13 ก.พ. 2553

ส่งไฟล์หลายกิกฯ ในคลิกเดียว


ตอนนี้ชาวเน็ตทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าหากต้องการจะส่งไฟล์ใหญ่ๆ 

ระดับกิกะไบต์
ไปให้ใครสักคน การแนบไปกับอีเมล์เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
จึงต้องหันไปพึ่งบริการ"เว็บฝากไฟล์ (File Hosting)"

ซึ่งก็มีทั้งของไทยและของนอก
แต่สิ่งที่เป็นคุณลักษณะที่เหมือนๆ กันของเว็บฝากไฟล์ที่ฟรี ก็คือ
หน้าตาของเว็บทุกส่วนปกคลุมไปด้วยโฆษณาทั้งแบบรูปและแบบตัวอักษร
ทำให้มือใหม่มึนไปหมด และก่อนจะดาวน์โหลดก็ต้องรอเคาท์ดาวน์เกือบนาที

แต่ยังไงโลกใบนี้ ก็มีของดีและฟรีอยู่อีกมาก
เฉกเช่นเว็บไซต์ฝากไฟล์หน้าตาสวยๆ ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้
*wetransfer.com* คือ

เว็บไซต์ฝากไฟล์ดีไซน์เก๋ๆ
และใช้ฟรี ที่สามารถฝากไฟล์ได้ไม่จำกัดจำนวน (แต่แนบไฟล์ใหญ่สุด 2
กิกะไบต์/ไฟล์) ไม่ต้องสมัครสมาชิกใดๆ ไม่ต้องรอดาวน์โหลด
และเมื่อผู้รับได้โหลดไฟล์สมบูรณ์แล้วก็ยังมีอีเมล์มาแจ้งให้ผู้ส่งทราบอีกด้วย

*คุณสมบัติเด่นของเว็บ wetransfer*

1. แนบไฟล์ได้ไม่จำกัดจำนวน (ขนาดสูงสุดคือ 2 กิกะไบต์/ไฟล์/การแนบไฟล์
1 ครั้ง) ต้องการแนบไฟล์เพิ่มกดปุ่มเครื่องหมาย + และส่งให้เพื่อนได้สูงสุด 20
อีเมล์

2. ไม่ต้องสมัครสมาชิก ไม่มีค่าใช้จ่าย

3. แนบไฟล์ได้ทุกนามสกุล (ถ้าอัปโหลดหลายไฟล์
เมื่อดาวน์โหลดจะทำการซิปไฟล์ให้อยู่ในโฟลเดอร์เดียวอย่างเรียบร้อย)

4. ที่เซิร์ฟเวอร์มีการสแกนไวรัสก่อนอัปโหลด

5. ไฟล์ที่ฝากไว้จะถูกเก็บไว้ในระบบ 2 สัปดาห์

*3 ขั้นตอนการฝากไฟล์ง่ายๆ ที่คุ้นเคย*

แนบไฟล์ > กรอกอีเมล์เพื่อน ถ้าส่งให้หลายคนใส่เครื่องหมายลูกน้ำ (",")
คั่นระหว่างอีเมล์ด้วย > กรอกอีเมล์ผู้ส่ง
เมื่อเพื่อนได้รับไฟล์และโหลดไฟล์เสร็จสิ้นก็จะมีอีเมล์มาแจ้งให้เราทราบ >
กดปุ่ม transfer เพื่ออัปโหลดไฟล์เข้าไปยังระบบ

อย่างไรก็ดี wetransfer ยังมีข้อเสียสำหรับผู้ใช้ชาวไทย นั่นคือ
เรื่องของภาษา คือถ้าชื่อไฟล์เป็นภาษาไทย
เมื่ออัปขึ้นไปยังระบบแล้วจะอ่านชื่อไม่ออกและแสดงผลเป็น ????
และช่องที่ให้กรอกข้อความแนบไปกับตอนส่งไฟล์ก็ไม่สามารถพิมพ์ภาษาไทยได้

นอกจากนี้หากคุณทดลองใช้งานแล้วพบว่า ไม่ได้รับอีเมล์แจ้งเมล์ที่ฝากไว้
ก็ให้สันนิษฐานข้อแรกว่าเมล์จาก wetransfer
*อาจจะตกไปอยู่ในกล่องอีเมล์สแปม*และข้อที่ 2 คือ
พิมพ์ที่อยู่อีเมล์ผิดพลาดนั่นเอง หากมีคำถามใดๆ
เกี่ยวกับบริการของ wetransfer
ก็สามารถคลิกที่นี่เพื่ออ่านคำถามที่ถามบ่อยๆ
ได้

*เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับ wetransfer*

ผู้พัฒนาบริการนี้เป็นทีมงานผู้พัฒนาเว็บตั้งแต่ยุคสมัยของเบราว์เซอร์นามว่า Nescape (เนสเกป) จากกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
เนื่องจากเว็บไซต์นี้เปิดให้บริการฟรี ซึ่งรายได้หลักของเว็บก็คือ
การขายพื้นที่โฆษณาขนาดใหญ่ที่เป็นภาพพื้นหลังของเว็บนั่นเอง
เมื่อมองที่มุมขวาล่างเว็บก็จะเห็นชื่อแบรนด์
เมื่อคลิกก็จะลิงก์ไปยังเว็บของสินค้านั้นๆ ทันที

ไม่มีความคิดเห็น: