14 ก.พ. 2553

เทคนิคการเล่นกอล์ฟ

มี อยู่สองวิธีด้วยกันที่จะทำให้ลูกกอล์ฟตกและหยุดอย่างรวดเร็ว วิธีที่หนึ่งคือ ใส่แบ็คสปินมากๆ หรือ วิธีที่สองคือการบังคับวิถีโคจรของลูกให้สูงโด่งแต่นุ่มนวลซึ่งเมื่อตกถึง พื้นแล้วก็จะหยุดเกือบทันที และเนื่องจากนักกอล์ฟส่วนใหญ่จะมีปัญหาการใส่แบ็คสปิน ฉะนั้นการบังคับวิถีโคจรของลูกจึงเป็นวิธีที่ง่ายกว่า


ช็อต ที่ต้องใช้การบังคับลูกที่แม่นยำได้แก่ ช็อตจากรัฟข้างกรีนซึ่งหน้าไม้กอล์ฟมักจะตัดผ่านหญ้าก่อนที่จะกระทบกับลูก กอล์ฟทำให้สปินได้น้อยลง นักกอล์ฟฝีมือดีก็จะสามารถปรับมุมของหน้าไม้กอล์ฟให้ลึกลงในเวลาที่กระทบกับ ลูกเพื่อลดการเสียดสีจากหญ้าและเป็นการเพิ่มสปินให้กับลูกอีกด้วย แต่นักกอล์ฟส่วนใหญ่ที่พยายามจะใช้วิธีนี้ก็มักจะลงเอยด้วยการตีท็อปลูกเฉย เลย

ฉะนั้น ...หากครั้งต่อไปท่านนักกอล์ฟต้องพิทช์ไปยังพินในระยะกระชั้น ซึ่งท่านจำเป็นต้องให้ลูกกอล์ฟตกและหยุดทันทีเหมือนเวลาตกในหลุมทราย ท่านจะต้องตีลูกให้โด่งเพื่อที่จะบังคับให้ลูกตกอย่างนุ่มนวลตามขั้นตอนต่อ ไปนี้..

ตั้งองศาหน้าไม้ให้เหมาะสม

ท่าน นักกอล์ฟทราบหรือไม่ว่าเมื่อตีออกจากรัฟมีหญ้ามากน้อยแค่ไหนที่อยู่ระหว่าง หน้าไม้กอล์ฟกับลูก ท่านจะต้องแครี่ลูกไปไกลแค่ไหน หญ้านั้นแข็งหรือนิ่ม องค์ประกอบเหล่านี้จะเป็นกำหนดองศาหน้าไม้ที่ท่านต้องการ ให้ลองนึกภาพจุดตกที่ท่านต้องการรวมทั้งความสูงของช็อตด้วย เสร็จเรียบร้อยก็ให้ตั้งองศาหน้าไม้ในจังหวะแอ็ดเดรสอย่างเหมาะสมเพื่อให้ วิถีโคจรของลูกที่ต้องการ

ตัวอย่าง เช่น ถ้ามีหลุมทรายอยู่หน้าพิน ให้หยิบเว็ดจ์ที่มีองศาหน้าไม้มากที่สุดและเปิดหน้าไม้กว้างจนหน้าไม้กอล์ฟ หงายขึ้นฟ้า การปรับองศาหน้าไม้นี้จะช่วยให้เว็ดจ์ขนาด 56-60 องศามีประสิทธิภาพเท่ากับหรือมากกว่าขนาด 80 องศาเลยทีเดียว

ตีให้ตรง

นัก กอล์ฟสมัครเล่นส่วนใหญ่มักจะใช้ไม้กอล์ฟที่มีองศาหน้าไม้น้อยกว่าที่ควรแต่ จะใช้วิธีเน้นที่จังหวะลงดาวน์สวิงแทน ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะทำให้หัวไม้กอล์ฟเคลื่อนผ่านมือทั้งสองข้างก่อนที่จะ ถึงจังหวะที่ตีออกไป ทำให้ตีแป้ก

วิธีตีที่ถูกต้องก็คือ หลังจากจัดองศาหน้าไม้ให้เหมาะสมตามที่แนะนำข้างต้นแล้ว จากนั้นก็ตีออกไปด้วยองศาหน้าไม้แบบนั้นเลย ให้นึกภาพเส้นตรงสมมุติในจังหวะที่หน้าไม้กอล์ฟกระทบกับลูกซึ่งลากจากหัว ไหล่ซ้ายลงมายังแขนและข้อมือซ้ายหน้าไม้กอล์ฟและลูกกอล์ฟ

พยายามรักษาข้อมือซ้ายให้เฟิร์มองศาหน้าไม้ที่ตั้งไว้อย่างดีในตอนแรกนั้น เพียงพอแล้วที่จะทำให้ลูกลอยโด่ง ยืนเปิดเล็กน้อย ลูกกอล์ฟอยู่ตรงกลางแต่ค่อนมาทางเท้าซ้ายเล็กน้อย ปล่อยน้ำหนักตัวให้อยู่ทางด้านซ้ายมากกว่าด้านขวา ท่านควรจะสวิงออกไปเต็มวง ยิ่งรัฟหนา ท่านยิ่งต้องสวิงให้แรงเพื่อตีลูกให้พ้นออกมา

เทคนิคการพัต/การอ่านไลน์ ( รู้ทันกรีน มีชัยไปกว่าครึ่ง )

การพัตนั้นเป็นส่วนสำคัญของการเล่นกอล์ฟ ในการแข่งขันในระดับนักกอล์ฟอาชีพนั้น การพัตเป็นช็อตที่บ่งชี้ว่าใครที่จะเป็นผู้ชนะ สโตรคเฉลี่ยของนักกอล์ฟอาชีพนั้นอยู่ที่ 1 พัตกว่าๆเท่านั้นเอง แต่สำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่นทั่วๆไปนั้นต่อการเล่นกอล์ฟ 18 หลุมนั้นไม่มีสามพัตก็มีความสุขแล้ว

ทำอย่างไร ที่ไม่ให้เกิดสามพัตในการเล่นกอล์ฟของเราก็ต้องฝึกฝนและมีความรู้ในการอ่านกรีน

ประกอบด้วยดังนี้

การพัต มีองค์ประกอบสำคัญ 2 ส่วน คือ

1.การสโตรคลูก พื้นฐานการสโตรคลูกที่ดีนั้นลูกจะต้องกลิ้งออกจากหน้าไม้อย่างราบเรียบนุ่ม นวล ไม่มีการกระโดด และตรงไปตามแนวเป้าหมายโดยที่ไม่หมุนออกจากแนวเป้าหมายครับ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการสโตรคลูกมีอีกสองประการ คือ

1.1 ทิศทาง หมายถึง การเล็งเป้าหมายครับ การเล็งเป้าหมายควรจะเป็นลักษณะ สแควร์ หมายถึงการจัดหน้าไม้และร่างกายให้ขนานกับแนวเป้าหมาย เมื่อสโตรคลูกออกไปแล้ว ลูกจะต้องวิ่งออกไปทางเป้าหมายเสมอ

1.2 ระยะทาง หมายถึง การให้น้ำหนักของลูกที่กลิ้งออกจากหน้าไม้ไปยังเป้าหมาย ความหมายของการให้น้ำหนักจะมาจากการที่สายตามีความสัมพันธ์กับมือ

2. พัตไลน์ คือ เรื่องของการอ่านทางวิ่งของลูกบนกรีน ถ้าอ่านทางวิ่งได้ดีลูกก็จะวิ่งเข้าเป้าหมายได้มากที่สุดในทางตรงกันข้ามถ้า อ่านผิด ลูกก็จะวิ่งหนีเป้าหมายออกไป ปัจจัยของทางวิ่งของลูกบนกรีนนั้นจะประกอบไปด้วยสองปัจจัยก็คือ

2.1 การอ่านสโลป การอ่านสโลปหมายถึงการอ่านความเอียงของพื้นผิวกรีน ซึ่งจะมีความเอียงหลักๆอยู่สี่ทาง

2.1.1 ทางขึ้นเนิน หมาย ถึงลูกจะกลิ้งได้ระยะทางน้อยกว่าพื้นเรียบ เมื่อน้ำหนักเท่ากัน

2.1.2 ทางลงเนิน หมายถึงลูกจะกลิ้งได้ระยะทางมากกว่าพื้นเรียบ เมื่อน้ำหนักเท่ากัน

2.1.3 สโลปเอียงขวา หมายถึงลูกจะกลิ้งไปซ้าย มากเท่าไรขึ้นอยู่กับความชันของสโลป

2.1.4 สโลปเอียงซ้าย หมายถึงลูกจะกลิ้งไปทางขวา มากเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับความชันของสโลป

2.2 การอ่านทิศทางของแนวใบหญ้าบนผิวกรีน ก็มีอยู่ด้วยกันห้าทิศทาง

2.2.1 แนวย้อนหญ้า หมายถึง แนวยอดหญ้าแทงเข้าหาตัวเรา เมื่อเรายืนหลังลูกและหันหน้าไปยังหลุมจะมีผลให้ลูกกลิ้งช้าลงแต่มีผลน้อยกว่าสโลปขึ้นเนิน

2.2.2 ตามแนวหญ้า หมายถึง แนวยอดหญ้าแทงเข้าหาหลุมเมื่อเรายืนหลังลูกและหันหน้าไปยังหลุม จะมีผลทำให้ลูกกลิ้งเร็วขึ้น แต่มีผลน้อยกว่าสโลปลงเนิน

2.2.3 ยอดหญ้าแทงไปทางขวาของหลุม เมื่อเรายืนหลังลูกและหันหน้าไปยังหลุม จะมีผลทำให้ลูกกลิ้งไปทางขวาเล็กน้อย แต่มีผลน้อยกว่าสโลปเอียงซ้าย

2.2.4 ยอดหญ้าแทงไปทางซ้ายของหลุม เมื่อเรายืนหลังลูกและหันหน้าไปยังหลุมจะผลทำให้ลูกกลิ้งไปทางซ้ายเล็กน้อย แต่มีผลน้อยกว่าสโลปเอียงขวา

2.2.5 แนวยอดหญ้าไม่เป็นระเบียบ จะมีผลต่อการกลิ้งของลูกไม่มากให้เล็งลูกไปตามแนวเป้าหมายเหมือนเดิม

ใน กรณีที่เล่นในสนามที่เป็นภูเขาการอ่านสโลปบนกรีนนั้นจะต้องดูสภาพแวดล้อมของ ภูมิประเทศเป็นหลักด้วยครับอย่างเช่นในกรณีที่ด้านใดด้านหนึ่งของกรีนเป็น ภูเขาด้านนั้นจะเป็นสโลปขึ้นเนินถึงแม้ว่าเราจะไปยืนบนกรีนแล้วจะมองจากลูก ไปยังหลุมเป็นทางลงก็ตาม

เมื่อเราเรียนรู้เรื่องของการพัตแล้วที่เหลือจะเป็นประสบการณ์ในการที่เราจะนำความรู้ทั้งหมดมา

ประยุกต์ ให้เข้ากันเพื่อให้ลูกวิ่งเข้าเป้าหมายมากที่สุดวิธีการที่ดีที่สุดก็คือการ ทำซ้ำๆนั้นเองเวลาที่ไปเล่นกอล์ฟก็ลองสังเกตกรีนและลองเดาทางวิ่งของลูกดู และสอบถามกับแค้ดดี้ของท่านดูว่าตรงกันหรือไม่แล้วลองชั่งใจดูว่าจะเชื่อแค้ ดดี้หรือตัวเอง

ถ้าได้ทำอย่างนี้ซ้ำๆ รับรองว่าท่านจะพัตได้ใกล้เคียงขึ้นแน่นอน และจะลดอาการสามพัตลงอย่างเห็นได้ชัดเลย ทำให้เล่นอย่างมีความสุข วันนี้ขอให้ท่านได้เบอร์ดี้มากๆครับ

ไม่มีความคิดเห็น: