7 ส.ค. 2552

โรคคอมพิวเตอร์ วิชั่น ซินโดรม

คนรุ่นใหม่ที่ต้องนั่งแกร่ว อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันวันละหลายๆ ชั่วโมง เสี่ยงต่อการเป็นโรคตาที่มีชื่อว่า "คอมพิวเตอร์ วิชั่น ซินโดรม Computer Vision Syndrome" โดยมีอาการ คือ ปวดเบ้าตา, ปวดต้นคอ, มีอาการอ่อนล้าทางประสาทตา, มีภาวะตาแห้ง รอยดำคล้ำบริเวณตา หรือมีรอยบวมเห็นเป็นถุงใต้ตาโปนออกมา นับเป็นปัญหาที่สร้างความกังวลให้กับคนทุกเพศทุกวัยอย่างมาก

สาเหตุหลักๆ นอกจากการใช้สายตาเพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ แล้ว ยังเกิดจากการได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดมากเกินไป และมีปัจจัยอื่นๆ เช่น กรรมพันธุ์ สภาพแวดล้อม อาหาร ความเครียด การลดลงอย่างฉับพลันของฮอร์โมน ฯลฯ

การรักษานั้น สมัยก่อนมักคิดถึงการผ่าตัด ซึ่งไม่เพียงแต่ความเจ็บปวดและมีค่าใช้จ่ายสูง แต่อาจจะคงสภาพได้เพียง 1-2 ปี พญ.พุธศิรินทร์ ชูจันทร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เปิดเผยว่า ล่าสุดเริ่มมีการคิดค้น วิธีรักษาด้วยตนเอง ด้วยการบำรุงผิวรอบดวงตาเพื่อชะลอความเสื่อมและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อิลาสติน ด้วยสารโปรตีนอนุภาคเล็กที่เรียกว่า Acetyl tetrapeptide 5 (อะเซ็ทติล เต็ตตร้า เปปไทด์ 5) ซึ่งในวงการแพทย์ใช้เป็นยาลดความดันเลือด แต่ปัจจุบันมีการนำมาใช้ในเครื่องสำอางบำรุงผิว เพราะมีการศึกษาวิจัยในยุโรปแล้วว่า สามารถช่วยลดการเกิดถุงใต้ตา รอยบวม ตลอดจนรอยคล้ำได้ เพราะช่วยปรับการไหลเวียนของโลหิตและน้ำเหลืองให้เป็นไปอย่างสมดุล อีกทั้งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้เซลล์ผิวแข็งแรงกระชับขึ้น และช่วยให้ของเสียถูกขับถ่ายออกจากเซลล์ผิวได้ดีขึ้น จึงช่วยลดการสะสมตัวของน้ำและไขมันที่อาจเกิดขึ้นรอบดวงตา

สำหรับ การแก้ไขขั้นต้น ควรเริ่มจากการปฏิบัติตัวใหม่ เช่น อย่าให้กล้ามเนื้อตาล้าเกินไป ด้วยการอย่านั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ให้พักสายตาทุก 15 นาที ด้วยการมองออกไปไกลๆ จะทำให้ดวงตาไม่เกิดอาการล้า พร้อมปรับแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้แสงพอเหมาะ อย่าขยี้ตา หากรู้สึกอ่อนล้าให้นวดคลึงเบาๆ และควรบริหารดวงตา เพื่อคลายความตึงเครียด ด้วยการกลอกตาไปรอบๆ เป็นวงกลม สัก 5-6 รอบ ใช้นิ้วนางทั้ง 2 นิ้ว แตะที่หัวตาแต่ละข้าง คลึงเบาๆ แบบกดจุดนาน 1-2 วินาที

ไม่มีความคิดเห็น: