19 ก.พ. 2553

10 วิกฤตชีวิตที่ไม่ควรออกเดท

*การออกเดทคือการทำความรู้จักกับคนใหม่ในเชิงชู้สาว

ดังนั้นเพื่อไม่ให้การเดทต้องล่มทั้งที่ควรจะเวิร์ค
ก็ควรหลีกเลี่ยงหากชีวิตกำลังเกิดวิกฤตดังต่อไปนี้*

*1.ตกงาน*

มีผู้รู้กล่าวไว้ว่า มนุษย์ทุกคนต้องการอยู่สองอย่างคือ งานกับความรัก
ซึ่งจริงๆแล้วในระยะยาวการหางานทำมักง่ายกว่าการค้นหาความรัก ดังนั้นอย่าคิดว่า
ว้าว ตกงานแล้วฉันจะได้มีเวลาออกเดทมากขึ้น สิ่งที่ควรโฟกัสเป็นอย่างแรกคือ
ใช้เวลาและพลังงานมาสร้างความมั่นคงให้ตัวเองด้วยการมุ่งมั่นหางานใหม่
เพราะเงินเป็นปัจจัยสำคัญของชีวิต การตกงานทำให้สูญเสียความมั่นใจในตัวเอง
และการออกเดทจะเวิร์คสุดๆก็ต่อเมื่อทั้งคู่มั่นคง มั่นใจและมีความสุข

*2.ไม่มีที่อยู่*

น่าแปลกใจที่เดี๋ยวนี้คนมัก ย้ายมาอยู่ด้วยกันทั้งที่เพิ่งรู้จักกัน
เพราะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพิ่งถูกไล่ที่หรือสูญเสียที่พักด้วยเหตุผลบางอย่าง
ซึ่งไม่ใช่เหตุผลที่เข้าท่านัก ความจำเป็น
ไม่ใช่พื้นฐานที่ดีสำหรับความสัมพันธ์แบบระยะยาว
การตัดสินใจย้ายมาอยู่กับคนอื่นเป็นเรื่องซีเรียส ไม่ควรตัดสินใจแบบฉาบฉวย
และไม่ควรทำเพราะจำเป็นต้องหาที่ซุกหัวนอน
ทางที่ดีลองหาอพาร์ทเม้นต์หรือรูมเมทแล้วลืมเรื่องเดทไปสักพักจนกว่าจะหา
บ้านเป็นหลักแหล่งได้ เพราะบ้านเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่สำคัญ
เหมือนเป้นที่หลบภัยจากโลกภายนอก การไม่มีบ้านจะทำให้เครียดได้

*3.เสียเพื่อน*

มิตรภาพต่างจากการออกเดทอย่างแน่ นอนที่สุด
การเสียเพื่อนไปไม่ว่าแบบไหนย่อมมีผลกระทบต่อการเดท
ถ้าเพื่อนย้ายไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ก็ลองไปหางานอดิเรกทำเพื่อให้ยุ่งเข้าไว้
และเจอคนหน้าใหม่บ้าง
ถ้าดูดีเข้าท่าเข้าทางก็จะได้จัดการอัพเกรดเป็นเพื่อนกันไป
หรือไม่ก็เขียนจดหมายหรือส่งอีเมล์ไปคุยกับเพื่อน
ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบไม่ให้ขาดหายกันไป

*4.พ่อแม่เสียชีวิต*

หนึ่งในโศกนาฏกรรมชีวิตที่ ทุกคนต้องเจอคือการสูญเสียบุพการี
ทำให้เรากลายเป็นกำพร้าไม่ว่าจะอายุแก่หงำเหงือกแค่ไหนก็ตาม
ซึ่งจะสร้างความรู้สึกโศกเศร้าหดหู่ให้กับชีวิตไปช่วงเวลาหนึ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อแม่เป็นส่วนสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับการออกเดทมาก
เพราะท่านทั้งสองเป็นบุคคลแรกๆในชีวิต
และอาจเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดซึ่งทำให้เราเรียนรู้การเป็นผู้หญิงหรือ ผู้ชาย
เราเรียนรู้ด้วยการมองดูการกระทำของพ่อแม่และเลียนแบบ
การสูญเสียท่านจึงต้องเยียวยาให้หายดีเสียก่อนจะออกไปสานสัมพันธ์กับมนุษย์
อื่นต่อไป

*5.หมาตาย *

ไม่ว่าจะเป็นแมว นกแก้ว ปลา หรือสัตว์เลี้ยงใดๆ
ตามหลักจิตวิทยาถือว่าสัตว์เลี้ยงคือวัตถุทางความรัก
เราทั้งกอดทั้งโอบอุ้มเลี้ยงดูมัน แต่การรับมือกับสัตว์เลี้ยงแตกต่างกับคน
(ถึงแม้จะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องดูแลมากแค่ไหน สิ่งที่มันทำไม่ได้ก็คือพูดคุย
เหน็บแนม สอพลอ โต้เถียงกับเรา หรือไปบ่นกับแม่เราว่าเราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้)
อย่านำมาปนกันให้สับสนค่ะ

*6.สับสนชีวิต *

ถ้ารู้สึกว่าชีวิตกำลังสับสน ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครหรือต้องการอะไร
แถมยังมีความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ที่อยากซ่อนเอาไว้
และหนึ่งในวิธีซ่อนที่ดีที่สุดคือจับตัวเองเข้าไปอยู่ในชีวิตคนอื่น
ปัญหาก็คือไม่ว่าช้าหรือเร็วเราก็ต้องเอาชีวิตตัวเองกลับคืนมาอยู่ดี
เพราะฉะนั้นจัดการกับชีวิตตัวเองให้เรียบร้อยเสียก่อนค่อยเริ่มเกี่ยวพันกับ
คนอื่น

*7.แต่งงานแล้ว*

จริงๆแล้วข้อนี้ไม่เห็นต้องบอก เลยนิ
คนแต่งงานแล้วและมีคู่เป็นตัวเป็นตนจะออกเดทได้อย่างไร ถ้าอยากเดทก็อย่าแต่งงาน
และถ้าแต่งงานแล้วก็จัดการกับชีวิตคู่ของตัวเองซะ
ถ้าไม่ไหวจริงๆก็แยกทางกันไปให้สิ้นเรื่องสิ้นราว
อย่าไปลากคนอื่นมาเดือดร้อนเลยค่ะ
ในทางตรงกันข้ามถ้ายังโสดอยู่ก็อย่าไปยุ่งกับคนแต่งงานแล้ว
อย่าไปเสียเวลากับคนที่ไม่ซื่อสัตย์กับคู่ของตัวเองดีกว่า
คนที่แต่งงานแล้วก็แค่มาทำเฟลิร์ทเรี่ยราดแก้เซ็ง อย่าไปยุ่งด้วยเป็นดีที่สุด

* 8.ยังคบกับใครอยู่*

สิ่งที่ไม่ควรทำคือเดทกับคน หนึ่งโดยที่ยังคาราคาซังอยู่กับอีกคน
จริงๆแล้วการเดทหลายคนในเวลาเดียวกันก็ทำได้ถ้าไม่โกหกกัน
แต่ก็ทำได้แค่เฉพาะช่วงแรก เพราะพอถึงจุดหนึ่งก็ต้องเลือกใครคนใดคนหนึ่ง
และเลิกกับคนที่เหลือ ไม่มีใครเดททีละหลายคนได้ตลอดไป
และคนพวกนั้นก็จะไม่ยอมเป็นช๊อยส์ให้เลือกอยู่แบบนี้ตลอดไปเช่นกัน

*9.แยกกันอยู่*

การแยกกันอยู่ก็ยังหมายความว่า แต่งงานแล้วนั่นละ
ยังไงก็ยังค้างคากันอยู่นั่นเอง
การเดินออกไปจากความสัมพันธ์ที่อยู่กันมานานเป็นเรื่องยากมาก
แต่การใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือช่วยเยียวยาความรู้สึกทางอารมณ์นั้นไม่เวิร์ค
หรอกค่ะ แถมยังเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่ารักและไม่ยุติธรรมต่อคนๆนั้นเลย

* 10.หย่าร้างไม่ถึงหนึ่งปี*

ถึงแม้ว่าแยกกันอยู่ และตัดใจเรียบร้อยแล้ว
แต่ก็ยังต้องใช้เวลาเยียวยาเรื่องนี้อยู่ดี
เพราะอาการหวนคิดคำนึงถึงความทรงจำเก่าๆมักผุดโผล่ขึ้นมาเป็นระยะ
ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดอารมณ์และความรู้สึกพวกนี้ไม่ให้กำเริบซ้ำ
ซากก็คือหลังหย่าร้างควรรอเวลาสัก 1 ปีแล้วค่อยเริ่มต้นเดทอีกครั้ง
เวลาหนึ่งปีจะทำให้เรารู้ว่าควรทำอะไรให้ตัวเองได้บ้าง
และความผิดพลาดที่ผ่านมาเกิดจากอะไร จะได้เป็นบทเรียนไม่ให้เกิดขึ้นอีก
การงดเดทหนึ่งปีไม่ได้หมายความว่าต้องกักบริเวณตัวเองอยู่กับบ้าน
เราสามารถออกไปเที่ยวกับเพื่อนเพศเดียวกันได้ ไปทำงาน ออกกำลังกาย
เข้าคอร์สอะไรสักอย่าง เข้าสัมมนาหรือกิจกรรมสาระพัด
นี่คือเวลาที่เราสามารถลงทุนเพื่ออนาคต และเมื่อเวลาหนึ่งปีผ่านพ้นไป
ความมั่นใจในตัวเองและสมดุลชีวิตก็จะกลับคืนมา ชีวิตจะสดใสปิ๊งปั๊งอีกครั้ง.

ไม่มีความคิดเห็น: