27 พ.ย. 2550

อาชีพกับความเสี่ยง

ธุรกิจ “ประกันภัย” การแลกรับผลประโยชน์ บนความเสี่ยง องค์กรธุรกิจแต่ละแห่งมี กฎเกณฑ์พิจารณาความเสี่ยงของลูกค้าแลกการปกป้องคุ้มครอง หรือรับประกันทรัพย์สิน แตกต่างกันไป บ้างมีความเสี่ยงน้อย จ่ายเบี้ยประกันต่ำ แต่ได้รับผลประโยชน์ คุ้มครองสูง บ้างความเสี่ยงสูง จ่ายเบี้ยประกันมาก แต่ได้รับการคุ้มครองน้อย

เฉพาะประเทศอังกฤษ ผลสำรวจมาตรฐานกฎเกณฑ์ของธุรกิจประกันภัย 13 แห่ง ถึงการ เรียกเก็บค่าธรรมเนียมประกันภัยรถยนต์รายปีของลูกค้าหลากหลายอาชีพจำนวน 365 ราย

ผลประโยชน์การอ้างสิทธิคุ้มครอง (เคลมประกัน) คือครอบคลุมเต็มรูปแบบ บริษัท ประกันรับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายให้ทั้งฝ่ายชนและฝ่ายถูกชนทุกกรณี แต่การเรียก เก็บค่าธรรมเนียมประกันภัยของลูกค้าแต่ละอาชีพกลับแตกต่างกันลิบลับ...

ไม่น่าเชื่ออาชีพถูกเรียกเก็บเบี้ยประกันภัยรถยนต์แพงมากที่สุดคือ นักฟุตบอล อาชีพ ตกปีละ 1,348 ปอนด์ หรือเกือบ 1 แสนบาท ตามด้วยอาชีพ นักแสดงตลก 1,227 ปอนด์ หรือราว 87,117 บาท

“ท็อปเทน” สุดยอดอีก 8 อันดับ คือ นักแสดงเสี่ยงตายแทนดารา หรือสตั๊นต์แมน หมอ ดู นักแสดงละครสัตว์ คนขับแท็กซี่ นักข่าว ช่างก่อสร้าง พ่อค้าฟืน และพนักงานทำ ความสะอาด อันดับ 11-15 คือ คนเลี้ยงผึ้ง ช่างยนต์ ครูสอนขับรถยนต์ พนักงานเก็บ ขยะ และพนักงานขายโทรศัพท์

ส่วนกลุ่มอาชีพที่ธุรกิจประกันภัยรถยนต์คิด เบี้ยประกันต่ำที่สุดคือ เลขานุการ เสียเบี้ยประกันภัยแค่ปีละ 501 ปอนด์ หรือราว 35,571 บาท ตามด้วยอาชีพ ตำรวจ 574 ปอนด์ หรือราว 40,754 บาท ที่ปรึกษาด้านคอมพิวเตอร์ ผู้ช่วยพยาบาล ผู้ จัดการธนาคาร แพทย์ ทนายความ ครู พนักงานดับเพลิง นักธรรมชาติวิทยา พนักงานขับ รถยนต์ทั่วไป และกลุ่มคนรับซื้อหุ้น ล้วนติดอยู่ใน 15 อันดับ อาชีพจ่ายเบี้ย ประกันภัยรถยนต์ต่ำที่สุด

“คอนฟิวส์เต็ด ดอทคอม” เว็บไซต์นำเสนอข่าวฉงนและเรื่องที่ผู้คนงงงวย ตั้งคำถาม ถึงความยุติธรรมในกฎเกณฑ์การพิจารณาความเสี่ยงของบุคคลแต่ละอาชีพ ที่เกี่ยวข้อง กับการขับรถและจ่ายเบี้ยประกันภัยรถยนต์แล้ว ยังไม่ได้รับคำตอบชัดเจน บริษัท ประกันภัยแค่บอกว่าใช้ประสบการณ์ประเมินความเสี่ยงของลูกค้ากันเอาเอง

นั่นหมายความว่า ผู้ขับขี่รถยนต์ทุกอาชีพต้องเลือกบริษัทประกันภัยให้ดีที่สุด เพื่อจ่ายน้อย แต่ได้รับผลประโยชน์คุ้มครองและรับผิดชอบต่อลูกค้าดีที่สุด...

ไม่มีความคิดเห็น: