20 พ.ย. 2550

บินกับ การบินไทย ระวัง !!!! ของหาย....ทำกันเป็นกระบวนการ!!!!

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับผม เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2550 ผมต้องเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ ผมเลือกเดินทางด้วยสายการบินไทย แม้ว่าราคาตั๋ว 3 เดือน จะแพงกว่าสายการบินในประเทศอื่น ๆ เท่าตัว เพราะเชื่อมั่นในคุณภาพของการให้บริการ แต่ลองมาดูสิ่งที่ผมได้รับจากการซื้อตั๋วโดยสารราคาแพงของการบินไทยนะครับ

ข้อมูลการเดินทางครั้งนี้ ผมบินกับเที่ยวบิน TG 1124 ที่นั่ง G40 ออกจากท่าอากาศยานดอนเมืองเวลา 21.35 น. ถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่เวลาประมาณ 22.37 น. เป็นเที่ยวบินสุดท้ายที่เดินทางออกจากท่าอากาศยานดอนเมืองในวันนั้น

เช็คอิน !!! ผมเอาเป้ที่บรรจุสัมภาระเต็มตั้งใจจะโหลด ผ่านเครื่องเอกซ์เรย์ เจ้าหน้าที่ไม่ยอมติดสติกเกอร์ผ่านการตรวจ พอมาเช็คอินที่เคาน์เตอร์ พนักงานบอกให้ผมเอาไปผ่านเครื่องใหม่แล้วให้เจ้าหน้าที่ติดสติกเกอร์ ผมก็วิ่งไปทำตามโดยดี เป็นด่านแรกที่รู้สึกแย่กับ ระบบการให้บริการ เนื่องจากผมมีถุงสัมภาระที่ต้องหิ้วขึ้นเครื่อง ผมจึงได้นำกล้อง Digital Sony Cyber shots ซึ่งบรรจุในกล่องกันกระแทก และเอาใส่ถุงผ้าเล็ก ๆ มัดปากถุงอย่างดี ไว้ในเป้ที่โหลดลงเครื่องด้วย เพราะก่อนหน้านี้ ผมบินกับสายการบินอื่นก็ไม่พบปัญหาอะไร แล้วบินกับการบินไทยผมยิ่งเชื่อมั่นในบริการ

ครั้งสุดท้ายที่เห็นคือ เป้ของผมอยู่ในสภาพปกติทุกอย่างก่อนที่จะลำเลียงเข้าสายพานไปเพื่อโหลด

พอเครื่องบินมาถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่ ผมไปยืนรอเป้ ที่สายพานลำเลียง สักประมาณ 10 นาที สิ่งที่ผมเห็นคือถุงผ้าที่ใส่กล้อง ถูกวางมาบนสายพานนอกเป้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดปกติ แล้วเป้ผมก็ถูกวางมาห่างจากถุงผ้าดังกล่าวประมาณ 1.5 เมตร ผมหยิบถุงผ้าขึ้นมาก่อน ค่อนข้างตกใจเพราะเบามากเมื่อเปิดดูปรากฎว่าไม่มีกล้อง พอหยิบเป้ขึ้นมาดูพบว่า ซิปด้านข้างเป้ถูกเปิดออก

ผมนำสัมภาระทั้งหมดในสภาพดังกล่าว ไปแจ้งฝ่ายรับแจ้งของหาย ที่ใกล้กับประตูทางออก เจ้าหน้าที่รับแจ้ง โดยถามเพียงว่าอะไรหาย ไม่ถามรายละเอียดยี่ห้อ รุ่น สี ราคาอะไรเลย คือ รับแจ้งตามหน้าที่แล้วบอกให้ผมโทรมาสอบถามตามหมายเลขที่ให้ไว้ (ปัดภาระให้เป็นของผู้โดยสาร)

ผมรออยู่พักใหญ่ จนนักบินและพนักงานต้อนรับเดินผ่านมา ผมบอกว่า กล้องถ่ายภาพผมหาย พนักงานต้อนรับบนเครื่องหญิงท่านหนึ่ง ซึ่งผมเข้าใจว่าเป็นหัวหน้าในเที่ยวบินนี้ (เพราะตอนอยู่บนเครื่องพนักงานคนอื่น ๆ เรียกว่าพี่) พนักงานท่านนี้ได้ยิ้มแบบขำๆ แล้วบอกกับผมซึ่งยืนหน้าเสียและเป็นกังวลว่า “เป็นเรื่องธรรมดาค่ะพี่ เกิดขึ้นบ่อยมาก ที่กระเป๋าผู้โดยสารที่โหลดลงเครื่อง ถูกล้วงเอาของมีค่า ขโมยไป ”

ตอนนี้ทุกคนคงนึกภาพออกว่า ในขณะที่ผมยืนหน้าจ๋อย เพราะมีไฟล์รูปภาพที่ผมต้องนำไปใช้งาน อยู่ในนั้นทั้งหมด หายไปกับกล้อง แต่พนักงานต้อนรับสาวสวยของการบินไทยฯ กลับยืนพูดให้ดูเป็นเรื่องปกติ เหมือนเป็นความภาคภูมิใจในบริการอีกประเภทหนึ่งของการบินไทย ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรสตาร์อัลไลน์อัลน์

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นที่ความประมาทของผมเอง ที่เอากล้องดิจิตัล ใส่ในเป้ที่โหลดลงไปแทนที่จะถือไว้ แต่เนื่องจาก ผมมีความเชื่อมั่นในคุณภาพบริการ และระบบความปลอดภัย ของบริษัทการบินไทย จำกัด มหาชน สายการบินแห่งชาติ จึงยอมที่จะซื้อตั๋วที่ราคาแพงกว่าสายการบินอื่น อีกทั้งก่อนหน้านี้ผมก็เคยบินกับ ไทยแอร์เอเชีย นกแอร์ วัน-ทู-โก ก็ไม่เคยเจอกับเหตุการณ์ถูกขโมยของในประเป๋าสัมภาระแบบนี้

จึงอยากจะเตือนทุกท่านไว้เป็นอุทาหรณ์ ก่อนที่จะเลือกซื้อตั๋วของสายการบินเพื่อเดินทางไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ โปรดคิดสักนิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น อีกอย่างผมสอบถามไปยังเพื่อน ๆ เพื่อขอคำปรึกษา หลายคนบอกว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้บ่อย แต่การบินไทย ไม่เห็นมีท่าทีว่าจะจัดการอย่างไร “คนที่ขโมยของ” ก็ยังคงกล้าทำอยู่เรื่อยๆ เพราะฉนั้น โปรดระวัง !!!!! ถ้าบินกับการบินไทย ระวังถูกล้วงกระเป๋าสัมภาระ ถูกโขมยของ และถูกหัวเราะซ้ำจากพนักงานต้อนรับในความประมาทของเรา.....

ใครมีคำแนะนำที่ดีๆ กรุณาตอบกลับมาหให้ด้วยนะครับ และขอความกรุณาส่งเมล์ดังกล่าวนี้ไปให้กับเพื่อนหรือญาติของท่านที่จะต้องเดินทางด้วยเครื่องบินบ่อย ๆ เพื่อจะได้ระมัดระวังกันต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น: