ผมเดินทางโดยสายการบินนกแอร์ Flight DD7507 จากภูเก็ตไปกรุงเทพฯ โดยเข้าcheck in เวลาประมาณ12:30น. โดยนำกระเป๋าเป้ให้เจ้าหน้าที่check inส่งไปตามสายพานเพื่อload (ในกระเป๋าเป้มีกล้องดิจิตอล Canon IXY 60 และล็อคซิปด้วยกุญแจรหัสขนาดเล็ก) เครื่องออกเวลา 14:00น. และถึงสนามบินดอนเมืองเวลาประมาณ 15:30น. เมื่อผมได้รับกระเป๋าจากสายพานก็ขึ้นรถส่วนตัวออกจากสนามบิน เมื่อถึงที่พักก็พบว่าซิปกระเป๋าเปิดอยู่ ส่วนกุญแจล็อคมีร่องรอยโดนงัด และกล้องดิจิตอลหายไป
ผมได้โทรไปแจ้งที่ 1318 เจ้าหน้าที่รับเรื่องไว้ แล้วก็เงียบหาย ผมจึงไปแจ้งความกับสถานีตำรวจท้องที่แล้ว วันที่ 18 ม.ค. 51 ผมโทรไปที่นกแอร์ภูเก็ต เพื่อสอบถามรายละเอียด แต่ก็ได้รับคำตอบว่า" เราไม่มีนโยบายชดใช้เงินให้ผู้โดยสาร เพราะไม่รู้ว่าผู้โดยสารได้นำสิ่งของนั้นใส่กระเป๋ามาจริงหรือไม่ เว้นแต่ถ้ากระเป๋าหายทั้งใบจะชดใช้ให้ไม่เกิน 2000บาท"
ทั้งหมดที่เล่ามานั้น หมายความว่า ทางสายการบินจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญหายของทรัพย์สินของผู้โดยสารเลยใช่ไหม?ทั้งๆที่ทรัพย์สินนั้นอยู่ภายใต้ความดูแลของสายการบิน และพื้นที่นั้นก็เป็นเขตหวงห้ามบุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าไปได้
ผมไม่ทราบว่าทำไมในจำนวนกระเป๋าเป็นร้อยๆใบ มันจึงเจาะจงกระเป๋าของผม(ซึ่งมันก็ดูมอมแมมไม่น่าจะมีทรัพย์สินอะไร) หรือว่าพอผ่านเครื่องเอ็กซ์เรย์แล้วก็รื้อกระเป๋าเลย หมายความว่าโจรพวกนี้ทำเป็นขบวนการ
เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าการเดินทางโดยเครื่องบิน เป็นการเดินทางที่ปลอดภัยที่สุดทั้งชีวิตและทรัพย์สินแต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว และผมคงต้องประกาศให้ผู้อื่นระวังตัวด้วย จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อโจรในสนามบินอีก "อย่านำทรัพย์สินมีค่าใส่ในกระเป๋าที่จะloadเด็ดขาด"
ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะเสียหายต่อการท่องเที่ยวมากแค่ไหน? ประเทศไทยกลายเป็นเมืองโจรไปแล้วหรือ?ทางสายการบินจะมีมาตรการแก้ไขอย่างไร? หรือจะเลี้ยงโจรไว้ก่อเรื่องอีก?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น