14 ก.พ. 2553

"ข้อห้ามของการสร้างบ้าน ตอนจบ"

"ข้อห้ามของการสร้างบ้านทรงไทย"


ความเชื่อถือแต่โบราณและฤกษ์ยาม
ในการปลูกบ้านทรงไทย

การปลูกเรือไทย สำหรับเป็นที่อยู่อาศัย
เป็นประเพณีตามหมู่คนไทย
แต่ก่อนมักนิยมให้ความสำคัญ
กับฤกษ์ยามและความเชื่อต่าง ๆ
โดยซึ่งความเชื่อถือและฤกษ์ยาม
ในการปลูกบ้านทรงไทยในสมัยโบราณ
มีความเชื่อกันไปต่าง ๆ นานา
ซึ่งสืบทอดกันมา

ปัจจุบันการปลูกบ้านหรือเรือนไทย
ซึ่งมีการประยุกต์
ให้เข้ากับกาลสมัยและช่วงเวลาที่เหมาะสม
เนื่องจากอาชีพการงานและเวลารัดตัว
ก็มีการดัดแปลงไปบ้าง
บางคนก็อาศัย ฤกษ์สะดวก ก็มี

ส่วนความเชื่อถือแต่โบราณ
และฤกษ์ยามในการปลูกบ้านทรงไทย
พอจะสรุปได้ดังนี้

ความเชื่อถือแต่โบราณ
และฤกษ์ยามในการปลูกบ้านทรงไทย

ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนอ้าย
ย่อมจักได้เป็นเศรษฐีทรัพย์สินเพิ่มพูนมี
เพราะเดือนนี้ อุดมผล

ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนยี่
ทรัพย์สิงคลีมามากผล
เมื่อดิถีดูชอบกล ข้าศึกและแสนกล
มามากล้นพ้นศัตรู

ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนสาม
ภัยติดตามงามน่าดู
คนใจร้ายมันสู้
เมื่อถึงฤดูจักเกิดอันตราย

ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนสี่
ลาภมากมีสุขสบาย
ทุกข์โศกบรรเทาหาย
ความสบายเพิ่มพูนมา

ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนห้า
ทุกข์เท่าฟ้ามาถึงตน
ปลูกเดือนนี้ไม่มีผล
ทุกข์ล้นพ้นภัยมีมา

ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนหก
ทาหยิบยกไว้เหลือหลาย
ทรัพย์ศฤงคารบันดาลมามากมาย
อยู่สุขสบายทรัพย์เนืองนอง

ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนเจ็ด
ทรัพย์ระเห็จสิ้นทั้งผองทรัพย์สินที่ตนครอง
อัคคีภัยผยองมาเผาผลาญ

ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนแปด
จะร้อนแผดระทมหาญทรัพย์สินและบริวาร
จะทรยศหมดไป

ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนเก้า
ใจไม่เศร้าเกิดบรรเลง
ยศศักดิ์เกิดขึ้นเอง
ทั้งทรัพย์สินเพิ่มพูนมา

ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนสิบ
จักฉิบหายต้องขื่อคา
โรคภัยร้ายก้าวหน้า
อันตรายจะมาปะปน

ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนสิบเอ็ด
อันความเท็จจักมาสู่ตน
ปลูกเดือนนี้ไม่มีผล
ต้องผจญกับทุกข์ภัย

ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนสิบสอง
เงินแลทองจักเหลือหลาย
สรรพสัตว์แลวัวควาย
บริวารมากมายไหลเทมา

ข้อดีและข้อเสียของบ้านทรงไทย

ข้อดี

1. เป็นเรือนสำเร็จรูป
บ้านทรงไทยหรือเรือนไทย
เป็นเรือนสำเร็จรูป
เนื่องจากต้องปรุงเครื่องเรือน
เช่น เสา ฝา จั่วปั้น ระเบียง ประตูหน้าต่าง
ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน
แล้วจึงนำไปประกอบในสถานที่ปลูกสร้าง
ประกอบขึ้นเป็นตัวเรือนแล้ว
มุงหลังคาเป็นอันแล้วเสร็จ
หลังจากนั้นก็เก็บงาน ขัด ทาสี
พร้อมเข้าอยู่ได้

2. จะสร้างมากหลังหรือน้อยหลังก็ได้
สามารถต่อหรือขยาย บ้านทรงไทยออกไป
อีกกี่หลังโดยไม่จำกัด
ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่

3. แสดงออกถึงวัฒนธรรมไทย
นับได้ว่า
เป็นคนไทย
ที่ช่วยอนุรักษ์รักษาวัฒนธรรมไทย
ไว้ปรากฏแก่ลูกหลานสืบไป
หากปลูกแต่บ้านสไตล์ยุโรป
หรือแนวตะวันตก
บ้านเรือนไทยซึ่งเป็นวัฒนธรรมไทยอย่างหนึ่ง
อาจสูญหายไป

4. สร้างโดยคนไทย
บ้านทรงไทยควรจะส้รางโดยคนไทย
เพื่อคนไทย เพื่อลูกหลานไทย

5. แสดงลักษณะสถาปัตยกรรมประจำชาติ
บ้านทรงไทยมีศิลปะการก่อสร้างที่น่าทึ่ง
เป็นสถาปัตยกรรมประจำชาติที่โดดเด่นมาก
ถ้าเห็นรูปแบบบ้านทรงไทยที่ไหน ๆ ในโลก
จะทราบได้ทันทีว่านี่คือไทย
ดังที่จะเห็นปรากฏบ่อย ๆ บนโลโก็
หรือสัญญลักษณ์ต่าง ๆ ของไทย
ต้องยกย่องบรรพบุรุษของเรา
ที่สามารถสร้างสรรค์สถาปัตยกรรม
ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนไทย
และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของไทย
ตราบเท่าทุกวันนี้

6. ใต้ถุนบ้านใช้สอยเอนกประสงค์
บ้านทรงไทยใต้ถุนโล่ง
สามารถใช้งานได้
สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้
หรือจะต่อเติมกั้นห้องได้อีกมาก

7. ใต้ถุนเรือนโปร่งถ่ายเทอากาศ
ทำให้ใต้ถุนเย็นสบาย
หากไม่มีการกั้นห้องเพิ่มเติม
ทำให้อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวก
ทำให้ใต้ถุนเย็นสบาย
ไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ

8. หลังคาทรงสูง
กันความร้อนจากหลังคาเข้าสู่ห้องได้ดี
การถ่ายเทความร้อนทำได้ดี
อากาศร้อนจะลอยไปอยู่ในช่วงหลังคา
ทำให้ข้างล่างอากาศเย็นสบาย

9. ความคิดและการปฏิบัติในการก่อสร้างได้ผลดี
แนวความคิดในการออกแบบ
โดยคำนึงถึงองค์ประกอบต่าง ๆ เหล่านี้
เช่น สนองประโยชน์ใช้สอยความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย
ป้องกันความอบอ้าวของอากาศ
ป้องกันฝน ป้องกันแสงแดดกล้
ป้องกันสัตย์ร้ายจากป่าและน้ำท่วม
รับลมและระบายความอบอ้าว
ไม้รับความร่มรื่นจากธรรมชาติ
ใช้วัสดุก่อสร้างหาง่ายในท้องถิ่น
และวัฒนธรรมประเพณที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม
ซึ่งนำมาออกแบบและนำไปปฏิบัติก่อสร้างได้ผลดี
ตามแนวคิดเหล่านั้น

10. ใช้วัสดุก่อสร้างท้องถิ่น
สมัยก่อน บ้านเราอุดมสมบูรณ์ด้วยป่าไม้
ทำให้สามารถนำสร้างบ้านได้ง่าย
วัสดุที่ใช้จะเป็นไม้เป็นส่วนใหญ่
โครงสร้างนิยมใช้ไม้สัก
ไม้เนื้อแข็ง
เช่น ไม้เต็ง ไม้รัง ไม้แดง ฯลฯ
ปัจจุบันยังนิยมใช้ไม้เก่า
มาสร้างเนื่องไม้มีคุณภาพดี
มีความแข็งแรง ไม่หดตัว

11. ประกอบสร้างได้ในวันเดียว
บ้านทรงไทยเป็นเรือนสำเร็จรูปก็จริง
แต่ก็มีองค์ประกอบส่วนต่าง ๆ
ที่มีรายละเอียดค่อนข้างมาก
ระยะเวลาในการสร้างหรือประกอบ
จะขึ้นอยู่กับขนาดของตัวบ้าน
ถ้าเป็นบ้านขนาดเล็ก
ก็สามารถสร้างเสร็จในวันเดียว
จำนวนช่างก็ต้องมีมากด้วย
ถ้าหากบ้านมีขนาดใหญ่
ก็จะใช้เวาลประกอบหลายวัน
และวัสดุที่ส่วนใหญ่เป็นไม้
ต้องมีการไส ขัด ทาสีและเก็บงานต่าง ๆ
ซึ่งก็ต้องใช้เวลาหลายวัน

12. แสดงถึงความฉลาด
ในการทำโครงสร้างสอบเอียงเข้า
การทำโครงสร้างสร้างสอบเอียงเข้า
ทำให้สามารถรับน้ำหนักของหลังคา
ที่ถ่ายเทลงที่ตัวเสาได้เป็นอย่างดี
และสามารถช่วยต้านแรงลมได้ดีอีกด้วย

13. มีรูปทรวดทรงสวยงาม
บ้านทรงไทยมีรูปทรงงดงาม
อ่อนช้อย มีความสุนทรีอยู่ในตัว
บ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของบ้าน
ฯลฯ

ข้อเสีย

1. มีขีดจำกัดต่อการใช้สอย
มีข้อกำจัดในการจัดวางห้องน้ำ
ในกรณีที่เจ้าของบ้านต้องการทำห้องน้ำในห้องนอน
หรือทำห้องครัวแบบสมัยใหม่
รวมทั้งการจัดวางเฟอร์นิเจอร์
เครื่องเคหภัณฑ์ต่าง ๆ

2. การสร้างมากหลัง
ขาดการสัมพันธ์ของห้องต่อห้อง
ถ้าสร้างมากหลัง
หรือมีการต่อเติมเพิ่มขึ้น
ทำให้ขาดความสัมพันธ์ของห้องหรือบ้านแต่ละหลัง
ซึ่งสามารถแก้ไข
โดยให้สถาปนิกออกแบบไว้ก่อน
มีการก่อสร้างเพิ่มเติม

3. เปลืองพื้นที่ในการปลูกสร้างเรือนไทย
ถ้าจะให้เป็นเรือนไทยที่ได้ขนาด
ต้องปลูกสร้างบนพื้นที่ดินประมาณ 100 ตร.วา
พื้นที่อาจลดลงตามฐานะของผู้ปลูก
แต่ส่วนมากไม่ต่ำกว่า 50 ตร.วา
ซึ่งควรมีต้นไม้
ที่ดอกหอมแบบไทย ๆ ปลูกประกอบ
เช่น พิกุล ลำดวน จำปี จำปาหรือการะเวก เป็นต้น

4. ทำให้ขนาดกว้างใหญ่ได้ยาก
ขนาดของบ้านทรงไทยมีมาตรฐานที่จำกัด
ยากแก่การขยายแบบให้มีขนาดใหญ่
โดยทั่วไป
จะมีขนาดความกว้างของห้อง
ประมาณ 3.0 เมตร 3.5 เมตร 4 เมตรและ4.5 เมตร
ส่วนความยาวของห้อง
ประมาณ 5 เมตร 7.5 เมตรและ 9 เมตร

5. ต้านลมและหมดเปลือง
บ้านทรงไทยมีหลังคาทรงสูง
ทำให้มีรูปแบบที่ต้านลม
และทำให้ต้องใช้วัสดุมุงหลังคา
เช่น กระเบื้องดินเผามากกว่าปกติ

6. ขาดการใช้ประโยชน์ส่วนตัว
ในที่นี่หมายถึงบ้านทรงไทยเดิม
ที่ห้องน้ำและห้องครัวแยกออกมาอีกหลังหนึ่ง
ทำให้เวลาอาบน้ำ
ต้องเดินมาอีกเรือนหนึ่ง
ปัจจุบันเราสามารถสร้างหรือประยุกต์
ให้ห้องน้ำติดกับห้องนอนได้
ทำให้มีความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น

7. ใต้ถุนของนอกชานใช้ประโยชน์ได้น้อย
เพราะเตี้ยเดินลอดไม่ได้
ปัจุจุบันเราสามารถสร้างให้ชานนอกมีระดับสูงได้
โดยทั่วไประดับชานนอก
จะประมาณ +2.60 เมตร
ซึ่งสามารถจอดรถยนต์ได้
ระดับพื้นระเบียง ประมาณ +2.80 เมตร
และระดับพื้นห้องนอน ประมาณ +3.00 เมตร

8. ภายในห้องอบอ้าว
อากาศเข้าทางหน้างต่าง
ทางอากาศผ่านออกน้อยมาก
สามารถออกแบบ
หรือสร้างให้มีหน้าต่างเพิ่มขึ้นได้
ทำให้อากาศผ่านได้มากขึ้น
ปกติบ้านทรงไทยจะเย็นสบายอยู่แล้ว
ความเย็นสบายเป็นลักษณะเด่น
ของบ้านทรงไทย

9. ฐานรากไม่แข็งแรงทรุดตัวง่าย
ปัจจุบันการออกแบบฐานราก
จะใช้วิธีตั้งเสาบ้านทรงไทย
บนฐานรากตอม่อเสาเข็ม
ซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยคานคอดิน
ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องการทรุดตัว

10. ฝนรั่วได้ได้ตามแนวบานหน้าต่าง
และที่นอนลูกปะกน ฯลฯ
หากมีการนำไม้ใหม่
มาใช้ในการทำบานหน้าต่าง
และที่นอนลูกปะกนของฝา
อาจทำให้มีการหดตัวของไม้
แล้วเกิดช่องว่าง
ทำให้น้ำรั่วซึมเข้าได้
หากได้ช่างดีมีคุณภาพ
ปัญหานี้จะหมดไป

11. แสงสว่างเข้าภายในห้องได้น้อย
เรือนไทยเดิม
จะมีหน้าต่างน้อยบาน
ทำให้แสงไม่สามารถเข้าได้มาก
ดังนั้นปัจจุบัน
ได้มีการออกแบบเพิ่มช่องแสง
และจำนวนบานหน้าต่างมากขึ้น
และมีการติดตั้งหลอดไฟฟ้าเพิ่มแสงสว่างได้
ขึ้นอยู่กับการออกแบบ

12. ฝาเอียงทำให้ตั้งเคหภัณฑ์ชิดฝาไม่สะดวก
ฝาเอียงทำให้ตั้งโต็ะ
ตู้เตียงชิดฝาไม่สะดวก
เราจะเห็นเฟอร์นิเจอร์ไทยสมัยก่อน
จะเป็นขนิดแยกส่วน
สามารถนำไปวางได้ทุกที่ในตัวบ้าน

13. พื้นไม้ไม่ได้ระดับอ่อนตัว
ข้อนี้น่าจะเป็นบ้านทรงไทยเดิมสมัยก่อน
ที่ไม่ได้มีการวิเคราะห์โครงสร้าง
การรับน้ำหนักของตัวบ้าน
อาจเกิดจากการทรุดตัวไม่เท่ากัน
(Partial Settlement)
ของเสาแต่ละต้น
ทำให้พื้นมีระดับไม่เท่ากัน
ฯลฯ

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก