบายมาก ถึง 2 ปีนี้ ดอกไม้จะไม่มี
ก้อนหินคอยดูแล ดอกไม้จะฮึดเอาความแข็งแกร่งทั้งหมดมาดูแลตัวเอง เพราะเมื่อก้อนหินกลับมา
ดอกไม้ก็ไม่ต้องมีความแข็งแกร่งก็ได้ ยังไงก็มีคนดูแลอยู่แล้ว
:
:
:
ผมไม่ได้ขอหมั้นเธอครับ ไม่มีงานแต่งงานเกิดขึ้นด้วย คอนโดก็ถูกขาย ผมย้ายไปอยู่ที่บ้านของ
เธอ กับพ่อแม่ และน้องชายของเธอ แต่… ไม่มีเธอหรอกครับ
เธอถูกวัยรุ่นเมายากลุ่มหนึ่งขับรถชนในวันที่ไปซื้อข้าวของเพื่อทำอาหารให้ผมครับ
แค่เสี้ยวเวลาเท่านั้น ที่ผมจะกลับมาดูแลเธอได้แล้วแท้ๆ ยังสายเกินไป ใครที่ยังมีคนสำคัญของ
หัวใจข้างกายอยู่
ดูแลเขาให้ดี ทุกวินาทีนะครับ เพราะเพียงพริบตาที่ไม่ได้ดูแล ลืมตาอีกครั้ง อาจไม่มีเขาให้ดูแล
แล้วก็ได้

ไม่มีความคิดเห็น: