18 มี.ค. 2551

ดูแลรักษาแปรงสีฟันให้ปลอดเชื้อ

พอนึกถึงแปรงสีฟันแล้ว เรามักจะตั้งคำถามอยู่บ่อยๆ ว่าจะเลือกแปรงอย่างไรดี เอาแบบด้ามตรง ด้ามงอ หรือขนแปรงนิ่ม อ่อนแข็งขนาดไหน? แปรงสีฟันเป็นของจำเป็นที่ใช้ทุกวันในการขจัดคราบอาหาร สิ่งสกปรกที่ติดตามตัวฟัน เพื่อป้องกันฟันผุและเหงือกอักเสบ อีกมุมมองหนึ่ง คุณทราบไหมว่า แปรงสีฟันเป็นที่กักเก็บเชื้อโรคได้อย่างดียิ่ง !! ปัจจุบันนี้มีการวิจัยพบว่าแปรงสีฟันเป็นที่อาศัยของเชื้อโรคที่อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ทั้งในช่องปากและไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย ปกติแล้วในช่องปากเป็นที่สะสมของแบคทีเรียหลายร้อยชนิด การที่เชื้อจากคนหนึ่งจะไปสู่อีกคนหนึ่ง แปรงสีฟันก็เป็นสาเหตุได้เช่นกัน เป็นบ้านอย่างดีของแบคทีเรีย เมื่อ...

• แปรงสีฟันสัมผัสกับน้ำลาย

• ถูกเลือดโดยเฉพาะคนที่เป็นโรคเหงือกอักเสบ
ทราบกันดีอยู่ว่ามีหลายโรคที่แพร่กระจายทางน้ำลายและเลือด เช่น ไวรัสตับอักเสบ HIV เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็มีการศึกษาว่าจะทำอย่างไร ที่จะลดเชื้อแบคทีเรียไม่ให้มาสะสมที่แปรงสีฟัน สมาคมทันตแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกาเขาแนะนำว่าการดูแลรักษาแปรงสีฟันอย่างนี้ครับ

• อย่าใช้แปรงสีฟันร่วมกัน
เพราะการใช้แปรงร่วมกัน โอกาสสัมผัสกับน้ำลาย เลือด ของอีกคนได้ง่ายมากๆเสี่ยงต่อการติดเชื้อโดยตรงเลยครับ

• ล้างขนแปรงด้วยน้ำก๊อก
หลังจากแปรงฟันเสร็จ เพื่อเอายาสีฟันที่ค้างและสิ่งสกปรกออก แล้ววางให้ตั้งตรง ให้ขนแปรงถูกอากาศพัดให้แห้ง หากมีแปรงหลายอัน ก็อย่าให้ขนแปรงมาชนกันหรือสัมผัสกันเพื่อป้องกันการปนเปื้อน

• อย่าเก็บแปรงในกล่องปิด
เพราะแบคทีเรียจะเจิรญเติบโตได้ดีในที่ชื้นๆ แต่ถ้าขนแปรงถูกอากาศ ก็จะไม่เปียก แบคทีเรียไม่ชอบ จึงควรวางให้แห้งด้วยอากาศดีกว่า

• ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆ 3-4 เดือน
อย่าใช้แปรงจนขนแปรงบานนะครับ เพราะประสิทธิภาพในการขจัดเอาเศษอาหารจะลดลง แถมยังอาจทำร้ายเหงือกมากขึ้นด้วย อย่าเสียดายเลย ต้องเปลี่ยนแปรงตามระยะ อย่างไรเสียค่าทำฟันก็แพงกว่าค่าแปรงสีฟันมากครับแปรงให้ถูกวิธี จัดเก็บแปรงให้ถูกต้อง สุขภาพฟันของคุณจะสมบูรณ์และมีฟันให้เคี้ยวอาหารนาน ๆ

ไม่มีความคิดเห็น: