22 ม.ค. 2551

อย่ามองข้ามโรควูบ

อาการวูบ อาจเกิดได้กับทุกคนโดยไม่ทราบสาเหตุ บางครั้งมีอาการร่วมกับวิงเวียนศีรษะ เป็นลมหมดสติ แขนขาอ่อนแรงชั่วขณะ แพทย์เตือนว่า นี่อาจเป็นสัญญาณความผิดปกติของหัวใจหรือสมอง ซึ่งอาจนำไปสู่การเป็นอัมพาต หรือโรคหัวใจ ถึงขั้นเสียชีวิตได้

รศ.นพ.องค์การ เรืองรัตนอัมพร จากศูนย์หัวใจกรุงเทพ กล่าว่าอาการวูบหรือการเป็นลมหมดสติ เป็นอาการที่พบบ่อย เป็นภาวะที่ร่างกายสูญเสียความรู้สึกตัวและแรงของกล้ามเนื้อชั่วคราว อันเป็นผลมาจากเลือดไปเลี้ยงก้ามประสาทสมองลดลง ซึ่งมีปัจจัยเกี่ยวข้องจากปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจและแรงต้านทานของหลอดเลือดทั่วร่างกาย อาการวูบนี้มักจะฟื้นกลับเป็นปกติได้เอง และอาจเป็นซ้ำได้อีก

จากการสำรวจในต่างประเทศพบว่าเกือบ 10% ของผู้ป่วยที่มาพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา และผู้ใหญ่กว่า 50% ต่างเคยมีอาการวูบมาแล้วอย่างน้อย 1 ครั้ง ผู้ป่วยวูบหมดสติ ที่หาสาเหตุไม่ได้มีอัตราเสียชีวิตในปีแรกที่เป็นสูงถึง 6% โดยที่ 4% เสียชีวิตแบบเฉียบพลัน แต่หากมีสาเหตุจากโรคหัวใจ อัตราเสียชีวิตในปีแรกที่เป็นจะสูงถึง 18 - 33% โดยที่ 24% เป็นการเสียชีวิตแบบเฉียบพลัน สำหรับคนที่ปฏิบัติวิชาชีพ เช่น พนักงานขับรถ นักบิน กรรมกรก่อนสร้าง หรือปฏิบัติงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ยิ่งมีความเสี่ยงในการเสียชีวิตหลังจากอาการวูบได้สูงขึ้น

สาเหตุของภาวะวูบหมดสตินี้ แบ่งได้เป็น 4 กลุ่มใหญ่ ได้แก่

เหตุจากหลอดเลือด เช่น ภาวะขาดน้ำ ตกเลือด ได้รับยาขยายหลอดเลือดชนิดต่าง ๆ ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานไวผิดปกติ ทำให้หลอดเลือดขยายตัว

สาเหตุจากหัวใจ เช่น ลิ้นหัวใจตีบ โรคหลอดเลือดหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจหนาผิดปกติ ภาวะหัวใจเต้นเร็วหรือช้าผิดปกติ

สาเหตุจากสมอง เช่น ภาวะหลอดเลือดสมองตีบ หรืออุดตัน ปวดศีรษะ ไมเกรน โรคลมชัก

สาเหตุอื่น ๆ เช่น ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หอบเหนื่อย เครียด ได้รับแอลกอฮอล์ หรือยาบางชนิด

ดังนั้นใครที่เคยมีอาการวูบ ควรเข้ารับการตรวจรักษาเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและหาหนทางแก้ไข แม้จะมีเพียง 75% ของคนที่เคยมีอาการวูบที่หาสาเหตุได้ แต่ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะอย่างน้อยอาการวูบก็เป็นสัญญาณเตือนอย่างหนึ่งถึงความผิดปกติของร่างกายของคุณแล้วล่ะค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น: