28 ม.ค. 2551

100 Tips การใช้งานคอมพิวเตอร์ในแบบที่ไม่ซ้ำใคร (2)

11. รู้จัก Widgets ของเล่นบนเดสก์ทอปมีใครคุ้นกับศัพท์ไอทีคำนี้บ้างหรือยัง ? ‘Widgets’ (ออกเสียงว่า “วิจิตส์”) ซึ่งคำนี้ไม่เพียงแต่จะได้รับการพูดถึงกันอย่างแพร่หลายบนอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่ในระบบปฏิบัติการตัวต่อไปอย่าง Windows Vista ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติการทำงานที่เรียกว่า Windows Sidebar ที่ทำหน้าที่เป็นภาชนะรองรับพวก Widgets ให้สามารถทำงานบนเดสก์ทอปได้อย่างลงตัวอีกด้วย อ๊ะอ๊ะ อยากรู้จักพวกมันแล้วใช่ไหม ?วิจิตส์ (Widgets) หมายถึง แอพพลิเคชันขนาดเล็กที่ทำงานในลักษณะที่เป็นส่วนหนึ่งของเดสก์ทอป เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถอัพเดตข้อมูลข่าวสารในรูปแบบมัลติมีเดียที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของวิจิตส์ผ่านอินเทอร์เน็ตได้ทันที ยกตัวอย่างเช่น ป้ายแสดงผลฟุตบอลโลก ที่สามารถอัพเดตผลการแข่งขันแต่ละคู่โดยใช้ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต

ทั้งนี้มันจะแสดงผลการแข่งขันผ่านอินเทอร์เฟซของวิจิตส์ที่ผู้ใช้นำมาแปะไว้บนเดสก์ทอปได้แบบเรียลไทม์ ข้อดีของมันก็คือ คุณจะได้รับประโยชน์จากพวกมันได้โดยไม่ต้องมานั่งสั่งรันโปรแกรมให้เสียเวลาแต่อย่างใด เนื่องจากมันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเดสก์ทอปของคุณไปแล้วนั่นเอง อย่างไรก็ดี ก่อนที่คุณจะดาวน์โหลดวิจิตส์ที่ต้องการ คุณจะต้องติดตั้งกลไกพิเศษที่ทำหน้าที่เหมือนภาชนะสำหรับดาวน์โหลด และรันวิจิตส์เหล่านี้เสียก่อน โดยสามารถดาวน์โหลดได้ที่ http://widgets.yahoo.com

เมื่อดาวน์โหลดมาแล้ว ขั้นตอนการติดตั้งอย่างง่ายจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอ เพียงแค่ทำตามคำสั่งก็สามารถติดตั้งได้อย่างสมบูรณ์ และหลังจากโปรแกรมติดตั้งแนะนำวิธีใช้เสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณก็จะพบกับวิจิตส์ต่างๆ จำนวนหนึ่งลอยเด่นขึ้นมาบนเดสก์ทอปของคุณทันที โอ้ววว....จอร์จ...มันสุดยอดจริงๆ เลยนะเนี่ยย
สิ่งที่อยากจะแนะนำมือใหม่ที่หัดใช้วิจิตส์ก็คือ คุณควรจัดสรรพื้นที่เฉพาะสำหรับไอคอนโปรแกรมปกติไว้ที่ด้านซ้ายของเดสก์ทอป เพื่อเหลือพื้นที่ไว้สำหรับวิจิตส์ อีกวิธีหนึ่งก็คือ การเลือกใช้สีแบ็กกราวนด์เข้มๆ โดยคลิ้กขวาบนพื้นที่ว่างของเดสก์ทอป เลือกคำสั่ง Properties คลิ้กแท็บ Desktop เลือกสีที่ Color : ซึ่งจะทำให้คุณเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง (ไอคอนโปรแกรม และวิจิตส์) ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

หลังจากที่คุณติดตั้งกลไกการทำงานร่วมกับวิจิตส์บนเดสก์ทอปของคุณเรียบร้อยแล้ว คุณจะพบว่าไฟล์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะถูกจัดเก็บไว้ในโฟลเดอร์ My Documents ของคุณ และถ้าคุณต้องการวิจิตส์อื่นๆ เพิ่มเติมก็สามารถดาวน์โหลดได้ที่ http://widgets.yahoo.com/gallery/ ซึ่งที่นี่จะมีวิจิตส์ให้ดาวน์โหลดไปใช้หลายพันรายการ ตั้งแต่พยากรณ์อากาศ ไปจนถึงรายงานผลฟุตบอลโลก สมมติว่า คุณดาวน์โหลดวิจิตมาตัวหนึ่ง วิธีสั่งให้มันทำงานก็ง่ายมาก เพียงดับเบิลคลิ้กบนไอคอนของวิจิตส์ และเมื่อไรที่คุณต้องการถอดถอนวิจิส์ออกจากเดสก์ทอป หรือเปลี่ยนแปลงค่ากำหนดที่ตั้งไว้ก็สามารถทำได้โดยคลิ้กขวาบนตัวมัน แล้วเลือกคำสั่งตามที่ต้องการ

12. สวิตช์ผู้ใช้ หรือล็อกเครื่องแบบเร่งด่วนเอาละครับ แล้วก็มาถึงเทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้การใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP ของคุณสะดวกยิ่งขึ้น กล่าวคือ ถ้าปกติคุณเลือกใช้วิธีล็อกเอาต์ (log out) จากระบบปฏิบัติการ Windows XP แทนการชัตดาวน์ ลองใช้วิธีกดปุ่ม Windows พร้อมกับปุ่ม L ที่ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนไปล็อกออนบัญชีผู้ใช้คนอื่นๆ ที่อยู่บนคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกันได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่มันยังเป็นการล็อก (lock) เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณให้ผู้อื่นไม่สามารถใช้งานได้อีกด้วยโดยขึ้นอยู่กับการตั้งข้อกำหนดของระบบรักษาความปลอดภัยของคุณ (เช่น การตั้งพาสส์เวิร์ด)

การกดปุ่ม Windows (ปุ่มที่มีรูปโลโก้ Windows) กับปุ่มตัว L พร้อมกัน แม้ระบบปฎิบัติการจะทำเหมือนคุณล็อกเอาต์ออกมา แต่จริงๆ แล้วคุณยังคงล็อกออนอยู่ในระบบ (เซสชันการใช้งาน Windows ของคุณยังอยู่นั่นเอง) ในขณะเดียวกัน คุณจะสามารถสวิตช์ไปใช้บัญชีผู้ใช้คนอื่นๆ ได้ และหากบัญชีผู้ใช้นั้นๆ ต้องการรหัสผ่าน มันก็เท่ากับว่า คอมพิวเตอร์ของคุณถูกล็อกการใช้งานจนกว่าจะได้รับการป้อนรหัสผ่านที่ถูกต้องเข้าไป ซึ่งเมื่อคุณล็อกออนกลับเข้าไปยังบัญชีผู้ใช้ของคุณเอง คุณจะพบว่า เอกสาร ตลอดจนแอพพลิเคชันต่างๆ ยังคงเปิดอยู่พร้อมใช้งานเหมือนเดิมก่อนที่คุณจะกดปุ่ม Windows + L นับว่าเป็นเทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณสามารถสวิตช์บัญชีผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว แถมยังเป็นวิธีล็อกเครื่อง (กรณีใส่พาสส์เวิร์ด) ไม่ให้ผู้อื่นใช้งานได้ง่ายๆ อีกด้วย

13. Defrag อย่างไร ไม่ให้สะดุด!!!บ่อยครั้งที่เราทำการ Defrag ไปได้ระยะหนึ่ง อาจจะ 10-20 นาที แล้วมันก็สะดุด และต้องเริ่มทำใหม่ แล้วก็เป็นเหมือนเดิมอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดมาก อย่างไรก็ตาม กรณีนี้อาจแก้ไขได้ด้วยข้อกำหนดเริ่มต้นของการทำงานของวินโดวส์ (Windows Startup) จะช่วยให้การจัดระเบียบฮาร์ดดิสก์ด้วยยูทิลิตี Defragmenter ให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่องแล้ว มันยังมีอีกขั้นตอนหนึ่งที่ทำให้การทำงานของยูทิลิตีตัวนี้สะดุด ทำงานช้าลง หรือแน่นิ่งไปเลย นั่นก็คือ โปรแกรมรักษาหน้าจอ (screen saver) บนวินโดวส์ที่มักจะโผล่เด้งขึ้นมาตามเวลาที่กำหนด ซึ่งการแก้ไขในขั้นตอนนี้สามารถทำได้ง่ายมาก เพราะเพียงแค่เปลี่ยนข้อกำหนดเกี่ยวกับเวลาทำงานของพวกมันก็พอแล้ว

เนื่องจากโปรแกรมรักษาหน้าจอส่วนใหญ่จะได้รับการกำหนดให้เริ่มทำงานเมื่อไม่มีการแตะต้องเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเวลา 15 นาที หรือขึ้นอยู่กับผู้ใช้แต่ละคนกำหนดไว้ ผมไม่ปฏิเสธครับว่า โปรแกรมรักษาหน้าจอมีคุณอนันต์ต่อมอนิเตอร์ แต่หากคุณต้องการรัน Defragmenter แนะนำให้ตั้งค่าเวลาทำงานของโปรแกรมรักษาหน้าจอให้ยาวนานออกไปอีกจะดีกว่า เพราะไม่เช่นนั้น มันอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้โปรแกรม Defragmenter หยุดชะงักชั่วคราว หรือพักยาวไปเลยก็ได้

เนื่องจากมันทำให้โพรเซสการทำงานโดยรวมของระบบช้าลงนั่นเอง บางครั้งผู้ใช้อาจจะได้รับการแจ้งข้อผิดพลาดของการทำงานในลักษณะที่ว่า Defragmenter ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ เนื่องจากมันมีภารกิจบางอย่างที่ทำให้ต้องเริ่มทำงานกันใหม่ ซึ่งหาใช่ใครที่ไหนที่ป่วนการทำงานของมัน นอกจากเจ้าโปรแกรมพักหน้าจอที่เรากำลังพูดถึงนั่นเอง เพื่อป้องกันปัญหาข้างต้น ให้คุณคลิ้กขวาบนพื้นที่ว่างของเดสก์ทอป แล้วเลือกคำสั่ง Properties คลิ้กแท็บ Screen Saver ในช่อง Wait minutes เปลี่ยนช่วงเวลารอคอยของการทำงานเป็น 60 นาที หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับว่า คอมพิวเตอร์ของคุณจะใช้เวลาดีแฟรกนานแค่ไหน ? พยายามตั้งค่าเวลาให้มากกว่าก็แล้วกัน เสร็จแล้วคลิ้กปุ่ม OK การทำเช่นนี้ ก็เพื่อให้ช่วงเวลาที่รันโปรแกรม Defragmenter ไม่มีอะไรมารบกวนนั่นเอง หลังจากที่ทำดีแฟรกเสร็จแล้ว คุณสามารถกลับไปแก้ไขเวลาทำงานของ Screen Saver เหมือนเดิมได้แล้วครับ

14. พิมพ์สั้นๆ ก็พอ!!!ผมเชื่อว่ายังมีผู้ใช้จำนวนหนึ่งที่ยังต้องใช้หน้าต่างคอมมานด์ (cmd.exe) เพื่อพิมพ์คำสั่งโดยตรง แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีว่า ชื่อโฟลเดอร์ใน Windows มักจะยาวมาก ทำให้โอกาสพิมพ์ผิดสูงตามไปด้วย เช่น สมมติว่า ผมต้องการเข้าไปที่ไดเรกทอรี Start Menu ซึ่งอยู่ที่ C:Documents and SettingsAll UsersStart Menu ถ้าไม่แม่นจริง พิมพ์ผิดแน่นอน ดังนั้น ครั้งนี้ผมจึงเทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้หน้าต่างคอมมานด์สะดวกสบายขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า ผู้ใช้บางคนอาจจะยังไม่ทราบว่า คำสั่งเปลี่ยนไดเรกทอรีในหน้าต่างคอมมานด์จะรับรูปแบบคำสั่งที่เป็นไวลด์คาร์ด (wild card) ด้วย นั่นหมายความว่า คุณสามารถใช้ * แทนส่วนที่ตามมาในคำสั่งได้ ดังนั้น การพิมพ์คำสั่งเพื่อเข้าไปยังไดเร็กทอรีข้างต้นสามารถพิมพ์พร้อมไวลด์คาร์ดสั้นๆ ดังนี้

C:>cddocu*a*s*
หวังว่า ทิปเล็กๆ นี้คงจะถูกใจคุณผู้อ่านที่ต้องใช้หน้าต่างคอมมานด์ทำงานนะครับ ส่วนผู้ที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้ ก็น่าจะได้รู้จักไว้ เผื่อต้องใช้ในอนาคตจะได้ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์อะไรยาวๆ ให้เสียเวลา แถมยังอาจพิมพ์ผิดต้องพิมพ์กันใหม่อีกต่างหาก

15. My Documents มันหายไป จะเอากลับมาได้อย่างไร ?เรื่องมันมีอยู่ว่า ไอคอนเอกสารของฉัน (My Documents) มันหายไปจากในหน้าต่างคอมพิวเตอร์ของฉัน (My Computer) จะทำอย่างไรถึงจะเรียกคืนข้อมูลกลับมาได้เหมือนเดิม
สำหรับประเด็นนี้ ผมเข้าใจว่า รายละเอียดโฟลเดอร์ของยูสเซอร์ใน DocFolderPaths ถูกลบออกไปนั้น เห็นทีจะต้องพึ่งยูทิลิตี Registy Editor ช่วยแล้วละครับ โดยขั้นตอนการแก้ไขมีดังนี้

- คลิ้กปุ่ม Start เลือกคำสั่ง Run แล้วพิมพ์ regedit แล้วคลิ้กปุ่ม OK
- ที่กรอบทางด้านซ้ายมือ คลิ้กเข้าไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE/Software/Microsoft/Windows/CurrentVersion/Explorer/DocFolderPaths
- ในกรอบด้านขวามือ คลิ้กขวาบนพื้นที่ว่างเลือก New -> String Value
- Value Name พิมพ์ชื่อยูสเซอร์ของคุณ
- ดับเบิลคลิ้กบนชื่อยูสเซอร์ที่พิมพ์เข้าไป ไดอะล็อกบ็อกซ์ Edit String จะปรากฏขึ้นมา ในช่อง Value Data พิมพ์พาธของโฟลเดอร์ ซึ่งปกติจะอยู่ที่ C:Documents and Settingsชื่อยูสเซอร์ของคุณMy Documents เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ให้ออกจากโปรแกรม แล้วลองเปิดหน้าต่าง My Computer อีกครั้ง คราวนี้ ไอคอนโฟลเดอร์ My Document ของคุณน่าจะปรากฏขึ้นมาแล้ว ขอให้แก้ไขได้สำเร็จนะครับ

16. ของดีที่ซ่อนไว้ในแผ่น Windows XPใครที่มีแผ่นซีดีของระบบปฏิบัติการ Windows XP อยู่ในตัว ณ ตอนนี้ คุณรู้มั้ยครับว่า ในแผ่นนี้จะมีซอฟต์แวร์ยูทิลิตีเล็กๆ น่าใช้ซุกซ่อนไว้ให้บรรดาเซียนได้ค้นหา อยากรู้มั้ยครับว่า น่าสนใจแค่ไหน ถ้างั้นไปดูเลยครับ

ขั้นตอนแรกให้คุณนำแผ่นซีดีใส่เข้าไปในไดรฟ์ จากนั้นคลิ้กเข้าไปที่ไดเรกทอรี SupportTools ซึ่งในไดเรกทอรีนี้จะมีโปรแกรมยูทิลิตีเล็กๆ ที่ช่วยสนับสนุนการทำงาน และช่วยแก้ปัญหาต่างๆ มากมาย ผู้ใช้สามารถรันโปรแกรม SETUP จากไดเรกทอรีเดียวกันนี้ เพื่อติดตั้งโปรแกรมต่างๆ เข้าไปได้ ข้างล่างนี้เป็นตัวอย่างบางส่วนของโปรแกรมยูทิลิตีเล็กๆ ที่คุณสามารถพบได้ในแผ่นซีดีของ

Windows XP Diruse : แสดงสถานะการใช้ฮาร์ดดิสก์
Dupfinder : ค้นหาไฟล์ซ้ำซ้อนในฮาร์ดดิสก์ของคุณ
Getmac : แสดงหมายเลข MAC address ของการ์ดเน็ตเวิร์กในเครื่องคอมพิวเตอร์
Hostname : แสดงชื่อโฮสต์ของคอมพิวเตอร์
Netdiag : วินิจฉัยองค์ประกอบของการทำงานในส่วนต่างๆ ของเครือข่าย
Pviewer : แสดงรายชื่อโพรเซส, รายละเอียดของหน่วยความจำและกำจัดโพรเซสที่ไม่ต้องการ
Windiff : เปรียบเทียบไฟล์ และไดเรกทอรี

17. ยูทิลีตี (ดีๆ ) ที่ซ่อนอยู่ใน Windowsนี่ก็เป็นอีกหนึ่งทิปที่น่าสนใจ คือมีโปรแกรมยูทิลิตีที่ซ่อนไว้ในวินโดวส์ โดยเป็นยูทิลิตีที่สามารถแจ้งให้คุณได้ทราบถึงรายละเอียดต่างๆ มากมายเกี่ยวกับเครื่องพีซีของคุณ รวมถึงข้อมูลที่หลากหลายตั้งแต่เวอร์ชันของ BIOS จนถึงความเร็วของ CPU หน่วยความจำ ส่วนแสดงผล และการ์ดเสียงสำหรับวิธีเรียกใช้ยูทิลิตีที่ซ่อนไว้ใน Windows นี้ ให้คุณคลิ้กปุ่ม Start เลือกคำสั่ง Run (หรือกดปุ่ม Windows + R) ในช่องข้อความ Open: พิมพ์ dxdiag แล้วคลิ้กปุ่ม OK ระบบปฏิบัติการจะเปิดยูทิลิตีชื่อว่า DirectX diagnostic tool ขึ้นมา

ซึ่งภายในโปรแกรมจะแสดงข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย เช่น แท็บ System จะเป็นการแสดงข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับองค์ประกอบต่างๆ ในพีซีของคุณ ส่วนแท็บ Display และ Sound จะให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการ์ดแสดงผล และการ์ดเสียง ขณะเดียวกัน คุณสามารถทดสอบการทำงานของ DirectX ที่ติดตั้งบนพีซีของคุณ หากพบว่า มีปัญหา โปรแกรมก็จะแสดงผลให้ทราบในกรอบพื้นที่ Notes ที่อยู่ด้านล่าง ลองเรียกใช้ดูนะครับ

18. Blue Screen of Deathเคยไหมครับที่อยู่ดีๆ คอมพิวเตอร์ของคุณก็เปลี่ยนทั้งหน้าจอเป็นสีน้ำเงินไปซะเฉยๆ ซึ่งมันอาจเกิดขึ้นได้กับพวกเราทุกคนไม่ว่าเวลาใดก็ตาม ข้อเท็จจริงที่ควรทราบก็คือ อาการดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นหลายๆ ครั้งติดต่อกันก็ได้ ผมเองก็เคยประสบปัญหาดังกล่าวเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดมากทีเดียวแล้วสิ่งที่เรียกว่าหน้าจอสีน้ำเงิน (Blue Screen) ที่ผมพูดถึงนั้นหมายถึงอะไรล่ะ ? คำว่า ‘Blue Screen’ เป็นชื่อสามัญที่ใช้เรียกแทน ‘หน้าจอแสดงข้อผิดพลาด’ ที่มักจะอ้างอิงกับอาการผิดปกติของการทำงานที่เกิดขึ้นบนระบบปฎิบัติการวินโดวส์

นอกจากชื่อนี้แล้ว บางทีมันยังถูกเรียกว่า ‘Stop Error’ (ข้อผิดพลาดที่ทำให้ระบบต้องหยุดทำงาน) ปกติแล้วข้อความต่างๆ ที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอจะเป็นการบอกให้ผู้ใช้ทราบว่า คอมพิวเตอร์ของคุณไม่สามารถแก้ไขปัญหาอันเนื่องจากข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในระบบนั่นเอง โดยหน้าจอแสดงข้อผิดพลาดในลักษณะนี้จะมีอยู่ในวินโดวส์ทุกเวอร์ชันตั้งแต่ Windows 3.1 แล้ว เมื่อใดก็ตามที่ระบบปฏิบัติการพบว่า มันมีขั้นตอนการทำงานที่ผิดปกติ และระบบไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ หน้าจอสีน้ำเงินก็จะป็อปอัพขึ้นมา ซึ่งวิธีที่ปลอดภัยสำหรับการออกจากหน้าจอน้ำเงินก็คือ รีสตาร์ตคอมพิวเตอร์ของคุณ ปัญหาของการเกิดหน้าจอน้ำเงินก็คือ ข้อมูลบางส่วนอาจสูญหายไปในระหว่างที่เกิดกระบวนการนี้ ผู้ใช้จะไม่มีโอกาสได้จัดเก็บงานแต่อย่างใด

เพราะฉะนั้น การปรากฏตัวของหน้าจอสีน้ำเงินจึงไม่ได้แค่ทำให้ระบบต้องหยุดทำงานเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดความหายนะอื่นๆ อย่างเช่น การสูญเสียข้อมูลที่กำลังจัดทำอยู่ในขณะนั้นด้วยนั่นเอง แล้วอย่างนี้จะไม่เรียกมันว่า ‘หน้าจอน้ำเงินแห่งมรณะ’ ( Blue Screen of Death) ได้อย่างไร ปกติหน้าจอน้ำเงินที่ปรากฏในวินโดวส์แต่ละเวอร์ชันจะแสดงข้อความที่แตกต่างกันไป ซึ่งรวมถึงการอ้างอิงข้อผิดพลาดต่างๆ ด้วย แต่โดยพื้นฐานของความผิดพลาดที่นำไปสู่ Blue Screen of Death มักจะมีสาเหตุมาจากปัญหาการติดตั้งฮาร์ดแวร์ใหม่ ซอฟต์แวร์ใหม่ ไวรัส หรือมัลแวร์ ตลอดจนอาจเกิดจากฮาร์ดแวร์เก่า หรือฮาร์ดแวร์ที่มีปัญหา ซึ่งสาเหตุของปัญหานั้นมีมากมาย โดยขึ้นอยู่กับชนิดของคอมพิวเตอร์ และแอพพลิเคชันที่ใช้ในเครื่องของคุณ สำหรับผู้ที่ต้องเผชิญหน้ากับหน้าจอสีน้ำเงิน ต้องถือว่าเป็นเรื่องโชคร้ายจริงๆ แต่อย่างน้อยที่สุด คุณสามารถออกจากมันได้ด้วยการรีบูตเครื่องอย่างรวดเร็ว

19. FastStone อิมเมจวิวเวอร์ความเร็วสูงPicasa ของกูเกิ้ลทำให้วงการซอฟต์แวร์อิมเมจวิวเวอร์แจกฟรีตื่นตัวกันมากยิ่งขึ้น เชื่อว่าหลายคนอาจจะได้มีโอกาสลองดาวน์โหลดมาใช้แล้วด้วย อย่างไรก็ดี ความน่าสนใจของโปรแกรมอิมเมจวิวเวอร์ในปัจจุบันก็คือ มันไม่เพียงแค่ช่วยให้คุณสามารถวิวภาพได้เท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติของการแก้ไขรูปภาพที่ใช้งานได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

สำหรับฟรีแวร์ที่จะแนะนำต่อไปนี้จะเป็นอิเมจวิวเวอร์อีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เนื่องจากความเรียบง่ายของอินเทอร์เฟซของโปรแกรมทำให้คุณสามารถวิวภาพถ่ายดิจิตอลได้อย่างง่ายดาย และที่สำคัญอิมเมจวิวเวอร์ตัวนี้ยังสามารถวิวภาพได้เร็วกว่าโปรแกรมอื่นๆ ถึง 2 เท่าอีกด้วย FastStone เป็นซอฟต์แวร์อิมเมจวิวเวอร์แจกฟรี โดยนอกจากจะสามารถสืบค้น และวิวภาพได้อย่างรวดเร็วแล้ว มันยังมาพร้อมกับคุณสมบัติการแก้ไขตกแต่งภาพถ่ายที่จำเป็นอีกด้วย ซึ่งรวมถึง โหมดการแสดงผลภาพที่ต้องการแก้ไขแบบเต็มหน้าจอ

โดยซ่อนทูลบาร์ของโปรแกรม การเปรียบเทียบภาพ ลบตาแดง ปรับขนาด ตัดภาพ ปรับสี ตลอดจนส่งไฟล์ภาพถ่ายผ่านทางอีเมล์ นอกจากนี้มันยังมีส่วนแสดง EXIF เพื่อแจ้งให้ทราบถึงข้อมูลต่างๆ อาทิ ข้อมูลเกี่ยวกับตัวกล้องที่ใช้ถ่ายรูปนั้นๆ กำลังขยายที่ใช้ เป็นต้น คุณสามารถใส่เอฟเฟกต์ เพื่อทำสไลด์โชว์ ใส่หมายเหตุให้กับภาพ ใส่เงา ได้อีกด้วย FastStone สามารถทำงานร่วมกับสแกนเนอร์ และสนับสนุนฟอร์แมตกราฟิกมากมาย ฟังอย่างนี้ แล้วไม่ลองดาวน์โหลดมาใช้ดูได้อย่างไร จริงไหมครับ ?

20. โกงเกม 3D Pinballสำหรับทิปนี้เป็นเทคนิคพิเศษสำหรับการเล่นเกมพินบอลสามมิติ (Windows XP 3D Pinball) นั่นคือมนต์วิเศษ หรือคีย์เวิร์ดที่ช่วยทำให้คุณเป็นเซียนพินบอลได้ภายในพริบตา...อีกแล้วครับทั่นนน

ก่อนอื่นเปิดเกม 3D Pinball ขึ้นมาก่อน คลิ้กเลือกหน้าต่างของเกม จากนั้นพิมพ์คำว่า 1max บนคีย์บอร์ด ไม่ต้องมองหาช่องข้อความใดๆ นะครับ พิมพ์ไปดื้อๆ เลย สำหรับมนต์วิเศษนี้จะทำให้คุณได้บอลพิเศษ (extra balls) ทันที โอ้ว...จอร์จ มันยอดมากจริงๆ แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าคุณพิมพ์คำว่า rmax สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณก็คือ เกมจะเปลี่ยนไปอยู่ในระดับ (level) ถัดไปได้ทันที แต่งานนี้ไม่มีคะแนนพิศวาสใดๆ นะครับ ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น เพียงแต่คุณจะสามารถกระโดดขึ้นไปเล่นในระดับถัดไปได้ราวกับหายตัว ยัง…ยังไม่หมด ถ้าคุณอยากได้บอล (Extra balls) ไม่อั้นสำหรับเล่นเกมก็พิมพ์ bmax บนคีย์บอร์ด แต่ถ้ารู้สึกหงุดหงิดกับหน้าต่างเกมที่เล็กเกินไปก็กดปุ่ม F4 เพื่อเล่นในโหมดเต็มหน้าจอ (Full Screen) เอาเป็นว่า ลองไปใช้ดูนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น: