8 ม.ค. 2551

ผู้ชายเลือกผู้หญิงจากอะไร

*สิ่งที่ผู้ชายสนใจในตัวผู้หญิงแบ่งออกเป็น 3 เรื่องใหญ่ ๆ คือ *
(1) กามารมณ์
(2) ความรัก
(3) ความนับถือ
ทั้ง 3 ส่วน "แยกจากกัน" แต่สัมพันธ์กัน

*ผู้ชายจะตัดสินใจเลือกผู้หญิงที่มีคุณสมบัติครบทั้งสามส่วนมาเป็นภรรยา *
(***ส่วนอาจต่างกันไปสำหรับผู้ชายแต่ละคน) ส่วนผู้หญิงที่มีคุณสมบัติไม่ครบจะเป็นแค่ทางผ่าน

*1. สิ่งแรกที่ผู้ชายสนใจ คือ "กามารมณ์" (รูป-เสียง-กลิ่น-รส-สัมผัส) *
อันนี้เป็นด่านแรกที่ผู้ชายสนใจ ผู้ชายทุกคนจะเริ่มที่จุดนี้ ลองสังเกตดู ก่อนอื่นผู้ชายจะสนใจผู้หญิงที่สวย น่ารัก รูปร่างหน้าตาดี ผิวพรรณดี แต่งตัวดี (เรื่องของรูปทั้งหลายที่ผ่านทางตา) พูดจาไพเราะ เสียงหวาน เสียงออดอ้อน (เรื่องของเสียงทั้งหลายที่ผ่านทางหู) กลิ่นกายหอมยวนใจ (เรื่องของกลิ่นที่ผ่านทางจมูก) ความสุขจากการกอดจูบ มีเพศสัมพันธ์ (เรื่องของสัมผัสทั้งหลายที่ผ่านทางกาย) ที่ผู้ชายพูดกันเล่น ๆ ว่า "ขาว สวย หมวย sex" นั่นแหละ *(***ส่วน ทางกาย 40% ทางตา 40% ทางหู 15% ทางจมูก 5%) *สำหรับเรื่อง sex นี่ถึงจะพิสูจน์ไม่ได้แต่ก็จินตนาการได้ และเป็น "แรงจูงใจ" ที่ทำให้ผู้ชายทั้งหลายตามตื้อตามจีบคุณอยู่ทุกวันนี้ (ตราบใดที่ 40% นี้ยังไม่ประสบความสำเร็จ แรงจูงใจจะยังคงมีต่อไปไม่ละความพยายาม...) อย่างไรก็ดี แม้กามารมณ์จะเป็น "อันดับแรก" ที่ผู้ชายสนใจ แต่กลับเป็น "อันดับสุดท้าย" ในการตัดสินใจเลือกผู้หญิงที่จะขอแต่งงาน

คุณผู้หญิงเคยสังเกตไหมมีผู้ชายจำนวนไม่น้อยที่ไปเที่ยวผู้หญิง แต่ไม่เคยมีสักคนที่คิดจะจีบหรือขอหญิงที่เที่ยวมาเป็นภรรยา (ยกเว้นจีบเพื่อกินฟรี) ทั้งๆ ที่ผู้หญิงเหล่านี้เจนจัดในการสนองกามารมณ์ของผู้ชาย แถมหากผู้ชายรู้ว่าแฟนของตนผ่านเรื่องพรรค์นี้มากลับเป็นเรื่องใหญ่! หรือคงจะเห็นได้บ่อยๆ ที่เป็นแฟนกันแล้วผู้หญิงถูกทิ้งหลังจากเสียตัวให้ฝ่ายชาย (อาจทิ้งทันทีหรือรอสักระยะจนเบื่อ)

เพราะฉะนั้นผู้หญิงคนไหนที่คิดว่าตัวเอง "ไม่สวย" ไม่ต้องเสียใจเลยครับ การที่ผู้ชายสักคนจะมาชอบคุณอาจต้องอาศัยเวลาหน่อยกว่าจะมองเห็นคุณสมบัติในด้า­นอื่น ๆ แต่ถ้าเขารักคุณด้วยเหตุผลอื่นที่เหนือกว่าคุณกลับมีโอกาสสูงที่จะได้เป็น "ภรรยา" ไม่ใช่ "คู่นอน" และไม่ต้องถูกทอดทิ้งในภายหลัง ความเข้าใจผิดประการหนึ่งของผู้หญิงสมัยนี้คือ ความคิดที่จะผูกมัดผู้ชายด้วย "sex" กลัวเขาจะทิ้งหากไม่ยอม ผมกล้าพูดได้เต็มปากชนิด 100% เลยว่า "ถ้าผู้ชายคนไหนบอกว่าจะทิ้งคุณไปเพราะเหตุว่าคุณไม่ยอมมีอะไรกับเขา ผู้ชายคนนั้นกำลังหลอกคุณและเขาหวังเฉพาะเรือนร่างของคุณโดยไม่ได้รักคุณเลย !!!!จริงอยู่กามารมณ์เป็นสิ่งที่ผู้ชายต้องการ แต่ไม่ใช่สิ่งที่สามารถผูกมัดผู้ชายไว้ได้ เขาจะมีคุณคนเดียวหรือมีผู้หญิงอื่นอีกเท่าไหร่ก็ได้เพราะไม่เกี่ยวกัน (ชอบกินส้ม ไม่ได้หมายความว่าจะไม่กินทุเรียน น้อยหน่า ฯลฯ) กามารมณ์เป็นสิ่งที่จากไปได้เร็วกว่าคุณสมบัติอื่น ๆ (มาก่อนก็ไปก่อน) คนที่สวยกว่ายังมี อายุมากขึ้น ก็สู้สาว ๆ ไม่ได้แล้ว หรือพอเคยชินเข้าก็เบื่อ นอกจากนี้ "แรงจูงใจที่ได้รับการตอบสนองแล้วจะไม่สามารถใช้จูงใจได้อีก"

ดังนั้น ถ้าผู้หญิงรู้จักใช้แรงจูงใจทาง sex ที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองของผู้ชายให้เป็นประโยชน์ ดึงให้ผู้ชายผ่านระยะเวลาจนมีพัฒนาการทางด้าน (2) ความรัก และ (3) ความนับถือ เรื่อยไปจนถึงการแต่งงาน จึงจะนับว่าเป็นผู้หญิงฉลาดไม่ต้องเสียคนรักไปในภายหลัง (ถ้าจะเสียก็เสียผู้ชายเลว ๆ ที่ไม่ได้รักเราจริงแต่ไม่ต้องเสียตัวเสียใจ เมื่อวันนึงเจอผู้ชายดี ๆ ที่รักเราจริงและเราต้องเป็นแม่ของลูกเขา)

*2. สิ่งต่อไปที่ผู้ชายต้องการจากผู้หญิงคือ "ความรัก" *
ความรัก หมายถึง การเข้าอกเข้าใจ ความเป็นห่วงเป็นใยเอื้ออาทร การพูดคุยกันรู้เรื่อง ฯลฯ ที่เป็นเรื่องของจิตใจล้วนๆ แบบเดียวกับที่ผู้หญิงรักผู้ชายนั่นแหละไม่ต่างกัน ความรักจะมีอิทธิพลในระดับสูงกว่ากามารมณ์ที่กล่าวถึงในตอนต้น

แต่สำหรับผู้ชาย การที่จะพัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นความรักจะช้ากว่าผู้หญิง เพราะมัวไปหลงด้านกามารมณ์ซะมาก (ที่บอกว่ารักก็อิงกับกามารมณ์ไม่ใช่รักแบบที่ผู้หญิงคิด) จนเมื่อเวลาผ่านไป ผ่านอุปสรรคความยากลำบากต่างๆ มีการพิสูจน์ใจกันมีการมุ่งมั่นสร้างหลักฐานเก็บเงินแต่งงาน สร้างอนาคต พิสูจน์ตัวเองให้พ่อ-แม่ฝ่ายหญิงยอมรับ ฯลฯ จึงเกิดเป็นความรัก ผู้หญิงสมัยนี้ชอบเสียท่าผู้ชายก่อนที่ผู้ชายจะเกิดความรักจริงๆ จึงต้องเสียใจที่ถูกทิ้ง ที่จริงแล้วคนสมัยก่อนเขามีกุศโลบายให้ผู้หญิงรักนวลสงวนตัว ให้ผู้ชายอดทนทำงานเก็บเงินมาสู่ขอ ก็เพื่อพัฒนาตรงจุดนี้ เพราะมันต้องใช้เวลาและผ่านความยากลำบากมาจึงจะเกิดความรักแบบนี้ได้ (สำหรับผู้ชาย) ก็ไปหาว่าหัวโบราณบ้าง ไม่ทันสมัยบ้าง ที่จริงคนสมัยนี้ยิ่งเรียนก็ยิ่งโง่ แล้วก็มานั่งเสียใจไม่รู้ว่าชีวิตทำไมมีแต่ปัญหา

อีกเรื่องที่ไม่ค่อยยุติธรรมคือ ส่วนใหญ่ผู้ชายที่รักผู้หญิงจริงชนิดหมดหัวใจกลับไม่ค่อยกล้าที่จะบอกหรือแสดงว­่ารัก ส่วนผู้ชายที่ปากหวานบอกรัก กลับเป็นผู้ชายประเภทเจ้าชู้ที่ผ่านผู้หญิงมามาก (และจะผ่านต่อไป)

สาเหตุก็คือ ผู้ชายที่รักเดียวใจเดียวจะไม่ค่อยสันทัดกับการจีบผู้หญิง และไม่ค่อยมีประสบการณ์ทางด้านนี้ กลัวว่าหากทำอะไรผิดพลาดอาจสูญเสียคนที่ตนรักไป ในขณะที่ผู้ชายเจ้าชู้จะมีประสบการณ์มามากในการจีบผู้หญิง รู้ว่าจะต้องพูดอย่างไรและถึงจีบไม่สำเร็จก็ไม่กลัวเพราะไม่ได้รักอะไรมากมาย
.. แต่เชื่อไหม? ผู้หญิงส่วนใหญ่กลับมองไม่ออกว่าผู้ชายคนไหนที่รักจริง (รำคาญด้วยซ้ำ) ชอบแต่จะฟัง "คำพูด" แค่บอกว่ารักก็เชื่อสนิท...เสร็จเสือผู้หญิง!

*3. สิ่งต่อไปคือ "ความนับถือ" หรือ "ความดี" *ผู้ชายต้องการให้ผู้หญิงวางตัวในลักษณะเป็นที่น่านับถือเกรงใจ หรือพูดง่ายๆ คือ
*"เป็นคนดี วางตัวเหมาะสม" *

ผู้ชายส่วนใหญ่จะชอบผู้หญิงที่อ่อนหวานเรียบร้อย รักนวลสงวนตัว ให้เกียรติและมีความซื่อสัตย์ต่อสามี และมีวุฒิภาวะทางอารมณ์สูง (ไม่จู้จี้ขี้บ่น ไม่หึงหวงแบบไร้เหตุผล ไม่ทำตัวหวาดระแวงเป็นนักสืบ ฯลฯ)

อย่างเช่น ผู้ชายแอบไปมีเมียน้อยหรือเที่ยวผู้หญิง (อย่างที่กล่าวข้างต้นกามอารมณ์กับความรักสำหรับผู้ชายเป็นคนละส่วนกัน ผู้ชายทุกคนชอบดูรูปโป๊แต่ไม่เคยจำหน้าผู้หญิงในรูปได้) แต่จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่วางตัวเหนือกว่าทางด้านวุฒิภาวะ ลองผู้หญิงนิ่งๆ รู้ทัน แต่ไม่เอะอะโวยวายดูสิ ขี้คร้านผู้ชายจะเกรงใจไม่กล้าทำอีก เรื่องความดีหรือความนับถือนี่เป็นสิ่งที่สำคัญ "มากที่สุด" ที่ผู้ชายอยากได้หญิงบริสุทธิ์มาเป็นภรรยาก็เพราะมันมีส่วนสัมพันธ์กับความดี ไม่ใช่เห็นแก่ตัวอย่างที่ผู้หญิงคิดกัน (แต่ทางกามารมณ์ก็มีอยากได้ของใหม่ ๆ สะอาด กระชับ ได้อารมณ์ และเป็นของเราคนเดียวไม่ใช้ร่วมกับใคร) อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายหรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม (ก็ขนาดพ่อแม่รักจะตาย ยังขาดความยับยั้งชั่งใจแอบหนีไปมีอะไรกับใครได้ จะมั่นใจได้ยังไงว่าต่อไปจะไม่แอบไปมีชู้)

*ผู้ชายที่หลอกฟันหญิงบริสุทธิ์แล้วทิ้ง *
ก็เพราะเขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนดีที่น่านับถืออีกต่อไป (ผู้หญิงดีๆ ที่เป็นหม้ายเพราะสามีตายยังน่าขอแต่งงานด้วยมากกว่าผู้หญิงโสดที่มีพฤติกรรมไม­่เหมาะสม)

อย่างไรก็ตามผู้หญิงคนไหนที่ชีวิตผิดพลาดไปแล้วขอให้หยุดแค่นั้นอย่าให้เกิดขึ้­นอีก (ถ้าคุณเป็นคนที่ดีจริง ๆ เขาจะอภัยให้คุณแม้จะเสียใจลึก ๆ) คุณลองดูคู่แต่งงานที่อยู่กินกันมานาน ดูคุณพ่อคุณแม่คุณก็ได้ ทุกวันนี้เขายังหวานแหววแบบหนุ่มสาวไหม
เมื่อเวลาผ่านไปความสำคัญทางกามารมณ์ลดลง

*ก็จะมี "ความรัก"และ "ความนับถือ" หรือ "ความดี" *นี่แหละที่จะทำให้อยู่กันไปได้ตลอด *ที่เขียนมาทั้งหมดก็หวังจะให้เป็นวิทยาทานแก่คุณผู้หญิงทั้งหลายนะครับ *(คุณผู้หญิงคงจะอ่านไปด่าไที่ผู้ชายมีความคิดสกปรกเห็นแก่ตัวแบบนี้) สำหรับตัวผมเองเป็นผู้ชาย อยู่ในสังคมของผู้ชายย่อมเข้าใจนิสัยของผู้ชายดี ก็อยากให้ผู้หญิง (ที่พอจะรับฟังในสิ่งที่ผมพูด) มีความสุขสมหวังไม่ต้องเสียอกเสียใจ และพบกับปัญหาชีวิตคู่ (แบบว่าเห็นมามาก)

ไม่มีความคิดเห็น: