Download :
http://w15.easy-share.com/8730771.html
31 ต.ค. 2550
WHAT IS YOUR DATE OF BIRTH, MATCH AND SEE WHAT ANIMAL ARE YOU...
WHAT IS YOUR DATE OF BIRTH, MATCH AND SEE WHAT ANIMAL ARE YOU...
January 1 - 9 ~ Dog
January 10 - 24 ~ Mouse
January 25 - 31 ~ Lion
February 1 - 5 ~ Cat
February 6 - 14 ~ Dove
February 15 - 21 ~ Turtle
February 22 - 28 ~ Panther
March 1 - 12 ~ Monkey
March 13 - 15 ~ Lion
March 16 - 23 ~ Mouse
March 24 - 31 ~ Cat
April 1 - 3 ~ Dog
April 4 - 14 ~Panther
April 15 - 26 ~Mouse
April 27 - 30 ~Turtle
May 1 - 13 ~ Monkey
May 14 - 21 ~ Dove
May 22 - 31 ~Lion
June 1 - 3 ~ Mouse
June 4 - 14 ~ Turtle
June 15 - 20 ~ Dog
June 21 -24 ~ Monkey
June 25 - 30 ~ Cat
July 1 - 9 ~ Mouse
July 10 - 15 ~ Dog
July 16 - 26 ~ Dove
July 27 - 31 ~ Cat
August 1 - 15 ~ Monkey
August 16 - 25 ~ Mouse
August 26 - 31 ~ Turtle
September 1 - 14 ~ Dove
September 15 - 27~ Cat
September 28 - 30~ Dog
October 1 - 15 ~ Monkey
October 16 - 27 ~ Turtle
October 28 - 31 ~Panther
November 1 - 16 ~ Lion
November 17 -30 ~ Cat
December 1 - 16 ~ Dog
December 17 - 25 ~ Monkey
December 26 - 31 ~ Dove
Dog
Your Attractive and popular. Your nice and easy going and make friends with everyone very easily. Your cool and smart and are a leader.
Cat
Your very shy and cute. You are a follower and dont like to talk to people you dont know. Your very careful about choosing your friends. Your really nice.
Monkey
You are attractive and hyper. You have a lot of friends and your really outgoing. You gossip alot. Your funky and "unique" theres no one else like you. You want attention and like to be a leader.
Panther
You are mysterious. You have lots of friends and can be mean at times or nice. You always have the latest gossip with you and you are a leader.
Mouse
Your very quiet and quick - witted. You are very shy. Your cute and funny. You have a little group of friends. Youare not "popular" but you are not a "geek"
Lion
You are a born leader. People look up to you. You have lots a friends and you are very attractive. Your nice andpeople want to be your friend. You make friends easily.
Turtle
You are very nice and pretty. You treat others as you would want to be treated yourself. You have lots of friends and never talk about anyone behind their back. You are loyal.
Dove
Your very peaceful and nice. You fall in love very easily and you are quiet and calm. You are not very shy but you are not outgoing. You are a leader of your group of friends
January 1 - 9 ~ Dog
January 10 - 24 ~ Mouse
January 25 - 31 ~ Lion
February 1 - 5 ~ Cat
February 6 - 14 ~ Dove
February 15 - 21 ~ Turtle
February 22 - 28 ~ Panther
March 1 - 12 ~ Monkey
March 13 - 15 ~ Lion
March 16 - 23 ~ Mouse
March 24 - 31 ~ Cat
April 1 - 3 ~ Dog
April 4 - 14 ~Panther
April 15 - 26 ~Mouse
April 27 - 30 ~Turtle
May 1 - 13 ~ Monkey
May 14 - 21 ~ Dove
May 22 - 31 ~Lion
June 1 - 3 ~ Mouse
June 4 - 14 ~ Turtle
June 15 - 20 ~ Dog
June 21 -24 ~ Monkey
June 25 - 30 ~ Cat
July 1 - 9 ~ Mouse
July 10 - 15 ~ Dog
July 16 - 26 ~ Dove
July 27 - 31 ~ Cat
August 1 - 15 ~ Monkey
August 16 - 25 ~ Mouse
August 26 - 31 ~ Turtle
September 1 - 14 ~ Dove
September 15 - 27~ Cat
September 28 - 30~ Dog
October 1 - 15 ~ Monkey
October 16 - 27 ~ Turtle
October 28 - 31 ~Panther
November 1 - 16 ~ Lion
November 17 -30 ~ Cat
December 1 - 16 ~ Dog
December 17 - 25 ~ Monkey
December 26 - 31 ~ Dove
Dog
Your Attractive and popular. Your nice and easy going and make friends with everyone very easily. Your cool and smart and are a leader.
Cat
Your very shy and cute. You are a follower and dont like to talk to people you dont know. Your very careful about choosing your friends. Your really nice.
Monkey
You are attractive and hyper. You have a lot of friends and your really outgoing. You gossip alot. Your funky and "unique" theres no one else like you. You want attention and like to be a leader.
Panther
You are mysterious. You have lots of friends and can be mean at times or nice. You always have the latest gossip with you and you are a leader.
Mouse
Your very quiet and quick - witted. You are very shy. Your cute and funny. You have a little group of friends. Youare not "popular" but you are not a "geek"
Lion
You are a born leader. People look up to you. You have lots a friends and you are very attractive. Your nice andpeople want to be your friend. You make friends easily.
Turtle
You are very nice and pretty. You treat others as you would want to be treated yourself. You have lots of friends and never talk about anyone behind their back. You are loyal.
Dove
Your very peaceful and nice. You fall in love very easily and you are quiet and calm. You are not very shy but you are not outgoing. You are a leader of your group of friends
อาการของการเกิดมะ เร็งในอวัยวะ ต่างๆ
1. มะเร็งปากมดลูก
อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติของคุณอาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การตรวจโดยขูด เนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะรู้ได้
2. มะเร็งในมดลูก
อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่องท้อ
3. มะเร็งรังไข่
อาการ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออนหรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการ ปวดหลัง
4. มะเร็งในเม็ดเลือด (ลูคีเมีย)
อาการเหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติมักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุและมักจะเกิดร่วมกับอาหารปวดตามข้อต่าง ๆ ทั่วร่างกายบางครั้งจะท้องอืดและเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของช่องท้อง
5. มะเร็งปอด
อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆ มีเลือดออกและมีเสมหะปนมากับน้ำลายน้ำหนักลดอย่างฮวบฮาบ เจ็บ หน้าอกและหายใจลำบากหรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
6. มะเร็งตับ อาการ
ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัดจนเห็นได้ชัด
7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
อาการ มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ
8. มะเร็งสมอง
อาการ ปวดศีรษะนาน ๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่นอาเจียนหรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า และเห็นแสงเขียว ๆ แดง ๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือ การเป็นลมโดยกะทันหันอวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงานเช่นมีอาการชาและเป็นอัมพาตชั่วคราวควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มีอาการเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย
9. มะเร็งในช่องปาก
อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือทีลิ้นเป็นเวลานานมีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษา หรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือกเนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำหรือเป็นเวลานาน
10. มะเร็งในลำคอ
อาการ เสียงแหบพร่าไปทันที มีก้อนบวมในทันทีทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบาก หรือมีการขยายตัวของต่อมในลำคอที่โตขึ้นจนสามารถจับและรู้สึกได้
11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร
อาการน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วอาเจียนออกมาเป็นเลือดท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อยบ่อย รู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้องอกในช่องท้องหรือรู้สึกตื้อ แม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คำ
12. มะเร็งทรวงอก
อาการมีเลือดหรือของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากหัวนมบวมหรือผิวเนื้อทรวงอกหนาขึ้นมีก้อนบวมจนจับได้เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้บางครั้งอาจมีตุ่มหรือสิวเกิดขึ้นที่เต้านมเป็นเวลานานควรระวังเพราะผู้หญิง 9 ใน 10 คนจะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอกโดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อมีอายุมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียกว่าซีสต์ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการบวมนั้นให้ชัดเจนเสียก่อนว่าคืออะไรกันแน่
13. มะเร็งลำไส้
อาการ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วมีอาการปวดท้องอย่างมากและระบบการย่อยผิดปกติ มีเลือดออกปนมากับอุจจาระ****ซึ่งมีวิธีสังเกตของผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับริดสีดวงทวารอยู่แล้วคือถ้าใช้กระดาษทิชชูซับแล้วเลือดมีสีแดงสดนั่นคืออาการของริดสีดวงทวารแต่ถ้าเลือดมีสีดำคล้ำนั่นคือ อาการของโรคมะเร็งในลำไส้
14. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
อาการมีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้เกิดอาการติดเชื้อในบาง ส่วนของร่างกายมะเร็งผิวหนัง อาการมีแผลหรือแผลเปื่อยพุพองที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานานตลอดจนไฝหรือหูดที่โตขึ้นและมีการเปลี่ยนสีหรือรูปร่าง ขนาด นอกจากนี้อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่าเมลาโนมา (Melanoma)คือเนื้องอกที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่น กระจุดด่างหรือไฝถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ดทั่วร่างกายหรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติว่าเคยเป็นโรคนี้มาก่อนคุณจะมีอัตราเสี่ยงสูงกว่าคนอื่นๆ ส่วนอันนี้เค้าฟอเวิร์ดติดมาด้วย
อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติของคุณอาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การตรวจโดยขูด เนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะรู้ได้
2. มะเร็งในมดลูก
อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่องท้อ
3. มะเร็งรังไข่
อาการ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออนหรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการ ปวดหลัง
4. มะเร็งในเม็ดเลือด (ลูคีเมีย)
อาการเหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติมักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุและมักจะเกิดร่วมกับอาหารปวดตามข้อต่าง ๆ ทั่วร่างกายบางครั้งจะท้องอืดและเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของช่องท้อง
5. มะเร็งปอด
อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆ มีเลือดออกและมีเสมหะปนมากับน้ำลายน้ำหนักลดอย่างฮวบฮาบ เจ็บ หน้าอกและหายใจลำบากหรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
6. มะเร็งตับ อาการ
ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัดจนเห็นได้ชัด
7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
อาการ มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ
8. มะเร็งสมอง
อาการ ปวดศีรษะนาน ๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่นอาเจียนหรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า และเห็นแสงเขียว ๆ แดง ๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือ การเป็นลมโดยกะทันหันอวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงานเช่นมีอาการชาและเป็นอัมพาตชั่วคราวควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มีอาการเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย
9. มะเร็งในช่องปาก
อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือทีลิ้นเป็นเวลานานมีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษา หรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือกเนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำหรือเป็นเวลานาน
10. มะเร็งในลำคอ
อาการ เสียงแหบพร่าไปทันที มีก้อนบวมในทันทีทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบาก หรือมีการขยายตัวของต่อมในลำคอที่โตขึ้นจนสามารถจับและรู้สึกได้
11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร
อาการน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วอาเจียนออกมาเป็นเลือดท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อยบ่อย รู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้องอกในช่องท้องหรือรู้สึกตื้อ แม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คำ
12. มะเร็งทรวงอก
อาการมีเลือดหรือของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากหัวนมบวมหรือผิวเนื้อทรวงอกหนาขึ้นมีก้อนบวมจนจับได้เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้บางครั้งอาจมีตุ่มหรือสิวเกิดขึ้นที่เต้านมเป็นเวลานานควรระวังเพราะผู้หญิง 9 ใน 10 คนจะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอกโดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อมีอายุมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียกว่าซีสต์ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการบวมนั้นให้ชัดเจนเสียก่อนว่าคืออะไรกันแน่
13. มะเร็งลำไส้
อาการ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วมีอาการปวดท้องอย่างมากและระบบการย่อยผิดปกติ มีเลือดออกปนมากับอุจจาระ****ซึ่งมีวิธีสังเกตของผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับริดสีดวงทวารอยู่แล้วคือถ้าใช้กระดาษทิชชูซับแล้วเลือดมีสีแดงสดนั่นคืออาการของริดสีดวงทวารแต่ถ้าเลือดมีสีดำคล้ำนั่นคือ อาการของโรคมะเร็งในลำไส้
14. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
อาการมีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้เกิดอาการติดเชื้อในบาง ส่วนของร่างกายมะเร็งผิวหนัง อาการมีแผลหรือแผลเปื่อยพุพองที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานานตลอดจนไฝหรือหูดที่โตขึ้นและมีการเปลี่ยนสีหรือรูปร่าง ขนาด นอกจากนี้อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่าเมลาโนมา (Melanoma)คือเนื้องอกที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่น กระจุดด่างหรือไฝถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ดทั่วร่างกายหรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติว่าเคยเป็นโรคนี้มาก่อนคุณจะมีอัตราเสี่ยงสูงกว่าคนอื่นๆ ส่วนอันนี้เค้าฟอเวิร์ดติดมาด้วย
เรื่องของดอกไม้ กับนายก้อนหิน
ผมรู้จักผู้หญิงคนหนึ่งด้วยความบังเอิญ แต่ผมบอกตัวเองว่า
เป็นเพราะพรหมลิขิต ผมพบเธอที่ริมบึงขนาดใหญ่หน้ามหาวิท
ยาลัย ขณะที่ผมกำลังไปวิ่งออกกำลังกาย เธอกำลังง่วนอยู่
กับผืนผ้าใบ และภาพอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ผมยาวที่ถูกรวบเป็นมวยด้านหลังถูกปักด้วยพู่กันอันโต แทนปิ่น
ปักผม เสื้อกล้ามตัวเล็กสีขาว สร้อยข้อมือเต็มแขนเล็กๆ
กางเกงยีนส์สีซีด และรองเท้าผ้าใบโทรมๆ เธอคงดูเป็นผู้
หญิงเรียนศิลปะที่เซอจนไม่น่าดู
หากไม่เพราะใบหน้าที่งดงามราวภาพวาดของจิตรกรเอกนั้น
เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่สวย หากไม่พิศมองอย่างดี แต่เธอก็ดูน่า
รักมากในสายตาผม ผมบอกตัวเองว่าหากผมวิ่งวนกลับมาอีก
รอบแล้วเจอเธอ ผมจะเข้าไปคุยด้วย
วันนี้ จู่ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาคุยกับฉัน เขา
เรียนวิศวะ ท่าทางเป็นหนุ่มเจ้าสำอางเชียว แต่ก็ดู
ท่าทางจะเป็นที่รู้จักในคณะน่าดูนะ เพราะตอนที่ช่วย
ฉันหอบอุปกรณ์วาดรูปมาส่งที่รถ มีรุ่นน้องมาทักเยอะ
เชียว
ยิ่งรู้จัก ผมยิ่งรู้สึกว่าเธอน่ารักครับ เธอเป็นรุ่น
น้องผม 1 ปี แต่ก็ไม่เคยเรียกผมว่าพี่ซักคำ
เธอบอกว่า เรารู้จักกันในฐานะเพื่อน ไม่ใช่รุ่น
พี่ รุ่นน้อง เพราะเธอขี้เกียจนอบน้อมผม อย่าง
ที่รุ่นน้องในคณะเป็น
ก็แหม ผมเคยเป็นประธานเชียร์นี่ครับ รุ่นน้องก็
ต้องเกรงเป็นธรรมดา เธอเป็นผู้หญิงที่ใจดีมาก
ครับ ทุกวันเสาร์เธอจะไปสอนศิลปะให้เด็กกำพ
ร้า และวันไหนที่ว่างก็จะไปอ่านนิทานอัดเทปให้
เด็กๆ ตาบอด
ตอนนี้ผมมั่นใจแล้วครับว่าผมชอบเธอมาก แถม
ภูมิใจมากที่คนที่ผมชอบเป็นคนดีมากด้วย
เขาเป็นผู้ชายที่ใช้ได้ทีเดียวแหละ อย่างน้อยก็รู้จักเทคแคร์
ผู้หญิงมากกว่าเพื่อนที่คณะของฉันเยอะทีเดียว แล้วก็เป็นคน
มุ่งมั่นดี เขาตั้งใจเรียนมากเลยนะ ไม่เคยขาดเรียนเลย
เล่นเอาฉันรู้สึกผิด ที่โดดเรียนเป็นว่าเล่น แล้วก็เป็นคน
ขยันทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัย ซึ่งฉันไม่คิดจะทำ ต่างกัน
จริงแหะฉันกับเขา
วันนี้เธอชวนผมไปขับรถเล่นครับ เธอบอกเธออยากไปอุทยานแห่งชาติแห่ง
หนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยของเรานัก แต่ก็เป็นร้อยกิโลเลยนะครับ
ผมมองมอเตอร์ไซต์เก่าๆ โทรมๆ ของผมแล้ว ก็ยากจะไปถึงครับ
เธอทำหน้าขรึมแล้วยื่นกุญแจรถของเธอให้ผม บ้านเธอรวยครับ เธอมีรถ
ยนต์ส่วนตัวใช้ ผมรู้สึกได้ทันทีว่าเธอกำลังไม่สบายใจ นั่งรถไปได้เดี๋ยว
เดียว เธอก็ร้องไห้โฮเลยครับ ผมเลยรู้ว่าเธอขี้แยไม่เบา
เรื่องของเรื่องที่เธอกลุ้มใจก็คือ ที่บ้านเธอไม่ยอมมาเยี่ยมเธอในวันนี้ตาม
ที่นัดไว้ครับ เพราะน้องชายไม่สบายนิดหน่อย ผมขำไม่ออก เพราะท่าทาง
เธอเสียใจกับเรื่องที่ผมเห็นเป็นสิ่งเล็กน้อยนี้มาก จึงได้แต่เงียบ แล้วก็
เล่าเรื่องของผมให้เธอฟังบ้าง
ฉันไม่กล้าฟูมฟายเลยทีเดียว เมื่อเขาเล่าเรื่องครอบครัวของเขาให้ฉั
นฟัง เขาเล่าให้ฟังว่าพ่อกับแม่ของเขาเลิกกัน และเขาก็ไม่เชิงว่า
ใครเลี้ยง เพราะอยู่กับพ่อบ้าง อยู่กับแม่บ้าง อยู่กับญาติบ้าง และแต่
ละที่ก็ไม่ใช่ที่ของเขา เพราะทุกคนต่างมีครอบครัวของตัวเอง อยู่ที่
ไหนเขาก็เหมือนเป็นแค่คนอาศัย
ตอนนี้เขาอาศัยการได้ทุนการศึกษาและค่าใช้จ่ายที่พี่สาวส่งให้นิดหน่อย
ดำรงชีวิต เพื่อก้าวไปยังเส้นทางที่สบายขึ้น ฉันทึ่งมากที่เขาเข้มแข็ง
และไม่ร้องไห้กับโชคชะตาของตนเอง ตั้งใจเรียน ไม่เกเร ฉันโชคดี
กว่าเขาเยอะมากทีเดียว สงสารเขาจังแหะ
เธอบอกผมว่า บางทีถ้าผมเสียใจ ผมควรจะร้องไห้
บ้าง เพราะถ้าไม่ร้องเสียบ้าง ความเสียใจต่างๆ
จะถูกสะสมเป็นตะกอนในหัวใจของผมเอง แล้วท้ายที่
สุด หัวใจผมจะกลายเป็นก้อนหิน แม้จะแข็งแกร่ง
และผมจะไม่มีวันเสียใจอีก
แต่มันจะทำให้คนใกล้ตัวผม บอบช้ำยามโดนผมกระทบ
ผมก็เลยบอกเธอว่า ผมเห็นเธอเป็นดอกไม้ของ
นายก้อนหิน ดอกไม้ที่ช่วยมาเติมความอ่อนหวานให้ก้อ
นหินที่ไม่ค่อยมีค่าก้อนนี้
สรุปแล้ววันนั้น เราก็ไปไหนไม่ได้ไกล เพราะทันทีที่
เห็นทุกนาเขียวขจีกว้างไกล เธอก็ขอให้ผมหยุดรถ
แล้วลงไปวิ่ง เหมือนไล่คว้าอะไรบางอย่าง เธอ
บอกว่า เธอกำลังวิ่งไล่จับความฝัน
วันนี้เขารับปริญญา ฉันอาสาเป็นตากล้อง ครอบครัวเขามีแม่มาแค่คน
เดียว แต่บ้านฉันมากันทั้งบ้านเลยแหละ พ่อแม่ และน้องชายฉันชอบ
เขามาก
ก็ดีแล้วล่ะ เพราะฉันอยากให้เขาได้รับความอบอุ่นในครอบครัวอย่างที่
ฉันได้รับมาเสมอบ้าง ฉันอยากให้เขามีความสุข เพราะความสุขของ
เขาก็เป็นความสุขของฉันเหมือนกัน
วันนี้เราสนุกสนานกันใหญ่ เหล่าเด็กอย่างพวกเราพาคนสูงวัย 3 คน
ไปปล่อยแก่กันในคาราโอเกะทั้งคืน ก็ไม่ได้จ่ายเองนี่ พ่อแม่มาทั้งที
แม่ของเขาเข้ากับแม่ของฉันดีทีเดียว
ผมได้ทุนจากมหาวิทยาลัยมาเรียนต่อที่ญี่ปุ่น เหงามากครับ ทั้งที่ผม
เคยชินกับความเหงามาตลอดชีวิต ก่อนที่จะพบเธอ ผมหลีกเลี่ยง
ความเหงาโดยการตั้งใจเรียน เวลาว่างก็ทำงานพิเศษ ผมเก็บเงิน
ได้ก้อนโตทีเดียวครับ คิดว่าพอเรียนจบกลับไปจะไปขอเธอหมั้นไว้ก่อ
น เธออีเมล์มาเล่าให้ฟังว่า เธอได้งานในบริษัทผลิตรายการโทรทัศ
น์แห่งหนึ่ง กำลังสนุกกับงาน
อีกไม่กี่เดือนเขาก็จะกลับมาแล้ว เห็นบอกว่าเอาแต่เรียนกับทำ
งาน จนไม่มีเวลาใช้เงิน แหมคงรวยใหญ่ ฉันเองก็กำลังสนุกกับ
งานที่ทำ อาจเหงาบ้าง แต่อีกไม่กี่เดือนคงหายเหงา พ่อเพิ่งซื้อ
คอนโดไว้ให้ กำลังตกแต่ง พ่อกับแม่วางแผนไว้เสร็จสรรพ ว่าพอ
เขากลับมาจะยัดเยียดลูกสาวให้ทันที แล้วให้ย้ายไปอยู่คอนโด
ใหม่ซะ พ่อกับแม่หาว่าอพาร์ทเม้นที่ฉันอยู่มันไม่ค่อยปลอดภัยสำหรับ
การอยู่คนเดียวนัก
วันนี้ผมได้รับจดหมายจากที่บ้านของเธอ เดาได้ว่าเธอคงยังไม่รู้
เรื่องแน่ๆ พ่อกับแม่ของเธอเขียนจดหมายมาบอกให้ผมกลับไปรับลูกส
าวไปจากอกท่านด่วน พร้อมกับซื้อคอนโดไว้เป็นค่าสินสอดให้แล้ว ถ้า
ผมจะเรียกร้องอะไรอีกก็ขอให้บอก ขอเพียงช่วยรับลูกสาวท่านไปเลี้
ยงดูแทนก็พอ พร้อมกับส่งเอกสารโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมาด้วย
ที่บ้านของเธอน่ารักอย่างนี้เสมอครับ ทั้งที่ผมเป็นคนอื่น แต่ท่านทั้งคู่ก็
เอ็นดูผมมากทีเดียว กลายเป็นว่าเงินทองที่ผมสะสมเพื่อขอเธอแต่งง
านก็อดใช้ครับ เก็บไว้ให้ลูกแทนละกัน
ตื่นเต้นครับ อีกไม่กี่วันผมก็จะได้กลับไปหาเธอแล้ว ดอกไม้ของผม
พรุ่งนี้เขาจะกลับมาแล้วล่ะ เดี๋ยวตอนเย็น ฉัน
จะออกไปหาซื้อข้าวของ และอาหารมาเตรียม
ไว้ทำให้เขากินพรุ่งนี้ เขาต้องแปลกใจมากแน่ๆ
ที่ฉันทำอาหารเป็นแล้ว หุหุ ใช้เวลาฝึกฝนแรมปี
เชียวนะ โอ๊ย ตื่นเต้นจังเลย แล้วพรุ่งนี้เจอกัน
นะ นายก้อนหินของฉัน
เราจะสมัครใจเป็นดอกไม้ที่อยู่ข้างก้อนหิน
เพราะดอกไม้สักแต่สวย หากแสนบอบบาง เรา
จะมีก้อนหินคอยดูแล ปกป้อง….
:
:
:
นายไม่ต้องห่วงหรอก ไปเรียนแค่ 2 ปี เราอยู่คนเดียวได้สบายมาก ถึง 2 ปีนี้ ดอกไม้จะไม่มี
ก้อนหินคอยดูแล ดอกไม้จะฮึดเอาความแข็งแกร่งทั้งหมดมาดูแลตัวเอง เพราะเมื่อก้อนหินกลับมา
ดอกไม้ก็ไม่ต้องมีความแข็งแกร่งก็ได้ ยังไงก็มีคนดูแลอยู่แล้ว
:
:
:
ผมไม่ได้ขอหมั้นเธอครับ ไม่มีงานแต่งงานเกิดขึ้นด้วย คอนโดก็ถูกขาย ผมย้ายไปอยู่ที่บ้านของ
เธอ กับพ่อแม่ และน้องชายของเธอ แต่… ไม่มีเธอหรอกครับ
เธอถูกวัยรุ่นเมายากลุ่มหนึ่งขับรถชนในวันที่ไปซื้อข้าวของเพื่อทำอาหารให้ผมครับ
แค่เสี้ยวเวลาเท่านั้น ที่ผมจะกลับมาดูแลเธอได้แล้วแท้ๆ ยังสายเกินไป ใครที่ยังมีคนสำคัญของ
หัวใจข้างกายอยู่
ดูแลเขาให้ดี ทุกวินาทีนะครับ เพราะเพียงพริบตาที่ไม่ได้ดูแล ลืมตาอีกครั้ง อาจไม่มีเขาให้ดูแล
แล้วก็ได้
เป็นเพราะพรหมลิขิต ผมพบเธอที่ริมบึงขนาดใหญ่หน้ามหาวิท
ยาลัย ขณะที่ผมกำลังไปวิ่งออกกำลังกาย เธอกำลังง่วนอยู่
กับผืนผ้าใบ และภาพอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ผมยาวที่ถูกรวบเป็นมวยด้านหลังถูกปักด้วยพู่กันอันโต แทนปิ่น
ปักผม เสื้อกล้ามตัวเล็กสีขาว สร้อยข้อมือเต็มแขนเล็กๆ
กางเกงยีนส์สีซีด และรองเท้าผ้าใบโทรมๆ เธอคงดูเป็นผู้
หญิงเรียนศิลปะที่เซอจนไม่น่าดู
หากไม่เพราะใบหน้าที่งดงามราวภาพวาดของจิตรกรเอกนั้น
เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่สวย หากไม่พิศมองอย่างดี แต่เธอก็ดูน่า
รักมากในสายตาผม ผมบอกตัวเองว่าหากผมวิ่งวนกลับมาอีก
รอบแล้วเจอเธอ ผมจะเข้าไปคุยด้วย
วันนี้ จู่ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาคุยกับฉัน เขา
เรียนวิศวะ ท่าทางเป็นหนุ่มเจ้าสำอางเชียว แต่ก็ดู
ท่าทางจะเป็นที่รู้จักในคณะน่าดูนะ เพราะตอนที่ช่วย
ฉันหอบอุปกรณ์วาดรูปมาส่งที่รถ มีรุ่นน้องมาทักเยอะ
เชียว
ยิ่งรู้จัก ผมยิ่งรู้สึกว่าเธอน่ารักครับ เธอเป็นรุ่น
น้องผม 1 ปี แต่ก็ไม่เคยเรียกผมว่าพี่ซักคำ
เธอบอกว่า เรารู้จักกันในฐานะเพื่อน ไม่ใช่รุ่น
พี่ รุ่นน้อง เพราะเธอขี้เกียจนอบน้อมผม อย่าง
ที่รุ่นน้องในคณะเป็น
ก็แหม ผมเคยเป็นประธานเชียร์นี่ครับ รุ่นน้องก็
ต้องเกรงเป็นธรรมดา เธอเป็นผู้หญิงที่ใจดีมาก
ครับ ทุกวันเสาร์เธอจะไปสอนศิลปะให้เด็กกำพ
ร้า และวันไหนที่ว่างก็จะไปอ่านนิทานอัดเทปให้
เด็กๆ ตาบอด
ตอนนี้ผมมั่นใจแล้วครับว่าผมชอบเธอมาก แถม
ภูมิใจมากที่คนที่ผมชอบเป็นคนดีมากด้วย
เขาเป็นผู้ชายที่ใช้ได้ทีเดียวแหละ อย่างน้อยก็รู้จักเทคแคร์
ผู้หญิงมากกว่าเพื่อนที่คณะของฉันเยอะทีเดียว แล้วก็เป็นคน
มุ่งมั่นดี เขาตั้งใจเรียนมากเลยนะ ไม่เคยขาดเรียนเลย
เล่นเอาฉันรู้สึกผิด ที่โดดเรียนเป็นว่าเล่น แล้วก็เป็นคน
ขยันทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัย ซึ่งฉันไม่คิดจะทำ ต่างกัน
จริงแหะฉันกับเขา
วันนี้เธอชวนผมไปขับรถเล่นครับ เธอบอกเธออยากไปอุทยานแห่งชาติแห่ง
หนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยของเรานัก แต่ก็เป็นร้อยกิโลเลยนะครับ
ผมมองมอเตอร์ไซต์เก่าๆ โทรมๆ ของผมแล้ว ก็ยากจะไปถึงครับ
เธอทำหน้าขรึมแล้วยื่นกุญแจรถของเธอให้ผม บ้านเธอรวยครับ เธอมีรถ
ยนต์ส่วนตัวใช้ ผมรู้สึกได้ทันทีว่าเธอกำลังไม่สบายใจ นั่งรถไปได้เดี๋ยว
เดียว เธอก็ร้องไห้โฮเลยครับ ผมเลยรู้ว่าเธอขี้แยไม่เบา
เรื่องของเรื่องที่เธอกลุ้มใจก็คือ ที่บ้านเธอไม่ยอมมาเยี่ยมเธอในวันนี้ตาม
ที่นัดไว้ครับ เพราะน้องชายไม่สบายนิดหน่อย ผมขำไม่ออก เพราะท่าทาง
เธอเสียใจกับเรื่องที่ผมเห็นเป็นสิ่งเล็กน้อยนี้มาก จึงได้แต่เงียบ แล้วก็
เล่าเรื่องของผมให้เธอฟังบ้าง
ฉันไม่กล้าฟูมฟายเลยทีเดียว เมื่อเขาเล่าเรื่องครอบครัวของเขาให้ฉั
นฟัง เขาเล่าให้ฟังว่าพ่อกับแม่ของเขาเลิกกัน และเขาก็ไม่เชิงว่า
ใครเลี้ยง เพราะอยู่กับพ่อบ้าง อยู่กับแม่บ้าง อยู่กับญาติบ้าง และแต่
ละที่ก็ไม่ใช่ที่ของเขา เพราะทุกคนต่างมีครอบครัวของตัวเอง อยู่ที่
ไหนเขาก็เหมือนเป็นแค่คนอาศัย
ตอนนี้เขาอาศัยการได้ทุนการศึกษาและค่าใช้จ่ายที่พี่สาวส่งให้นิดหน่อย
ดำรงชีวิต เพื่อก้าวไปยังเส้นทางที่สบายขึ้น ฉันทึ่งมากที่เขาเข้มแข็ง
และไม่ร้องไห้กับโชคชะตาของตนเอง ตั้งใจเรียน ไม่เกเร ฉันโชคดี
กว่าเขาเยอะมากทีเดียว สงสารเขาจังแหะ
เธอบอกผมว่า บางทีถ้าผมเสียใจ ผมควรจะร้องไห้
บ้าง เพราะถ้าไม่ร้องเสียบ้าง ความเสียใจต่างๆ
จะถูกสะสมเป็นตะกอนในหัวใจของผมเอง แล้วท้ายที่
สุด หัวใจผมจะกลายเป็นก้อนหิน แม้จะแข็งแกร่ง
และผมจะไม่มีวันเสียใจอีก
แต่มันจะทำให้คนใกล้ตัวผม บอบช้ำยามโดนผมกระทบ
ผมก็เลยบอกเธอว่า ผมเห็นเธอเป็นดอกไม้ของ
นายก้อนหิน ดอกไม้ที่ช่วยมาเติมความอ่อนหวานให้ก้อ
นหินที่ไม่ค่อยมีค่าก้อนนี้
สรุปแล้ววันนั้น เราก็ไปไหนไม่ได้ไกล เพราะทันทีที่
เห็นทุกนาเขียวขจีกว้างไกล เธอก็ขอให้ผมหยุดรถ
แล้วลงไปวิ่ง เหมือนไล่คว้าอะไรบางอย่าง เธอ
บอกว่า เธอกำลังวิ่งไล่จับความฝัน
วันนี้เขารับปริญญา ฉันอาสาเป็นตากล้อง ครอบครัวเขามีแม่มาแค่คน
เดียว แต่บ้านฉันมากันทั้งบ้านเลยแหละ พ่อแม่ และน้องชายฉันชอบ
เขามาก
ก็ดีแล้วล่ะ เพราะฉันอยากให้เขาได้รับความอบอุ่นในครอบครัวอย่างที่
ฉันได้รับมาเสมอบ้าง ฉันอยากให้เขามีความสุข เพราะความสุขของ
เขาก็เป็นความสุขของฉันเหมือนกัน
วันนี้เราสนุกสนานกันใหญ่ เหล่าเด็กอย่างพวกเราพาคนสูงวัย 3 คน
ไปปล่อยแก่กันในคาราโอเกะทั้งคืน ก็ไม่ได้จ่ายเองนี่ พ่อแม่มาทั้งที
แม่ของเขาเข้ากับแม่ของฉันดีทีเดียว
ผมได้ทุนจากมหาวิทยาลัยมาเรียนต่อที่ญี่ปุ่น เหงามากครับ ทั้งที่ผม
เคยชินกับความเหงามาตลอดชีวิต ก่อนที่จะพบเธอ ผมหลีกเลี่ยง
ความเหงาโดยการตั้งใจเรียน เวลาว่างก็ทำงานพิเศษ ผมเก็บเงิน
ได้ก้อนโตทีเดียวครับ คิดว่าพอเรียนจบกลับไปจะไปขอเธอหมั้นไว้ก่อ
น เธออีเมล์มาเล่าให้ฟังว่า เธอได้งานในบริษัทผลิตรายการโทรทัศ
น์แห่งหนึ่ง กำลังสนุกกับงาน
อีกไม่กี่เดือนเขาก็จะกลับมาแล้ว เห็นบอกว่าเอาแต่เรียนกับทำ
งาน จนไม่มีเวลาใช้เงิน แหมคงรวยใหญ่ ฉันเองก็กำลังสนุกกับ
งานที่ทำ อาจเหงาบ้าง แต่อีกไม่กี่เดือนคงหายเหงา พ่อเพิ่งซื้อ
คอนโดไว้ให้ กำลังตกแต่ง พ่อกับแม่วางแผนไว้เสร็จสรรพ ว่าพอ
เขากลับมาจะยัดเยียดลูกสาวให้ทันที แล้วให้ย้ายไปอยู่คอนโด
ใหม่ซะ พ่อกับแม่หาว่าอพาร์ทเม้นที่ฉันอยู่มันไม่ค่อยปลอดภัยสำหรับ
การอยู่คนเดียวนัก
วันนี้ผมได้รับจดหมายจากที่บ้านของเธอ เดาได้ว่าเธอคงยังไม่รู้
เรื่องแน่ๆ พ่อกับแม่ของเธอเขียนจดหมายมาบอกให้ผมกลับไปรับลูกส
าวไปจากอกท่านด่วน พร้อมกับซื้อคอนโดไว้เป็นค่าสินสอดให้แล้ว ถ้า
ผมจะเรียกร้องอะไรอีกก็ขอให้บอก ขอเพียงช่วยรับลูกสาวท่านไปเลี้
ยงดูแทนก็พอ พร้อมกับส่งเอกสารโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมาด้วย
ที่บ้านของเธอน่ารักอย่างนี้เสมอครับ ทั้งที่ผมเป็นคนอื่น แต่ท่านทั้งคู่ก็
เอ็นดูผมมากทีเดียว กลายเป็นว่าเงินทองที่ผมสะสมเพื่อขอเธอแต่งง
านก็อดใช้ครับ เก็บไว้ให้ลูกแทนละกัน
ตื่นเต้นครับ อีกไม่กี่วันผมก็จะได้กลับไปหาเธอแล้ว ดอกไม้ของผม
พรุ่งนี้เขาจะกลับมาแล้วล่ะ เดี๋ยวตอนเย็น ฉัน
จะออกไปหาซื้อข้าวของ และอาหารมาเตรียม
ไว้ทำให้เขากินพรุ่งนี้ เขาต้องแปลกใจมากแน่ๆ
ที่ฉันทำอาหารเป็นแล้ว หุหุ ใช้เวลาฝึกฝนแรมปี
เชียวนะ โอ๊ย ตื่นเต้นจังเลย แล้วพรุ่งนี้เจอกัน
นะ นายก้อนหินของฉัน
เราจะสมัครใจเป็นดอกไม้ที่อยู่ข้างก้อนหิน
เพราะดอกไม้สักแต่สวย หากแสนบอบบาง เรา
จะมีก้อนหินคอยดูแล ปกป้อง….
:
:
:
นายไม่ต้องห่วงหรอก ไปเรียนแค่ 2 ปี เราอยู่คนเดียวได้สบายมาก ถึง 2 ปีนี้ ดอกไม้จะไม่มี
ก้อนหินคอยดูแล ดอกไม้จะฮึดเอาความแข็งแกร่งทั้งหมดมาดูแลตัวเอง เพราะเมื่อก้อนหินกลับมา
ดอกไม้ก็ไม่ต้องมีความแข็งแกร่งก็ได้ ยังไงก็มีคนดูแลอยู่แล้ว
:
:
:
ผมไม่ได้ขอหมั้นเธอครับ ไม่มีงานแต่งงานเกิดขึ้นด้วย คอนโดก็ถูกขาย ผมย้ายไปอยู่ที่บ้านของ
เธอ กับพ่อแม่ และน้องชายของเธอ แต่… ไม่มีเธอหรอกครับ
เธอถูกวัยรุ่นเมายากลุ่มหนึ่งขับรถชนในวันที่ไปซื้อข้าวของเพื่อทำอาหารให้ผมครับ
แค่เสี้ยวเวลาเท่านั้น ที่ผมจะกลับมาดูแลเธอได้แล้วแท้ๆ ยังสายเกินไป ใครที่ยังมีคนสำคัญของ
หัวใจข้างกายอยู่
ดูแลเขาให้ดี ทุกวินาทีนะครับ เพราะเพียงพริบตาที่ไม่ได้ดูแล ลืมตาอีกครั้ง อาจไม่มีเขาให้ดูแล
แล้วก็ได้
สมการที่ลงตัว
ROMANCE MATHEMATICS
Smart man + smart woman = romance
ผู้ชายเท่ห์ + ผู้หญิงเก่ง = ความโรแมนติก
Smart man + dumb woman = affair
ผู้ชายเก่ง + ผู้หญิงโง่ = ความใคร่
Dumb man + smart woman = marriage
ผู้ชายโง่ + ผู้หญิงเก่ง = การแต่งงาน
Dumb man + dumb woman = pregnancy
ผู้ชายโง่ + ผู้หญิงโง่ = ตั้งท้อง
OFFICE ARITHMETIC
Smart boss + smart employee = profit
เจ้านายเก่ง + ลูกน้องเก่ง = กำไร
Smart boss + dumb employee = production
เจ้านายเก่ง + ลูกน้องโง่ = ผลผลิต
Dumb boss + smart employee = promotion
เจ้านายโง่ + ลูกน้องเก่ง = เลื่อนตำแหน่ง
Dumb boss + dumb employee = overtime
เจ้านายโง่ + ลูกน้องโง่ = OT อย่างเดียว
SHOPPING MATH
A man will pay $2 for a $1 item he needs.
ผู้ชายจ่าย 2 บาท ต่อ ของ 1 ชิ้นที่เขาต้องการ
A woman will pay $1 for a $2 item that she doesn't need.
แต่ ผู้หญิง จ่าย 1 บาท ต่อ ของหลายๆชิ้น ที่เธอไม่ต้องการ
GENERAL EQUATIONS & STATISTICS
A woman worries about the future until she gets a husband.
ผู้หญิงจะกังวลเกี่ยวกับอนาคตจนกว่าจะมีสามี
A man never worries about the future until he gets a wife.
แต่ผู้ชายไม่เคยกังวลเลยเกี่ยวกับอนาคตเลยจนกระทั่งมีภรรยา
A successful man is one who makes more money than his wife can spend.
ผู้ชายที่ประสบความสำเร็จ คือ คนที่สามารถหาเงินได้มากกว่าที่ภรรยาใช้
A successful woman is one who can find such a man.
แต่ผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จ คือ คนที่สามารถหาสามีได้อย่างคนข้างบน
HAPPINESS
To be happy with a man, you must understand him a lot and love him a little.
การจะมีความสุขกับผู้ชายคนนึง คุณจะต้องเข้าใจเค้ามากๆ แต่รักเค้าน้อย
To be happy with a woman, you must love her a lot and not try to understand her at all.
การจะมีความสุขกับผู้หญิงคนนึง คุณต้องรักเธอมากๆ และไม่ต้องพยายามเข้าใจอะไรในตัวเธอทั้งสิ้น
LONGEVITY
Married men live longer than single men do, but married men are a lot more willing to die.
ผู้ชายที่แต้งงานแล้วจะมีอายุยืนกว่าชายโสด แต่ชายที่แต่งงานแล้วกลับเต็มใจเลือกที่จะตายมากกว่าอยู่
PROPENSITY TO CHANGE
A woman marries a man expecting he will change, but he doesn't.
ผู้หญิงแต่งงานกับผู้ชายคนนึงและหวังเค้าจะเปลี่ยนแปลงได้ แต่เค้าไม่เคยเปลี่ยน
A man marries a woman expecting that she won't change, and she does.
ส่วนผู้ชายแต่งงานกับผู้หญิงและหวังว่าเธอคงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่เธอก็เปลี่ยน
DISCUSSION TECHNIQUE
A woman has the last word in any argument.
ผู้หญิงมักมีคำพูดสุดท้ายในการโต้เถียงกัน
Anything a man says after that is the beginning of a new argument.
แต่อะไรก็ตามที่ผู้ชายพูดออกมาต่อจากนั้น จะเป็นการเริ่มการโต้เถียงครั้งใหม่
Smart man + smart woman = romance
ผู้ชายเท่ห์ + ผู้หญิงเก่ง = ความโรแมนติก
Smart man + dumb woman = affair
ผู้ชายเก่ง + ผู้หญิงโง่ = ความใคร่
Dumb man + smart woman = marriage
ผู้ชายโง่ + ผู้หญิงเก่ง = การแต่งงาน
Dumb man + dumb woman = pregnancy
ผู้ชายโง่ + ผู้หญิงโง่ = ตั้งท้อง
OFFICE ARITHMETIC
Smart boss + smart employee = profit
เจ้านายเก่ง + ลูกน้องเก่ง = กำไร
Smart boss + dumb employee = production
เจ้านายเก่ง + ลูกน้องโง่ = ผลผลิต
Dumb boss + smart employee = promotion
เจ้านายโง่ + ลูกน้องเก่ง = เลื่อนตำแหน่ง
Dumb boss + dumb employee = overtime
เจ้านายโง่ + ลูกน้องโง่ = OT อย่างเดียว
SHOPPING MATH
A man will pay $2 for a $1 item he needs.
ผู้ชายจ่าย 2 บาท ต่อ ของ 1 ชิ้นที่เขาต้องการ
A woman will pay $1 for a $2 item that she doesn't need.
แต่ ผู้หญิง จ่าย 1 บาท ต่อ ของหลายๆชิ้น ที่เธอไม่ต้องการ
GENERAL EQUATIONS & STATISTICS
A woman worries about the future until she gets a husband.
ผู้หญิงจะกังวลเกี่ยวกับอนาคตจนกว่าจะมีสามี
A man never worries about the future until he gets a wife.
แต่ผู้ชายไม่เคยกังวลเลยเกี่ยวกับอนาคตเลยจนกระทั่งมีภรรยา
A successful man is one who makes more money than his wife can spend.
ผู้ชายที่ประสบความสำเร็จ คือ คนที่สามารถหาเงินได้มากกว่าที่ภรรยาใช้
A successful woman is one who can find such a man.
แต่ผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จ คือ คนที่สามารถหาสามีได้อย่างคนข้างบน
HAPPINESS
To be happy with a man, you must understand him a lot and love him a little.
การจะมีความสุขกับผู้ชายคนนึง คุณจะต้องเข้าใจเค้ามากๆ แต่รักเค้าน้อย
To be happy with a woman, you must love her a lot and not try to understand her at all.
การจะมีความสุขกับผู้หญิงคนนึง คุณต้องรักเธอมากๆ และไม่ต้องพยายามเข้าใจอะไรในตัวเธอทั้งสิ้น
LONGEVITY
Married men live longer than single men do, but married men are a lot more willing to die.
ผู้ชายที่แต้งงานแล้วจะมีอายุยืนกว่าชายโสด แต่ชายที่แต่งงานแล้วกลับเต็มใจเลือกที่จะตายมากกว่าอยู่
PROPENSITY TO CHANGE
A woman marries a man expecting he will change, but he doesn't.
ผู้หญิงแต่งงานกับผู้ชายคนนึงและหวังเค้าจะเปลี่ยนแปลงได้ แต่เค้าไม่เคยเปลี่ยน
A man marries a woman expecting that she won't change, and she does.
ส่วนผู้ชายแต่งงานกับผู้หญิงและหวังว่าเธอคงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่เธอก็เปลี่ยน
DISCUSSION TECHNIQUE
A woman has the last word in any argument.
ผู้หญิงมักมีคำพูดสุดท้ายในการโต้เถียงกัน
Anything a man says after that is the beginning of a new argument.
แต่อะไรก็ตามที่ผู้ชายพูดออกมาต่อจากนั้น จะเป็นการเริ่มการโต้เถียงครั้งใหม่
มาสาย-กลับดึก
วันแรกที่เข้าเรียนในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผมพบเรื่องอัศจรรย์อย่างหนึ่ง เมื่อรุ่นพี่บางคนบอกว่า "การอดนอนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเรียนในคณะนี้"
วันสุดท้ายในคณะนี้ ผมพบว่าตั้งแต่เรียนมาห้าปี ไม่เคยต้องอดนอนเลย ยกเว้นเมื่อต้องทำงานกลุ่ม ทั้งนี้มิใช่เพราะผมทำงานเร็วกว่าคนอื่น แต่เพราะผมไม่เชื่อในทัศนคตินั้น จึงพยายามพิสูจน์ว่ามันไม่จริง และพบว่า การวางแผนที่ดีแก้ปัญหาได้ทั้งหมด แม้แต่การสร้างสรรค์งานศิลปะ ที่น่าขันก็คือ น้อยคนที่อดนอนได้คะแนนดี
ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนมานานร่วมสามสิบปี ห้าปีในนั้นผมทำงานในต่างประเทศ เมื่อกลับมาเมืองไทย ผมพบเรื่องอัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่ง นั่นคือหลายคนมองการก้าวเท้าออกจากสำนักงานตรงเวลาเป็นเรื่องประหลาดที่สุดในโลก (มิพักเอ่ยถึงการออกก่อนเวลาเมื่องานเสร็จแล้ว) ผมรู้ความจริงภายหลังว่า คนจำนวนมากไม่ยอมออกจากสำนักงานตรงเวลา เพื่อแสดงให้เจ้านายเห็นว่า ตนเองขยันขันแข็ง ยิ่งอยู่ดึก ยิ่งเป็นพนักงานตัวอย่าง เสียสละเพื่อองค์กร น่ายกย่องชมเชย บ่อยครั้งมีผลถึงการได้รับโบนัสตอนท้ายปี เนื่องจากเจ้านายมักเห็นหน้าเห็นตาใครคนนั้นหลังเวลาเลิกงานแล้วเสมอ หากไม่เคยทำงานในต่างประเทศมาก่อน ผมอาจเข้าร่วมวงไพบูลย์ "มาสายกลับดึก" ด้วย แต่หลายปีในชีวิตการทำงานในประเทศที่มีประสิทธิภาพในการจัดการที่สุด ทำให้เห็นค่าเวลาทุกนาทีในชีวิต ผมกลับมองว่าคนที่อยู่ดึกเป็นประจำคือพวกไร้ประสิทธิภาพ ไม่สามารถทำงานให้เสร็จทันเวลา จึงต้องอยู่ดึก ยิ่งทำงานมากชั่วโมงยิ่งแสดงถึงการทำงานโดยไม่มีการวางแผน ไม่มองภาพรวม ลองคิดดู การอยู่ดึกเพื่อทำงานพิเศษหนึ่งคืนหมายถึงค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เครื่องปรับอากาศทำงานมากขึ้น ค่าทะนุบำรุงสูงขึ้น ผลกระทบต่อคนทำงานคือพักผ่อนน้อยกว่าที่ควรเป็น ยิ่งอยู่ดึก ประสิทธิภาพของงานในวันถัดไปยิ่งตกต่ำลง มือกระบี่ชั้นหนึ่งในแผ่นดินมองท่วงทีของศัตรูอย่างระวัง ตวัดกระบี่ในมือเพียงฉับเดียวก็เข่นฆ่าฝ่ายตรงข้าม มือกระบี่ชั้นรองต้องประกระบี่ดังโคร้งเคร้งนานนับชั่วโมง ราวกับอยากบอกโลกว่า ข้าก็ใช้กระบี่นะโว้ย โลกรับรู้ แต่คมกระบี่ก็บิ่น ต้องเสียเวลาลับกระบี่อีกหลายวัน
งานดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องตรงเวลาด้วย งานดีไม่มีทางเกิดขึ้นตามยถากรรม หรืออารมณ์ขึ้นลง ไปจนถึงความหนาแน่นรัดกุมของกฎเกณฑ์ "ตอกบัตร" ปริมาณเวลาในการทำงานชิ้นหนึ่งไม่ได้เป็นสัดส่วนกับคุณภาพของผลงานเสมอไป บ่อยครั้งเป็นปฏิภาคกัน หลายครั้งงานที่ให้เวลาน้อย กลับออกมาดีกว่างานที่ให้เวลามาก
"คนเก่งไม่เรื่องมาก คนฉลาดจริงไม่มากเรื่อง"
"ทำงานเสร็จแล้วก็เลิก ไม่ต้องรอเทวดาบนสวรรค์วิมานมารับรู้ เพราะถึงเวลานั้นเทวดาก็กลับบ้านไปแล้ว"
วันสุดท้ายในคณะนี้ ผมพบว่าตั้งแต่เรียนมาห้าปี ไม่เคยต้องอดนอนเลย ยกเว้นเมื่อต้องทำงานกลุ่ม ทั้งนี้มิใช่เพราะผมทำงานเร็วกว่าคนอื่น แต่เพราะผมไม่เชื่อในทัศนคตินั้น จึงพยายามพิสูจน์ว่ามันไม่จริง และพบว่า การวางแผนที่ดีแก้ปัญหาได้ทั้งหมด แม้แต่การสร้างสรรค์งานศิลปะ ที่น่าขันก็คือ น้อยคนที่อดนอนได้คะแนนดี
ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนมานานร่วมสามสิบปี ห้าปีในนั้นผมทำงานในต่างประเทศ เมื่อกลับมาเมืองไทย ผมพบเรื่องอัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่ง นั่นคือหลายคนมองการก้าวเท้าออกจากสำนักงานตรงเวลาเป็นเรื่องประหลาดที่สุดในโลก (มิพักเอ่ยถึงการออกก่อนเวลาเมื่องานเสร็จแล้ว) ผมรู้ความจริงภายหลังว่า คนจำนวนมากไม่ยอมออกจากสำนักงานตรงเวลา เพื่อแสดงให้เจ้านายเห็นว่า ตนเองขยันขันแข็ง ยิ่งอยู่ดึก ยิ่งเป็นพนักงานตัวอย่าง เสียสละเพื่อองค์กร น่ายกย่องชมเชย บ่อยครั้งมีผลถึงการได้รับโบนัสตอนท้ายปี เนื่องจากเจ้านายมักเห็นหน้าเห็นตาใครคนนั้นหลังเวลาเลิกงานแล้วเสมอ หากไม่เคยทำงานในต่างประเทศมาก่อน ผมอาจเข้าร่วมวงไพบูลย์ "มาสายกลับดึก" ด้วย แต่หลายปีในชีวิตการทำงานในประเทศที่มีประสิทธิภาพในการจัดการที่สุด ทำให้เห็นค่าเวลาทุกนาทีในชีวิต ผมกลับมองว่าคนที่อยู่ดึกเป็นประจำคือพวกไร้ประสิทธิภาพ ไม่สามารถทำงานให้เสร็จทันเวลา จึงต้องอยู่ดึก ยิ่งทำงานมากชั่วโมงยิ่งแสดงถึงการทำงานโดยไม่มีการวางแผน ไม่มองภาพรวม ลองคิดดู การอยู่ดึกเพื่อทำงานพิเศษหนึ่งคืนหมายถึงค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เครื่องปรับอากาศทำงานมากขึ้น ค่าทะนุบำรุงสูงขึ้น ผลกระทบต่อคนทำงานคือพักผ่อนน้อยกว่าที่ควรเป็น ยิ่งอยู่ดึก ประสิทธิภาพของงานในวันถัดไปยิ่งตกต่ำลง มือกระบี่ชั้นหนึ่งในแผ่นดินมองท่วงทีของศัตรูอย่างระวัง ตวัดกระบี่ในมือเพียงฉับเดียวก็เข่นฆ่าฝ่ายตรงข้าม มือกระบี่ชั้นรองต้องประกระบี่ดังโคร้งเคร้งนานนับชั่วโมง ราวกับอยากบอกโลกว่า ข้าก็ใช้กระบี่นะโว้ย โลกรับรู้ แต่คมกระบี่ก็บิ่น ต้องเสียเวลาลับกระบี่อีกหลายวัน
งานดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องตรงเวลาด้วย งานดีไม่มีทางเกิดขึ้นตามยถากรรม หรืออารมณ์ขึ้นลง ไปจนถึงความหนาแน่นรัดกุมของกฎเกณฑ์ "ตอกบัตร" ปริมาณเวลาในการทำงานชิ้นหนึ่งไม่ได้เป็นสัดส่วนกับคุณภาพของผลงานเสมอไป บ่อยครั้งเป็นปฏิภาคกัน หลายครั้งงานที่ให้เวลาน้อย กลับออกมาดีกว่างานที่ให้เวลามาก
"คนเก่งไม่เรื่องมาก คนฉลาดจริงไม่มากเรื่อง"
"ทำงานเสร็จแล้วก็เลิก ไม่ต้องรอเทวดาบนสวรรค์วิมานมารับรู้ เพราะถึงเวลานั้นเทวดาก็กลับบ้านไปแล้ว"
คติดีๆ
******** คมวาทะเจ้าสัว ********
เมื่อคุณจะทำธุรกิจใดๆ ก็ตาม หากคุณชอบและรัก และพร้อมที่จะทุ่มเทให้กับมัน คุณจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน แต่คุณต้องลงมือศึกษาอย่างเป็นจริงเป็นจังด้วย
----------------------------------------------------------- ชัยยุทธ กรรณสูต
อย่าลืมว่า ในการประกอบธุรกิจ เก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเฮงด้วย และเก่งกับเฮงก็ใช้ไม่ได้แล้วในสมัยนี้ ต้องมีสายสัมพันธ์ทางธุรกิจด้วย และเรื่องนี้ผมก็สอนลูก ๆ ผมอยู่เสมอ
----------------------------------------------------------- อุเทน เตชะไพบูลย์
ผมบอกพนักงานอยู่เสมอ คือในโลกนี้ ไม่มีคนไหนเก่งไปตลอดกาล วันนี้คุณอาจเก่ง แต่พรุ่งนี้ อาจมีคนเก่งกว่าคุณ เพราะฉะนั้น คนใดก็ตามที่ภูมิใจว่า ตนเองเก่ง จงจำเอาไว้ได้เลยว่า ความหายนะใกล้มาถึงตัวคุณแล้ว ความโง่คืบคลานมาใกล้ตัวคุณแล้ว
----------------------------------------------------------- ธนินท์ เจียรวนนท์
ผมพร้อมจะเป็นน้ำนิ่ง อาจมีเขื่อนมาขวางหน้า แต่ถ้าวันใด ที่เขื่อนนั้นเปราะบาง และโอกาสแห่งการสำแดงพลังมาถึง ผมก็พร้อมจะกลายเป็นกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก โหมกระหน่ำใส่ทุกสิ่งที่ขวางกั้น แม้กระทั่งเขื่อนที่ครั้งหนึ่งผมเคยสยบยอมก็ตาม
----------------------------------------------------------- เจริญ สิริวัฒนภักดี
ผมจะก้าวหน้าไปสักก้าว ก็ต้องเจออะไรมากระทบ แต่เราก็พยายามที่จะก้าวใหม่ อีกอย่างหนึ่งบ แบงค์กรุงเทพฯเคยถูกกระทบตลอดเวลา และไม่เคยท้อถอย ----------------------------------------------------------- ชาตรี โสภณพนิช
เจี้ย ยู่ เล้ง โจ้ว ซื่อ ยู่ โฮ้ แปลเป็นไทยได้ความว่า กินข้าวต้องเร็วเหมือนมังกร ทำงานต้องทำให้เหมือนเสือ และก็ไม่แต่ผมคนเดียวเท่านั้น ลูกๆ ทุกคนก็ปฏิบัติอย่างนี้
----------------------------------------------------------- บุญยสิทธิ์ โชควัฒนา
ถ้าคุณอดทน เพื่อจะทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จ คุณจำเป็นอย่างมากที่จะต้องลงมือศึกษาเรื่องนั้นๆ อย่างเป็นจริงเป็นจัง แต่ถ้าคุณไม่อดทน โอกาสที่คุณจะผิดพลาดก็ย่อมมีสูงเช่นกัน
----------------------------------------------------------- อนันต์ กาญจนพาสน์
จงเดินไปหาภูเขา อย่าให้ภูเขาเดินมาหาเรา เพราะผมคิดว่า ปกติผู้บริหารทั่วไป มักจะเรียกพนักงานมาประชุมกับเรา มันเหมือนเราย้ายพนักงานทั้งกองทัพมาหาเรา แต่สำหรับผมผมจะเดินไปหาเขา ผมบอกลูกน้องของผมว่า เราต้องเดินไปหาลูกค้า อย่าให้ลูกค้ามาหาเรา
----------------------------------------------------------- พรเทพ พรประภา
ในเรื่องของการพิจารณา ความดีความชอบ ผมจะฟังเสียงตอบรับจากลูกค้าเป็นหลักว่า ลูกน้องแต่ละคนทำงานลงไปแล้ว ลูกค้าพอใจแค่ไหนอย่างไร ผมจะไม่เชื่อหัวหน้าอย่างเดียว เพราะถ้าเกิดหัวหน้าบางคนไม่ชอบลูกน้อง อาจเกิดกรณีหัวหน้าแกล้งลูกน้องได้
----------------------------------------------------------- ประกิต อภิสารธนรักษ์
ผมมีหลักของอาจารย์ที่สอนผมอย่างหนึ่งว่า มนุษย์เกิดมาไม่มีใครเก่งที่สุด ดีที่สุด หรือแม้แต่เลวที่สุด เพราะคนที่ดีสุดและเลวที่สุด ได้ตายจากโลกนี้นานแล้ว คนที่เหลืออยู่จึงเป็นเพียง ชีวิตที่มีขึ้นมีลงอย่างเดียว
----------------------------------------------------------- ไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ
ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม คุณต้องศึกษาให้รู้แจ้งเสียก่อน ก่อนที่จะลงมือทำ และเมื่อลงมือทำแล้ว ก็ต้องทำให้จริงๆ จังๆ ให้มันรู้ไปเลยว่า เราทำไม่ไหวแล้ว
----------------------------------------------------------- ชวน ตั้งมติธรรม
มีหลักในการบริหารงาน ไม่กี่ประการ
1. ต้องลับคมอยู่เสมอ
2. ไม่กลัวงาน เมื่อคิดจะทำอะไรต้องทำทันที และ
3. ต้องรักษาคำพูด
-----------------------------------------------------------คุณหญิงชนัตถ์ ปิยะอุย
เวลามีปัญหาในองค์กร ปัญหาชีวิตและสุขภาพ จะมีทางแก้ไขปัญหาให้คลี่คลายหลายรูปแบบ แต่ที่สำคัญต้องมีสติ และมีความรักเป็นพื้นฐานสำคัญ จากนั้นจึงค่อยใช้ปัญญา เพราะปัญญาช่วยให้มองเห็นหนทาง ของการแก้ปัญหาอย่างชัดเจนที่สุด
----------------------------------------------------------- ชูเกียรติ อุทกะพันธุ์
1. จงเผชิญกับความจริงอย่างที่เป็นอยู่ มิใช่อย่างที่คุณอยากเป็น
2. จริงใจกับทุกคน
3. อย่าเป็นแค่นักบริหารแต่จงออกไปนำทัพ
4. จงเปลี่ยนแปลงก่อนที่เหตุการณ์จะบังคับให้ต้องเปลี่ยน
5. ถ้าท่านไม่มีจุดแข็ง หรือข้อได้เปรียบจงอย่าแข่งกับเขา
6. จงคุมชะตาด้วยตนเองมิฉะนั้น ผู้อื่นจะมาคุมแทน
----------------------------------------------------------- ท่านผู้หญิงนิรมล สุริยสัตย์
ในการทำงานใดๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้าง หรือนายจ้าง ควรจะรับฟังความคิดของผู้ร่วมงานเสมอ การเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น คือเป็นการเพิ่มประสบการณ์อื่นเป็นความรู้ นอกเหนือจากที่ได้รับมาจากการเอาเปรียบผู้อื่น ไม่ใช่ความสำเร็จที่แท้จริง
----------------------------------------------------------- โพธิ์พงษ์ ล่ำซำ
ที่ชอบเป็นพิเศษ คือคำพูดของซุนวู่ ที่บอกว่า รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ผมฟังปุ๊บ รู้สึกประทับใจทันที และเข้าใจว่า คนเราถ้าอยู่ใกล้ใคร มักอยากเป็นแบบนั้น ตอนนั้นจำได้ว่าผมอยากเป็นนักเขียนมาก แต่ที่ได้รับคำแนะนำ ว่าถ้าคุณอยากเขียนหนังสือจงเริ่มต้นจากสิ่งที่คุณรู้ก่อนเป็นอันดับแรก
----------------------------------------------------------- อมรเทพ ดีโรจนวงศ์
ก่อนจะขึ้นปีใหม่ขอฝากเรื่องให้อ่านเล่น ๆ อีก 1 เรื่อง เคยอ่านเจอในหนังสืออยู่เล่มนึง มีอยู่ว่า
ชาวนาจีนแก่ ๆ คนหนึ่งเดินไปตามถนน บนบ่ามีมีไม้พาดอยู่ และที่ปลายไม้นั้นก็มีหม้อดินใส่แกงจืดเต้าหู้ผูกห้อยไว้ ขณะที่เดินไป เขาเกิดสะดุดก้อนหิน และหม้อดินก็หล่นลงกระทบพื้นแตกกระจัดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ชาวนาผู้เฒ่าคนนี้ก็ก้มหน้าก้มตาเดินต่อไป โดยไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์รีบวิ่งมาหา แล้วพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “นี่ ๆ พ่อเฒ่า ท่านไม่รู้หรือว่าหม้อดินหล่น” ชายชราหันไปตอบว่า “ฉันรู้ ฉันได้ยินเสียงมันหล่นอยู่” ผู้อ่อนอาวุโสมีสีหน้าประหลาดใจเมื่อได้ยินคำตอบเช่นนั้น “อ้าว แล้วทำไมท่านไม่ย้อนกลับไปทำอย่างใดอย่างหนึ่งล่ะ” สีหน้าของผู้เฒ่ายังเป็นปกติขณะที่ตอบชายหนุ่มด้วยคำพูดที่หนักแน่นชัดเจนว่า
“ก็หม้อดินมันแตกแล้ว แกงจืดก็ไม่เหลือ แล้วจะให้ฉันทำอะไรอีกล่ะ” พูดจบชายชราผู้มากด้วยประสบการณ์ชีวิตก็ย่างเท้าก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง วันวานนี้สิ้นสุดลงตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว ทุก ๆ วันคือจุดเริ่มต้นใหม่ เรียนทักษะของการลืมอดีต แล้วก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ. ***********************************
เมื่อคุณจะทำธุรกิจใดๆ ก็ตาม หากคุณชอบและรัก และพร้อมที่จะทุ่มเทให้กับมัน คุณจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน แต่คุณต้องลงมือศึกษาอย่างเป็นจริงเป็นจังด้วย
----------------------------------------------------------- ชัยยุทธ กรรณสูต
อย่าลืมว่า ในการประกอบธุรกิจ เก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเฮงด้วย และเก่งกับเฮงก็ใช้ไม่ได้แล้วในสมัยนี้ ต้องมีสายสัมพันธ์ทางธุรกิจด้วย และเรื่องนี้ผมก็สอนลูก ๆ ผมอยู่เสมอ
----------------------------------------------------------- อุเทน เตชะไพบูลย์
ผมบอกพนักงานอยู่เสมอ คือในโลกนี้ ไม่มีคนไหนเก่งไปตลอดกาล วันนี้คุณอาจเก่ง แต่พรุ่งนี้ อาจมีคนเก่งกว่าคุณ เพราะฉะนั้น คนใดก็ตามที่ภูมิใจว่า ตนเองเก่ง จงจำเอาไว้ได้เลยว่า ความหายนะใกล้มาถึงตัวคุณแล้ว ความโง่คืบคลานมาใกล้ตัวคุณแล้ว
----------------------------------------------------------- ธนินท์ เจียรวนนท์
ผมพร้อมจะเป็นน้ำนิ่ง อาจมีเขื่อนมาขวางหน้า แต่ถ้าวันใด ที่เขื่อนนั้นเปราะบาง และโอกาสแห่งการสำแดงพลังมาถึง ผมก็พร้อมจะกลายเป็นกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก โหมกระหน่ำใส่ทุกสิ่งที่ขวางกั้น แม้กระทั่งเขื่อนที่ครั้งหนึ่งผมเคยสยบยอมก็ตาม
----------------------------------------------------------- เจริญ สิริวัฒนภักดี
ผมจะก้าวหน้าไปสักก้าว ก็ต้องเจออะไรมากระทบ แต่เราก็พยายามที่จะก้าวใหม่ อีกอย่างหนึ่งบ แบงค์กรุงเทพฯเคยถูกกระทบตลอดเวลา และไม่เคยท้อถอย ----------------------------------------------------------- ชาตรี โสภณพนิช
เจี้ย ยู่ เล้ง โจ้ว ซื่อ ยู่ โฮ้ แปลเป็นไทยได้ความว่า กินข้าวต้องเร็วเหมือนมังกร ทำงานต้องทำให้เหมือนเสือ และก็ไม่แต่ผมคนเดียวเท่านั้น ลูกๆ ทุกคนก็ปฏิบัติอย่างนี้
----------------------------------------------------------- บุญยสิทธิ์ โชควัฒนา
ถ้าคุณอดทน เพื่อจะทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จ คุณจำเป็นอย่างมากที่จะต้องลงมือศึกษาเรื่องนั้นๆ อย่างเป็นจริงเป็นจัง แต่ถ้าคุณไม่อดทน โอกาสที่คุณจะผิดพลาดก็ย่อมมีสูงเช่นกัน
----------------------------------------------------------- อนันต์ กาญจนพาสน์
จงเดินไปหาภูเขา อย่าให้ภูเขาเดินมาหาเรา เพราะผมคิดว่า ปกติผู้บริหารทั่วไป มักจะเรียกพนักงานมาประชุมกับเรา มันเหมือนเราย้ายพนักงานทั้งกองทัพมาหาเรา แต่สำหรับผมผมจะเดินไปหาเขา ผมบอกลูกน้องของผมว่า เราต้องเดินไปหาลูกค้า อย่าให้ลูกค้ามาหาเรา
----------------------------------------------------------- พรเทพ พรประภา
ในเรื่องของการพิจารณา ความดีความชอบ ผมจะฟังเสียงตอบรับจากลูกค้าเป็นหลักว่า ลูกน้องแต่ละคนทำงานลงไปแล้ว ลูกค้าพอใจแค่ไหนอย่างไร ผมจะไม่เชื่อหัวหน้าอย่างเดียว เพราะถ้าเกิดหัวหน้าบางคนไม่ชอบลูกน้อง อาจเกิดกรณีหัวหน้าแกล้งลูกน้องได้
----------------------------------------------------------- ประกิต อภิสารธนรักษ์
ผมมีหลักของอาจารย์ที่สอนผมอย่างหนึ่งว่า มนุษย์เกิดมาไม่มีใครเก่งที่สุด ดีที่สุด หรือแม้แต่เลวที่สุด เพราะคนที่ดีสุดและเลวที่สุด ได้ตายจากโลกนี้นานแล้ว คนที่เหลืออยู่จึงเป็นเพียง ชีวิตที่มีขึ้นมีลงอย่างเดียว
----------------------------------------------------------- ไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ
ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม คุณต้องศึกษาให้รู้แจ้งเสียก่อน ก่อนที่จะลงมือทำ และเมื่อลงมือทำแล้ว ก็ต้องทำให้จริงๆ จังๆ ให้มันรู้ไปเลยว่า เราทำไม่ไหวแล้ว
----------------------------------------------------------- ชวน ตั้งมติธรรม
มีหลักในการบริหารงาน ไม่กี่ประการ
1. ต้องลับคมอยู่เสมอ
2. ไม่กลัวงาน เมื่อคิดจะทำอะไรต้องทำทันที และ
3. ต้องรักษาคำพูด
-----------------------------------------------------------คุณหญิงชนัตถ์ ปิยะอุย
เวลามีปัญหาในองค์กร ปัญหาชีวิตและสุขภาพ จะมีทางแก้ไขปัญหาให้คลี่คลายหลายรูปแบบ แต่ที่สำคัญต้องมีสติ และมีความรักเป็นพื้นฐานสำคัญ จากนั้นจึงค่อยใช้ปัญญา เพราะปัญญาช่วยให้มองเห็นหนทาง ของการแก้ปัญหาอย่างชัดเจนที่สุด
----------------------------------------------------------- ชูเกียรติ อุทกะพันธุ์
1. จงเผชิญกับความจริงอย่างที่เป็นอยู่ มิใช่อย่างที่คุณอยากเป็น
2. จริงใจกับทุกคน
3. อย่าเป็นแค่นักบริหารแต่จงออกไปนำทัพ
4. จงเปลี่ยนแปลงก่อนที่เหตุการณ์จะบังคับให้ต้องเปลี่ยน
5. ถ้าท่านไม่มีจุดแข็ง หรือข้อได้เปรียบจงอย่าแข่งกับเขา
6. จงคุมชะตาด้วยตนเองมิฉะนั้น ผู้อื่นจะมาคุมแทน
----------------------------------------------------------- ท่านผู้หญิงนิรมล สุริยสัตย์
ในการทำงานใดๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้าง หรือนายจ้าง ควรจะรับฟังความคิดของผู้ร่วมงานเสมอ การเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น คือเป็นการเพิ่มประสบการณ์อื่นเป็นความรู้ นอกเหนือจากที่ได้รับมาจากการเอาเปรียบผู้อื่น ไม่ใช่ความสำเร็จที่แท้จริง
----------------------------------------------------------- โพธิ์พงษ์ ล่ำซำ
ที่ชอบเป็นพิเศษ คือคำพูดของซุนวู่ ที่บอกว่า รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ผมฟังปุ๊บ รู้สึกประทับใจทันที และเข้าใจว่า คนเราถ้าอยู่ใกล้ใคร มักอยากเป็นแบบนั้น ตอนนั้นจำได้ว่าผมอยากเป็นนักเขียนมาก แต่ที่ได้รับคำแนะนำ ว่าถ้าคุณอยากเขียนหนังสือจงเริ่มต้นจากสิ่งที่คุณรู้ก่อนเป็นอันดับแรก
----------------------------------------------------------- อมรเทพ ดีโรจนวงศ์
ก่อนจะขึ้นปีใหม่ขอฝากเรื่องให้อ่านเล่น ๆ อีก 1 เรื่อง เคยอ่านเจอในหนังสืออยู่เล่มนึง มีอยู่ว่า
ชาวนาจีนแก่ ๆ คนหนึ่งเดินไปตามถนน บนบ่ามีมีไม้พาดอยู่ และที่ปลายไม้นั้นก็มีหม้อดินใส่แกงจืดเต้าหู้ผูกห้อยไว้ ขณะที่เดินไป เขาเกิดสะดุดก้อนหิน และหม้อดินก็หล่นลงกระทบพื้นแตกกระจัดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ชาวนาผู้เฒ่าคนนี้ก็ก้มหน้าก้มตาเดินต่อไป โดยไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์รีบวิ่งมาหา แล้วพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “นี่ ๆ พ่อเฒ่า ท่านไม่รู้หรือว่าหม้อดินหล่น” ชายชราหันไปตอบว่า “ฉันรู้ ฉันได้ยินเสียงมันหล่นอยู่” ผู้อ่อนอาวุโสมีสีหน้าประหลาดใจเมื่อได้ยินคำตอบเช่นนั้น “อ้าว แล้วทำไมท่านไม่ย้อนกลับไปทำอย่างใดอย่างหนึ่งล่ะ” สีหน้าของผู้เฒ่ายังเป็นปกติขณะที่ตอบชายหนุ่มด้วยคำพูดที่หนักแน่นชัดเจนว่า
“ก็หม้อดินมันแตกแล้ว แกงจืดก็ไม่เหลือ แล้วจะให้ฉันทำอะไรอีกล่ะ” พูดจบชายชราผู้มากด้วยประสบการณ์ชีวิตก็ย่างเท้าก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง วันวานนี้สิ้นสุดลงตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว ทุก ๆ วันคือจุดเริ่มต้นใหม่ เรียนทักษะของการลืมอดีต แล้วก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ. ***********************************
สัญญาณไฟรถบรรทุก เวลาขับรถต่างจังหวัด
ควรรู้สำหรับผู้ขับรถเดินทางไปต่างจังหวัดครับ เทคนิคการดูไฟ เวลาขับรถต่างจังหวัด อาจจะใช้ได้ในบางครั้ง
บางอย่างก็ใช้ไม่ได้กับจราจรในเมืองไทย ต้องระวังมันต้องแยกก่อนครับว่าเราขับตามกัน หรือว่าเราขับสวนทางกัน
เอาที่ขับตามกันก่อนนะครับ และรถบรรทุกอยู่ข้างหน้าเรา กรณีนี้เราจะมองเห็นแต่ไฟท้าย ให้สังเกตไฟเลี้ยวนะครับ
*เปิดซ้ายที ขวาที สลับกัน หมายความว่าให้ระวัง
เค้าอาจจะเบรกหรือข้างหน้ามีปัญหา อาจมีด่าน มีอุบัติเหตุ หรือข้างหน้าเบรกกะทันหัน สรุปก็คือให้ระวังไว้ครับ อย่าเพิ่งแซงขึ้นไปในตอนนี้ขับตามกันไปก่อน
*เปิดกระพริบคู่ หรือที่เรียกว่าไฟผ่าหมาก
ถ้าใกล้แยกเค้าอาจจะบอกว่าเค้าจะตรงไปหรืออีกนัยหนึ่งถ้าเค้าเปิดกระพริบคู่หลัง จากที่เปิดซ้ายขวาสลับกัน แสดงว่าเค้ากำลังจะหยุดรถแล้วนะครับ ให้ระวังไว้
*เปิดซ้ายอย่างเดียว
ถ้ากรณีนี้รถวิ่งตามกันอยู่ในทางและเค้าไม่ได้เข้าจอด หมายความว่า เค้ายินดีให้เราแซงขึ้นไปได้ครับ และถ้าหากเป็นเลนสวนแสดงว่าข้างหน้าไม่มีรถสวนให้เราแซงได้โดยปลอดภัยครับ
*เปิดขวา อาจเปิดค้าง หรือเปิดเป็นจังหวะ
ถ้ารถวิ่งตามกันอยู่แสดงว่าเค้าไม่ให้เราแซงหรือ เค้าอาจกำลังจะแซงรถคันหน้า หรือกำลังจะเลี้ยวขวาหรือถ้าเป็นเลนสวน เค้าบอกว่า
กำลังมีรถสวนมาครับเพราะงั้น หากเห็นเค้าเปิดไฟเลี้ยวขวาห้ามแซงออกไปเด็ดขาดครับ ให้รอจนกว่าเค้าจะแซงไป หรือ จนกว่าเค้าจะเปิดไฟเลี้ยวซ้ายครับ
** ในกรณีของการขับรถตามกันหาก
เราแซงขึ้นไปจนพ้นจะสังเกตได้ว่าเค้าจะทำสองอย่างครับ อย่างแรกคือในจังหวะที่รถเรากำลังตีคู่กันเค้าจะเปิดไฟสูงให้เราเห็นทางข้างหน้า
และลดไฟลงต่ำเมื่อเราแซงพ้น หรือบางคันอาจปิดไฟหน้า หากเป็นตอนกลางคืน นั่นหมายความว่า เราแซงพ้นแล้ว ให้เข้ามาในเลนได้
แต่ถ้าเป็นกลางวันเค้าจะกระพริบไฟ 1 ทีครับ หรืออีกอย่าง เค้าอาจบีบแตรเบาๆเป็นสัญญาณให้ 1 ทีก็ได้ครับ แต่หลักที่นิยมทำกัน คือเมื่อเค้าเปิดทาง และเราแซงขึ้นไป เมื่อเราแซงไปในระดับเดียวกับรถเค้า เราจะบีบแตรสั้นๆ 1 ครั้งเป็นการขอบคุณและคุณมักจะได้ยินเค้าบีบตอบสั้นๆ 1 ครั้งเช่นกัน
แล้วถ้าขับสวนกันล่ะ ให้ดูหลายไฟหน่อยนะครับ จะมีไฟหน้า ไฟเลี้ยวครับ
* ขับสวนแล้วดับไฟหน้าแล้วเปิด
ส่วนใหญ่จะมีด่านครับหรืออีกกรณีจะมีอุบัติเหตุร้ายแรงข้างหน้า ระวังไว้ครับ
*กระพริบไฟหน้า อันนี้ส่วนใหญ่เป็นด่านครับ
แล้วต้องมองดูดีๆที่ไฟเลี้ยวด้วยครับ กระพริบไฟหน้า และเปิดไฟเลี้ยวข้างที่ชี้มาทางเรา ด่านจะอยู่ฝั่งเราครับ แต่ถ้าเปิดไฟเลี้ยวด้านฝั่งเค้า แสดงว่ามีตำรวจอยู่ฝั่งนู้นครับ ตอนกลางคืนถ้าเป็นเลนสวนกันขับสวนมาดีๆแล้วกระพริบไฟหน้าครั้งเดียว บางทีอาจไม่มีอะไรครับ เป็นแค่การทักทาย หรือเป็นการเช็คว่าเราหลับในรึเปล่า หรือเป็นการถามว่าทางที่เราผ่านมามีอะไร (ตำรวจ) หรือไม่ ถ้าเราไม่หลับ ไม่เคลิ้ม และทางสะดวกให้กระพริบไฟตอบกลับไป 1 ทีครับ
* เลนสวนกัน และมีขบวนรถขับสวนขึ้นมา ให้มองรถลำดับที่2 ในแถวไว้ให้ดีนะครับถ้าเรามาคันเดียวโดดๆ ยิ่งต้องระวังครับหากรถคันที่2
หรือคันต่อๆไปในแถวที่สวนมากระพริบไฟหรืออาจจะเบ้หัวออกมานิดหนึ่งและกระพริบไฟนั่นแสดงว่ารถคันแรกในขบวนช้า เค้ากำลังจะแซงออกมาแล้วครับ หากเห็นอย่างนั้นให้มองให้ดี และเตรียมชะลอความเร็ว ส่วนใหญ่แล้วพอเค้ากระพริบไฟเค้าก็จะหักหัวออกมาทันทีครับ เราทำได้อย่างเดียวนะครับ คือค่อยๆชะลอความเร็วและเบี่ยงออกไหล่ทางไม่ต้องไปต่อกร หรือไปอวดดีเด็ด ขาด พวกนี้พอออกมาแล้วไม่กลับแน่นอนครับยิ่งถ้าพอเค้าออกมาปุ๊บดับไฟปั๊บตัวใครตัวมันเลยครับรับรองได้ว่าไม่หลบแน่นอน ทีนี้ถ้าคุณคิดว่ารถคุณแข็งกว่าเค้าแน่ๆ ก็ตามสบายครับ จำไว้ครับรถใหญ่บนทางหลวงเค้าไม่ลงไหล่ทางแน่นอนครับเพราะว่ารถ มันหนัก ถ้าลงไหล่ปุ๊บมันจะเอาไม่อยู่และพลิกคว่ำทันทีครับ เพราะงั้นหลบได้ก็หลบเถิด และอีกอย่างหนึ่ง รถใหญ่หนัก เค้าจะไม่ค่อยเบรกกัน เมื่อเค้าได้รอบได้จังหวะ เค้าจะออกมาทันที เราต้องเป็นฝ่ายหลบนะครับ จริงอยู่มันอาจดูว่าเค้าผิด แต่หากว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว ความผิดหรือถูกมันก็ไม่สำคัญเท่าชีวิตหรอกครับ
บางอย่างก็ใช้ไม่ได้กับจราจรในเมืองไทย ต้องระวังมันต้องแยกก่อนครับว่าเราขับตามกัน หรือว่าเราขับสวนทางกัน
เอาที่ขับตามกันก่อนนะครับ และรถบรรทุกอยู่ข้างหน้าเรา กรณีนี้เราจะมองเห็นแต่ไฟท้าย ให้สังเกตไฟเลี้ยวนะครับ
*เปิดซ้ายที ขวาที สลับกัน หมายความว่าให้ระวัง
เค้าอาจจะเบรกหรือข้างหน้ามีปัญหา อาจมีด่าน มีอุบัติเหตุ หรือข้างหน้าเบรกกะทันหัน สรุปก็คือให้ระวังไว้ครับ อย่าเพิ่งแซงขึ้นไปในตอนนี้ขับตามกันไปก่อน
*เปิดกระพริบคู่ หรือที่เรียกว่าไฟผ่าหมาก
ถ้าใกล้แยกเค้าอาจจะบอกว่าเค้าจะตรงไปหรืออีกนัยหนึ่งถ้าเค้าเปิดกระพริบคู่หลัง จากที่เปิดซ้ายขวาสลับกัน แสดงว่าเค้ากำลังจะหยุดรถแล้วนะครับ ให้ระวังไว้
*เปิดซ้ายอย่างเดียว
ถ้ากรณีนี้รถวิ่งตามกันอยู่ในทางและเค้าไม่ได้เข้าจอด หมายความว่า เค้ายินดีให้เราแซงขึ้นไปได้ครับ และถ้าหากเป็นเลนสวนแสดงว่าข้างหน้าไม่มีรถสวนให้เราแซงได้โดยปลอดภัยครับ
*เปิดขวา อาจเปิดค้าง หรือเปิดเป็นจังหวะ
ถ้ารถวิ่งตามกันอยู่แสดงว่าเค้าไม่ให้เราแซงหรือ เค้าอาจกำลังจะแซงรถคันหน้า หรือกำลังจะเลี้ยวขวาหรือถ้าเป็นเลนสวน เค้าบอกว่า
กำลังมีรถสวนมาครับเพราะงั้น หากเห็นเค้าเปิดไฟเลี้ยวขวาห้ามแซงออกไปเด็ดขาดครับ ให้รอจนกว่าเค้าจะแซงไป หรือ จนกว่าเค้าจะเปิดไฟเลี้ยวซ้ายครับ
** ในกรณีของการขับรถตามกันหาก
เราแซงขึ้นไปจนพ้นจะสังเกตได้ว่าเค้าจะทำสองอย่างครับ อย่างแรกคือในจังหวะที่รถเรากำลังตีคู่กันเค้าจะเปิดไฟสูงให้เราเห็นทางข้างหน้า
และลดไฟลงต่ำเมื่อเราแซงพ้น หรือบางคันอาจปิดไฟหน้า หากเป็นตอนกลางคืน นั่นหมายความว่า เราแซงพ้นแล้ว ให้เข้ามาในเลนได้
แต่ถ้าเป็นกลางวันเค้าจะกระพริบไฟ 1 ทีครับ หรืออีกอย่าง เค้าอาจบีบแตรเบาๆเป็นสัญญาณให้ 1 ทีก็ได้ครับ แต่หลักที่นิยมทำกัน คือเมื่อเค้าเปิดทาง และเราแซงขึ้นไป เมื่อเราแซงไปในระดับเดียวกับรถเค้า เราจะบีบแตรสั้นๆ 1 ครั้งเป็นการขอบคุณและคุณมักจะได้ยินเค้าบีบตอบสั้นๆ 1 ครั้งเช่นกัน
แล้วถ้าขับสวนกันล่ะ ให้ดูหลายไฟหน่อยนะครับ จะมีไฟหน้า ไฟเลี้ยวครับ
* ขับสวนแล้วดับไฟหน้าแล้วเปิด
ส่วนใหญ่จะมีด่านครับหรืออีกกรณีจะมีอุบัติเหตุร้ายแรงข้างหน้า ระวังไว้ครับ
*กระพริบไฟหน้า อันนี้ส่วนใหญ่เป็นด่านครับ
แล้วต้องมองดูดีๆที่ไฟเลี้ยวด้วยครับ กระพริบไฟหน้า และเปิดไฟเลี้ยวข้างที่ชี้มาทางเรา ด่านจะอยู่ฝั่งเราครับ แต่ถ้าเปิดไฟเลี้ยวด้านฝั่งเค้า แสดงว่ามีตำรวจอยู่ฝั่งนู้นครับ ตอนกลางคืนถ้าเป็นเลนสวนกันขับสวนมาดีๆแล้วกระพริบไฟหน้าครั้งเดียว บางทีอาจไม่มีอะไรครับ เป็นแค่การทักทาย หรือเป็นการเช็คว่าเราหลับในรึเปล่า หรือเป็นการถามว่าทางที่เราผ่านมามีอะไร (ตำรวจ) หรือไม่ ถ้าเราไม่หลับ ไม่เคลิ้ม และทางสะดวกให้กระพริบไฟตอบกลับไป 1 ทีครับ
* เลนสวนกัน และมีขบวนรถขับสวนขึ้นมา ให้มองรถลำดับที่2 ในแถวไว้ให้ดีนะครับถ้าเรามาคันเดียวโดดๆ ยิ่งต้องระวังครับหากรถคันที่2
หรือคันต่อๆไปในแถวที่สวนมากระพริบไฟหรืออาจจะเบ้หัวออกมานิดหนึ่งและกระพริบไฟนั่นแสดงว่ารถคันแรกในขบวนช้า เค้ากำลังจะแซงออกมาแล้วครับ หากเห็นอย่างนั้นให้มองให้ดี และเตรียมชะลอความเร็ว ส่วนใหญ่แล้วพอเค้ากระพริบไฟเค้าก็จะหักหัวออกมาทันทีครับ เราทำได้อย่างเดียวนะครับ คือค่อยๆชะลอความเร็วและเบี่ยงออกไหล่ทางไม่ต้องไปต่อกร หรือไปอวดดีเด็ด ขาด พวกนี้พอออกมาแล้วไม่กลับแน่นอนครับยิ่งถ้าพอเค้าออกมาปุ๊บดับไฟปั๊บตัวใครตัวมันเลยครับรับรองได้ว่าไม่หลบแน่นอน ทีนี้ถ้าคุณคิดว่ารถคุณแข็งกว่าเค้าแน่ๆ ก็ตามสบายครับ จำไว้ครับรถใหญ่บนทางหลวงเค้าไม่ลงไหล่ทางแน่นอนครับเพราะว่ารถ มันหนัก ถ้าลงไหล่ปุ๊บมันจะเอาไม่อยู่และพลิกคว่ำทันทีครับ เพราะงั้นหลบได้ก็หลบเถิด และอีกอย่างหนึ่ง รถใหญ่หนัก เค้าจะไม่ค่อยเบรกกัน เมื่อเค้าได้รอบได้จังหวะ เค้าจะออกมาทันที เราต้องเป็นฝ่ายหลบนะครับ จริงอยู่มันอาจดูว่าเค้าผิด แต่หากว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว ความผิดหรือถูกมันก็ไม่สำคัญเท่าชีวิตหรอกครับ
ปางอุ๋ง จ. แม่ฮ่องสอน
หมู่บ้านรวมไทย เป็นหมู่บ้านโครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) ในพระบรมราชินูปถัมป์ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ลักษณะพื้นที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง ริมอ่างเก็บน้ำเป็นแนวสนที่ปลูกเรียงรายอย่างกลมกลืน ยามพระอาทิตย์ขึ้นจะสะท้อนผืนน้ำเป็นลำแสงสีทองผ่านแนวสนเขียวขจี งดงามจนถือได้ว่าเป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในเมืองไทย เปรียบได้กับ นิวซีแลนด์เมืองไทย และเมื่อได้สัมผัสกับแปลงพันธ์ไม้เมืองหนาวหลากสีสันที่ปลูกประดับในโครงการ ฯ ซึ่งเปรียบเสมือนกับ สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย ปางอุ๋ง ...เมื่อฟากหนึ่งเป็นนิวซีแลนด์ และอีกฝั่งหนึ่งเป็นสวิสเซอร์แลนด์
ที่พัก ปี 2550 โครงการพระราชดำริ ปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) มีนโยบายที่จะจำกัดนักท่องเที่ยวที่เข้าพัก โดยกำหนดให้สามารถกางเต็นท์ได้คืนละไม่เกิน 80 หลังครับ สำหรับที่พักภายใน โครงการพระราชดำริ ปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) มีดังนี้
1. บ้านพักของโครงการพระราชดำริ ปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) โทร. 053-692056
- เต๊นท์ โครงการพระราชดำริ ปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) มีบริการให้เช่าพื้นที่กางเต็นท์ โดยจะเปิดให้จองวันที่ 1 พฤศจิกายน 2550 ครับ
2. รวมไทยเกสต์เฮาส์ อยู่ริมทะเลสาบ โทร . 053-611244 มี 4 แบบครับ คือ
- เกสต์เฮาส์ขนาดเล็ก และ บ้านชนเผ่า ราคา 250 บาท
- เกสต์เฮาสขนาดกลาง ราคา 350 บาท
- เกสต์เฮาสขนาดใหญ่ ราคา 500 บาท
3. ลุงปาละเกสต์เฮ้าส์ โทร. 08-6916-8967 และ 08-4141-2636
** ทางโครงการพระราชดำริ ปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) แจ้งมาว่า"บ้านพักโครงการพระราชดำิริ ปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) และ รวมไทยเกสต์เฮาส์ เต็มหมดแล้วตั้งแต่เดือน ตุลาคม 50 - กุมภาพันธ์ 51ครับ"
ที่มา www.ezytrip.com
30 ต.ค. 2550
รับมือเพื่อนร่วมงานสารพัดนิสัย
เชื่อไหมว่า ต่อให้ใครก็ตามที่กำลังแฮปปี้กับงานของตัวเองอยู่นั้น มีจำนวนไม่น้อยที่กำลังปวดเศียรเวียนเกล้า หรือกำลังอดทนอดกลั้นกับนิสัยเพื่อนร่วมงานที่เข้าข่ายสร้างความเดือดร้อนสารพัดให้กับเรา หรืออาจรวมไปถึงคนอื่น ๆ ในออฟฟิศด้วย
ครั้นอยากพูดหรืออยากทำอะไรตรง ๆ ดังที่ใจคิด เกรงจะเกิดปัญหาลุกลามใหญ่โต ส่งผลถึงงานที่ก่อให้เกิดความไม่ราบรื่นตามมาอย่างมหาศาลได้ ทำอย่างไรดีล่ะ
ค่อนข้างน่าเห็นใจกับปัญหานิสัยเสีย ๆ ของเพื่อนร่วมงานในที่ทำงานเดียวกัน ที่ใน 1 วัน ต้องทำงานถึง 8 ชั่วโมง ซึ่งหมายความว่า เป็นช่วงเวลาที่เราต้องอยู่กับเพื่อนร่วมงานด้วยตลอดทั้งวันเช่นกัน จะว่าเป็นปัญหาเล็กน้อยได้เหมือนกันนะ แต่อย่างที่บอกอาจเป็นปัญหาน้ำผึ้งหยดเดียวแต่ส่งผลเดือดร้อนกันทั้งบริษัทได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ
ทว่าเรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้นกับตัวใคร อาจไม่ซาบซึ้งถึงความกดดันที่ส่งผลถึงความเครียดได้ จึงอยากขอเตือนคนทำงานทุกคนทุกราย ว่าอย่าชะล่าใจนัก วันเวลาที่หมุนเปลี่ยนเวียนไป แต่ละบริษัทมีพนักงานเวียนเข้าเวียนออกอยู่กันอย่างสม่ำเสมอ
เชื่อเถอะว่า ไม่วันใดวันหนึ่ง คุณต้องเจอเพื่อนร่วมงานนิสัยไม่พึงประสงค์เข้าสักวันได้อย่างแน่นอน!!!
แต่ก่อนอื่นเหนือสิ่งอื่นใด พึงประจักษ์ในใจไว้เลยว่า มืออาชีพนั้นจะแยกเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกันอย่างได้ผล
และคนเราเกิดมาร้อยพ่อพันแม่ ทำให้นิสัยใจคอ รวมถึงพฤติกรรมการแสดงออก ความคิด ย่อมแตกต่างกันเป็นของธรรมดา ไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์ดีพร้อม ดังนั้นเราจะเรียนรู้ที่ใช้ชีวิตให้อยู่กับผู้คนที่มีนิสัยแตกต่างราวฟ้ากับดินในสังคมได้อย่างไร
เพื่อนร่วมงานประเภทปากร้ายใจดี
ข้อดีของเพื่อนร่วมงานประเภทนี้
แม้จะปากร้ายไปหน่อย แต่ก็มีความหวังดีต่อเพื่อนคนอื่นอยู่ เรียกว่ามีความจริงใจให้เห็นกันยิ่งเพื่อนที่ไม่มีปากมีเสียงด้วยแล้ว จะรักเพื่อนคนนั้นเสียเหลือเกิน ไม่เชื่อลองสังเกตเพื่อนขาง ๆ ที่มีนิสัยแบบนี้ดูสิ
จุดอ่อนของพวกปากร้าย
- ปากเปราะ เอะอะอะไรก็ขอต่อว่าต่อขานคนอื่นเอาไว้ก่อน
- หลงผิด คิดว่าตัวเองถูกเสมอ ซ้ำดีซ้ำร้ายโยนความผิดให้คนอื่นซะเฉย ๆ ก็ทำได้
สิ่งที่ควรทำ
นอกจากทำใจไม่ถือสา ไม่เก็บคำพูดของเขามาคิดเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว คุณต้องเชื่อมั่นในตัวเอง เชื่อมั่นในความสามารถเรา อย่าให้ใครมาดูหมิ่นได้ เวลาไหนที่เพื่อนเจ้าพระคุณประเภทนี้กำลังวีนแตก ทำทุกอย่างให้เธอ (เขา) ใจเย็นลงมารวดเร็วที่สุด มิฉะนั้นบรรยากาศการทำงานคงไม่น่าอภิรมย์นัก และพยายามจะเอาชนะใจเขาให้ได้ เพราะเมื่อทำได้ล่ะก็ เขาจะรักและจริงใจด้วยอย่างไร้ข้อกังขา ขอความช่วยเหลืออะไร แทบทำให้คุณชนิดถวายหัว
สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาด
ห้ามเถียงกลับ หากต้องมีการชี้แจงใด ๆ ให้ทำตอนที่แก้ไขเรื่องทุกอย่างเสร็จแล้ว และพอเขาใจเย็นลงหรืออารมณ์ปกติลง ค่อย ๆ เล่าให้เขาฟังถึงการทำงานร่วมกับคนอื่นให้ประสพความสำเร็จควรทำอย่างไรบ้าง เพื่อให้มีทางเลือกที่ดีกว่า เอาแต่มีน้ำโหไปซะทุกครั้งอย่างไร้เหตุผล
เพื่อนร่วมงานประเภทปากดีแต่ใจร้าย
สำหรับประเภทนี้เปรียบเปรยได้อีกอย่างหนึ่ง คือ “ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ” เป็นพวกที่เต็มไปด้วยจริตมารยา เจตนาหลอกใช้คนอื่นอย่างเห็นได้ชัด ทำเป็นพูดดีนัก แต่ไร้ความจริงใจโดยสิ้นเชิง ดูเหมือนว่าเพื่อนร่วมงานแบบนี้จะน่ากลัวที่สุด
ข้อดีของเพื่อนร่วมงานปากดีแต่ใจร้าย
คือ ปากหวาน ฟังรื่นหูดูดี ทำงานในแบบที่ต้องใช้การสื่อสารโดยไม่เผชิญหน้าได้ดีมาก เข้าสังคมเก่ง เพราะชำนาญในการใส่หน้ากาก
จุดอ่อนของพวกปากดี ใจร้าย
- เป็นคนเพ้อเจ้อ และประมาทคิดว่าคนอื่นไม่ทันตัวเอง จึงทำให้ถูกหลอกและใช้ง่าย (ถ้าต้องการ)
- ทุกคนที่เขาคบหาในสังคมไม่มีจริงใจกับใคร จับจองแต่จะเอาประโยชน์จากกันทั้งนั้น
สิ่งที่ควรทำ
ทำงานด้วยกันนั้นให้กำหนดสัญญาต่าง ๆ ให้ชัดเจน และให้มีระยะเวลาที่จำกัดสั้น ๆ อย่ายืดเยื้อ ไม่งั้นคนพวกนี้หาผลประโยชน์กับคุณแม่
สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาด
อย่าเพ้อเจ้อไปตามเขา และอย่าไปดูหมิ่นความฝันหรือความคิดเขา คิดซะว่าทุกคนมีสิทธิ์ฝัน แต่อย่าหวังความสัมพันธ์ระยะยาวกับคนเช่นนี้ เขาไม่เคยจริงใจกับใครอย่างแท้จริงอยู่แล้ว พึงระวังไว้ว่ายิ่งยืดยาวยิ่งเจ็บลึก
เพื่อนร่วมงานประเภทใจดีเหลือเกิน
สาธุ!!! โชคดีของคุณที่ได้เพื่อนดี มีน้ำใจ แต่ระวังไว้ว่า บางทีดีจนตามใจกันไปเรื่อย ทำให้ชิ้นงานที่ทำร่วมกันเกิดการพัฒนาช้าหรือไม่พัฒนาเลย โดยข้อดีของคนประเภทนี้ จะมีความหวานแหววอยู่ด้วยแล้วอบอุ่นแน่นอน แต่อย่าฝันหวานเกินไปล่ะ แม้เพื่อนร่วมงานจะหวาน แต่โลกนี้ไม่ได้หวานด้วยหรอกนะ
จุดอ่อนของคนใจดี
- มีแนวโน้มเข้าข่ายหน่อมแน้ม ไม่ทันคน ไม่ทันเหตุการณ์
สิ่งที่ควรทำ
ตัวคุณควรรับผิดชอบงานให้ดี ขวนขวายที่จะพัฒนาเปลี่ยนแปลงการทำงานไปในทิศทางที่ดีขึ้น อย่าย่ำอยู่กับที่ หูตาต้องไววิเคราะห์สิ่งต่าง ๆ ให้รอบด้าน จงเป็นคนหนักแน่น แข็งแกร่งไว้ในการคบหากับเราจริง ๆ พร้อมให้กำลังใจและเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ เพื่อนดี ๆ หายากนัก ฉะนั้นอย่าไปซ้ำเติมเลย นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาจากวันนี้เป็นเพื่อนร่วมงาน แต่วันหน้าอาจเป็นหุ้นส่วนธุรกิจด้วยกันก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ
ห้ามเด็ดขาด
อย่าคิดร้ายกับเพื่อนดี ๆ ผลกรรมจะสนองเร็วไว
เพื่อนร่วมงานจอมงก ไร้น้ำใจ
เพื่อนประเภทนี้มักเอาแต่ได้อย่างเดียว จะให้คนอื่นเมื่อจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น หรือให้ไปแล้วจะต้องได้อะไรกลับมาเป็นการทดแทน อยู่กับเพื่อนจอมงกค่อนข้างอึดอัด เพราะเขาจะเห็นเงินมีค่ามากกว่าคน ใครเอาประโยชน์มาให้ก็ว่าดี ใครทำให้เสียประโยชน์แม้เพียงน้อยนิดก็ว่าคนอื่นชั่วได้แล้วเพื่อนจอมงกจนขาดน้ำใจเป็นคนทำอะไรถี่ถ้วนมาก เพราะเขาต้องคิดสะระตะให้ตัวเองได้ประโยชน์นั้น ๆ มากที่สุด ไม่เสียเวลากับอะไรง่าย ๆ ไม่ค่อยยอมคนด้วย
จุดอ่อนเพื่อนร่วมงานจอมงก
- เอาดีในโลกกว้างไม่ได้หรอก เพราะใจและความคิดแคบเกินไป
- ชีวิตแห้งแล้ง ไร้ความสุข อยู่ด้วยความหวาดระแวง
- อะไรที่มีแนวโน้มว่าได้ประโยชน์จะตาโต ใจแตก อย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ทำให้ทำงานพลาดได้ง่าย ๆ
สิ่งที่ควรทำ
พยายามแบ่งหน้าที่รับผิดชอบกันให้ชัดเจน แล้วต่างคนต่างรับผิดชอบ แยกย้ายทำงานกันไป แต่เพื่อนร่วมงานแบบนี้ หากทำงานร่วมกันไปจะพบว่า เขาเป็นทรายดูด อยู่ด้วยแล้วแห้งแล้งและจมไปเรื่อย ๆ ระวัง…นิสัยใจคอจะได้ของเขาติดตัวกลับมาแยกตัวออกมาได้ให้แยกออกมาเป็นการด่วน
ห้ามทำเด็ดขาด
ห้ามชวนเล่นการพนัน หรืออย่าชวนทำบุญที่ไม่เห็นผลชัด
เพื่อนร่วมงานนิสัยเปิดเผย จริงใจ
เพื่อนประเภทนี้เป็นพวกปากกับใจตรงกัน บางครั้งมักพูดมาก และจะเอาเรื่องสัพเพเหระมาเล่าให้เราฟังจนหูแฉะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว เรื่องส่วนตัว ได้สารพัด ไม่มีลับลมคมใน ทำงานด้านปฏิสัมพันธ์เก่งมาก แต่มักทำงานใหญ่ ๆ ยาก ไม่ได้ดีเท่าไหร่ เป็นคนคบกับใครง่าย ผูกพันง่าย แต่ทิ้งยาก
จุดอ่อนของคนเปิดเผย จริงใจ
- คนแบบนี้เหมือนกับเป็นคนหลวม ๆ ทำให้ผู้ไม่หวังดีทำลายได้ง่าย
- บางทีสร้างความน่ารำคาญกับสารพัดเรื่องที่เขามาเล่าให้ฟัง
สิ่งที่ควรทำ
หาทางพักหูซะบ้าง จัดห้องทำงานให้เป็นส่วนตัว ให้ความจริงใจตอบกลับ เปิดใจ แต่ไม่จำเป็นต้องเผยซะทุกเรื่องหรอกนะ เฉพาะที่เกี่ยวกับงานหรือที่มีผลกระทบต่องานก็พอแต่จำไว้ คนพูดมากมักลืมง่าย มักเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ให้ดีทำเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ในสิ่งที่เขาพูดมา ป้องกันไว้ก่อนที่เขาจะโมเมเอาว่าไม่ได้พูด
ห้ามทำที่สุด
อย่าไปต่อต้านหรือเออออห่อหมกกับคำพล่ามของเขาโดยทันที คิดพิจารณากันเป็นเรื่อง ๆ ไป ชั่งน้ำหนักคำพูดทุกคำพูด
เพื่อนร่วมงานเจ้าระเบียบ
เพื่อนประเภทนี้จุกจิกจู้จี้แม้เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกอย่างต้องให้เข้าที่เข้าทาง อะไรไม่เป็นระเบียบจะบ่นแล้วบ่นอีก แต่ไม่มีอะไรไม่อาฆาตหรือคาดโทษยาว ทำงานเรียบร้อย มีระบบระเบียบ มองโลกในแง่ใหม่ไปตามเหตุการณ์เนือง ๆ
จุดอ่อนของคนเจ้าระเบียบ
-ขี้บ่นจนน่าเบื่อ
สิ่งที่ควรทำ
ทำตัวเองให้เป็นคนมีระเบียบวินัยด้วย จะอยู่และทำงานในออฟฟิศด้วยความสบาย แต่ไม่ใช่ทำตัวเจ้าระเบียบจัดตามเขาไป ทุกอย่างยึดอยู่กับความพอดี
ห้ามทำเป็นอันขาด
ทำตัวเองหรือโต๊ะทำงานสกปรก เลอะเทอะไร้ระเบียบวินัย โดยเฉพาะหากว่านั่งทำงานอยู่ใกล้เคียงกันด้วยแล้ว อย่านะ…ที่ตัวเองทำสกปรกลุกลามไปถึงโต๊ะทำงานคนอื่นเขา โดยเฉพาะไปจุ้นจ้านบนโต๊ะเขายิ่งไม่เป็นอันควร
เพื่อนร่วมงานประเภทเจ้าชู้ไก่แจ้
พวกนี้ส่วนใหญ่บุคลิกดี มีเสน่ห์ ชอบล่าหัวใจเพศตรงข้าม เพื่อขยี้สวาท ตามนิสัยของคนที่ชอบเอาชนะทั้งใจและกาย ข้อดีคงเป็นในเรื่องลีลาแพรวพราว ทำให้หัวใจเพื่อนร่วมงานสาวเช่นคุณได้ลุ้นเป็นพัก ๆ
จุดอ่อนพวกเจ้าชู้
- สร้างความวุ่นวายในหมู่เพื่อนร่วมงาน ทำให้เกิดการแตกแยกกันได้
- หากถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์กัน อาจทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดอำนาจมากกว่า จึงทำต่อไปด้วยความลำบากไม่ใช่น้อย
สิ่งที่ควรทำ
หากเพื่อนพวกนี้มาปิ๊งปั๊งคุณแล้วล่ะก็ อยากให้คุณรักษาความน่าสนใจหมายปองของตัวเองต่อเขาไว้ให้นานที่สุด อย่ายอมลงเอยง่าย ๆ คนประเภทนี้จะชอบของยาก ชอบลุ้น หากให้เขาลุ้นไปตลอดเราจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ เพราะหากถูกชิมไปแล้ว ค่าของเราลดลงสำหรับเขาได้ หือหากคุณไม่อยากเล่นด้วย พยายามเปลี่ยนจุดสนใจให้เขาอยากเอาชนะการแข่งขันในเรื่องมาตรฐานงานแทนที่มามัวบ้าสวาทกับคนรอบข้างอยู่เรื่อย
ห้ามทำเด็ดขาด
อย่าตามใจตัวเองรวมทั้งอย่าตามใจเขา ต้องเข้มแข็ง (ยกเว้นว่าเป็นความรู้สึกตอบกลับที่ทำให้คุณเจริญและเป็นสุขจริง ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัว) ดังนั้นประเมินให้ดีและเที่ยงตรงด้วย อย่าเข้าข้างกิเลสเป็นอันขาด
เพื่อนร่วมงานร่ำรวยและถือตัว
พวกนี้ส่วนใหญ่บ้าเงิน ชอบอวดร่ำอวดรวย พอมีเงินคิดว่าตัวเองวิเศษเลิศเลอ มักดูหมิ่นคนจนและชอบใช้เงินซื้อทุกอย่างแม้แต่หัวใจคน นิสัยของพวกถือตัวและอวดรวยนั้นมักควักจ่ายอะไรยากนะ ต้องมีโครงการที่เข้าท่าและนำพาประโยชน์มาให้หรอกนะ จึงจะยอมควักกระเป๋าตัวเองกัน
จุดอ่อนพวกถือตัวเองว่าร่ำรวย
- เจอคอที่มีเงินมากกว่ามักอ่อนและยอมโดยง่าย ถูกหลอกล่อได้ด้วยผลประโยชน์
- กรรมจากการดูหมิ่นคนอื่นทำให้เขาเป็นที่รังเกียจ หมั่นไส้ หรือขบขันในหมู่คนทั่วไป แม้จะมีเงินมากก็ตาม
สิ่งที่ควรทำ
ทำการใดให้เคลียร์เรื่องระบบผลตอบแทนระหว่างกันและกันให้ชัดตั้งแต่ต้น แต่อย่าแสดงความอยากมากนัก เขาจะกลัวเสียก่อน อยู่กับคนแบบนี้อยากมากก็ไม่ได้ ยอมตามก็ไม่ดี ต้องจัดระบบกำกับตัวเองเข้าไว้
ห้ามทำเป็นที่สุด
อย่าประจบสอพลอกับเพื่อนร่วมงานนิสัยแบบนี้เป็นอันขาด จะทำให้เขาประเมินค่าของคุณต่ำทันที อย่าอยากได้เงินของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง จะทำให้คุณเป็นทาสเขา รวยแค่ไหนอย่าไปสน อนาคตคุณเองก็สามารถรวยได้เท่าเทียมเขาเช่นกัน หรือมากกว่าด้วยซ้ำ หากคุณประสพความสำเร็จในหน้าที่การงานของตัวเอง อย่าไปยุ่งกับตัวตนของเขา ให้เขาแบกไปเถอะ ใครแบกก็หนักเอง จำไว้ว่าของใครของมัน
เพื่อนร่วมงานประเภทพูดมากแต่ทำน้อย
เพื่อนร่วมงานนิสัยแบบนี้ดีแต่พูด ขี้เกียจ เอาแต่สั่ง เอาแต่ใช้ และเอาเปรียบคนอื่น โดยจะเป็นคนพล่ามไปเรื่อย ไร้สาระ ทั้งที่เกี่ยวกับงานและไม่เกี่ยวกับงาน จนทำให้บรรยากาศการทำงานและบริษัทวุ่นวายสับสน เต็มไปด้วยขยะเรื่องราวที่ไม่สร้างสรรค์ผลงานใด ซ้ำร้ายยังบั่นทอนประสิทธิภาพงานด้วย หากถามถึงข้อดี ๆ ของพวกนิสัยดีแต่พูด คงเป็นแค่ช่วยให้บรรยากาศในออฟฟิศไม่เงียบงัน บางครั้งก็ครึกครื้นเท่านั้นเอง
จุดอ่อนพวกที่เอาแต่พูด
- เป็นพวกไร้สาระ
- ความรับผิดชอบในหน้าที่การงานต่ำมาก
- สร้างปัญหาให้หมู่คณะอยู่เนือง ๆ
- มีแนวโน้มเป็นพวกชอบป้ายความผิดให้คนอื่นในที่ทำงานเดียวกัน ในยามไม่รู้จริงในหน้าที่ของตน
สิ่งที่ควรทำ
เพื่อนไม่ยอมทำงานไม่เป็นไร แต่คุณต้องทำให้จริงจังจนงานสำเร็จ แต่รักษาผลประโยชน์ทางปัญญาให้ดีล่ะ เพราะเพื่อนร่วมงานนิสัยเอาแต่พูดมักทึกทักเอาว่า เป็นผลงานของเขา และหากเขาชอบพูดอะไรที่ไม่เกี่ยวกับงาน คุณอาจไม่ฟังหรือไม่ตอบก็ได้ ปล่อยให้เพื่อนพวกนี้อยู่คนเดียวบ่อย ๆ หากคุณและเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ พร้อมใจให้เขาอยู่คนเดียว จะเป็นการช่วยให้เขาคิดหาสาระให้กับตัวเองมากขึ้น
ห้ามทำเด็ดขาด
อย่าพูดมากทำน้อยตามเพื่อนคนนี้ไปซะอีก ไม่ดีกับงานคุณแน่ ๆ อย่าไปต่อว่าตอขานกับคำพูดเขา อยากพูดให้พูดไป พยายามหาประโยชน์จากการพูดของเขา เช่น จัดโปรแกรมให้ออกไปประชาสัมพันธ์บริษัทหรือโครงการภายนอกก็จะดี เพราะหากสามัคคีคือพลังในการทำงานใดให้สำเร็จ
ทั้งนี้ทั้งนั้นการทำงานอย่างมีความสุข สนุกกับงาน เพื่อนร่วมงานนั้นมีบทบาทสำคัญ นั่นหมายความว่าคุณจะมองข้ามการผูกใจเพื่อนร่วมงานไม่ได้เด็ดขาด หากสามารถทำให้แต่ละคนทำงานเข้าขากับเราแล้วล่ะก็ เส้นชัยแค่เอื้อมเท่านั้น
ครั้นอยากพูดหรืออยากทำอะไรตรง ๆ ดังที่ใจคิด เกรงจะเกิดปัญหาลุกลามใหญ่โต ส่งผลถึงงานที่ก่อให้เกิดความไม่ราบรื่นตามมาอย่างมหาศาลได้ ทำอย่างไรดีล่ะ
ค่อนข้างน่าเห็นใจกับปัญหานิสัยเสีย ๆ ของเพื่อนร่วมงานในที่ทำงานเดียวกัน ที่ใน 1 วัน ต้องทำงานถึง 8 ชั่วโมง ซึ่งหมายความว่า เป็นช่วงเวลาที่เราต้องอยู่กับเพื่อนร่วมงานด้วยตลอดทั้งวันเช่นกัน จะว่าเป็นปัญหาเล็กน้อยได้เหมือนกันนะ แต่อย่างที่บอกอาจเป็นปัญหาน้ำผึ้งหยดเดียวแต่ส่งผลเดือดร้อนกันทั้งบริษัทได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ
ทว่าเรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้นกับตัวใคร อาจไม่ซาบซึ้งถึงความกดดันที่ส่งผลถึงความเครียดได้ จึงอยากขอเตือนคนทำงานทุกคนทุกราย ว่าอย่าชะล่าใจนัก วันเวลาที่หมุนเปลี่ยนเวียนไป แต่ละบริษัทมีพนักงานเวียนเข้าเวียนออกอยู่กันอย่างสม่ำเสมอ
เชื่อเถอะว่า ไม่วันใดวันหนึ่ง คุณต้องเจอเพื่อนร่วมงานนิสัยไม่พึงประสงค์เข้าสักวันได้อย่างแน่นอน!!!
แต่ก่อนอื่นเหนือสิ่งอื่นใด พึงประจักษ์ในใจไว้เลยว่า มืออาชีพนั้นจะแยกเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกันอย่างได้ผล
และคนเราเกิดมาร้อยพ่อพันแม่ ทำให้นิสัยใจคอ รวมถึงพฤติกรรมการแสดงออก ความคิด ย่อมแตกต่างกันเป็นของธรรมดา ไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์ดีพร้อม ดังนั้นเราจะเรียนรู้ที่ใช้ชีวิตให้อยู่กับผู้คนที่มีนิสัยแตกต่างราวฟ้ากับดินในสังคมได้อย่างไร
เพื่อนร่วมงานประเภทปากร้ายใจดี
ข้อดีของเพื่อนร่วมงานประเภทนี้
แม้จะปากร้ายไปหน่อย แต่ก็มีความหวังดีต่อเพื่อนคนอื่นอยู่ เรียกว่ามีความจริงใจให้เห็นกันยิ่งเพื่อนที่ไม่มีปากมีเสียงด้วยแล้ว จะรักเพื่อนคนนั้นเสียเหลือเกิน ไม่เชื่อลองสังเกตเพื่อนขาง ๆ ที่มีนิสัยแบบนี้ดูสิ
จุดอ่อนของพวกปากร้าย
- ปากเปราะ เอะอะอะไรก็ขอต่อว่าต่อขานคนอื่นเอาไว้ก่อน
- หลงผิด คิดว่าตัวเองถูกเสมอ ซ้ำดีซ้ำร้ายโยนความผิดให้คนอื่นซะเฉย ๆ ก็ทำได้
สิ่งที่ควรทำ
นอกจากทำใจไม่ถือสา ไม่เก็บคำพูดของเขามาคิดเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว คุณต้องเชื่อมั่นในตัวเอง เชื่อมั่นในความสามารถเรา อย่าให้ใครมาดูหมิ่นได้ เวลาไหนที่เพื่อนเจ้าพระคุณประเภทนี้กำลังวีนแตก ทำทุกอย่างให้เธอ (เขา) ใจเย็นลงมารวดเร็วที่สุด มิฉะนั้นบรรยากาศการทำงานคงไม่น่าอภิรมย์นัก และพยายามจะเอาชนะใจเขาให้ได้ เพราะเมื่อทำได้ล่ะก็ เขาจะรักและจริงใจด้วยอย่างไร้ข้อกังขา ขอความช่วยเหลืออะไร แทบทำให้คุณชนิดถวายหัว
สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาด
ห้ามเถียงกลับ หากต้องมีการชี้แจงใด ๆ ให้ทำตอนที่แก้ไขเรื่องทุกอย่างเสร็จแล้ว และพอเขาใจเย็นลงหรืออารมณ์ปกติลง ค่อย ๆ เล่าให้เขาฟังถึงการทำงานร่วมกับคนอื่นให้ประสพความสำเร็จควรทำอย่างไรบ้าง เพื่อให้มีทางเลือกที่ดีกว่า เอาแต่มีน้ำโหไปซะทุกครั้งอย่างไร้เหตุผล
เพื่อนร่วมงานประเภทปากดีแต่ใจร้าย
สำหรับประเภทนี้เปรียบเปรยได้อีกอย่างหนึ่ง คือ “ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ” เป็นพวกที่เต็มไปด้วยจริตมารยา เจตนาหลอกใช้คนอื่นอย่างเห็นได้ชัด ทำเป็นพูดดีนัก แต่ไร้ความจริงใจโดยสิ้นเชิง ดูเหมือนว่าเพื่อนร่วมงานแบบนี้จะน่ากลัวที่สุด
ข้อดีของเพื่อนร่วมงานปากดีแต่ใจร้าย
คือ ปากหวาน ฟังรื่นหูดูดี ทำงานในแบบที่ต้องใช้การสื่อสารโดยไม่เผชิญหน้าได้ดีมาก เข้าสังคมเก่ง เพราะชำนาญในการใส่หน้ากาก
จุดอ่อนของพวกปากดี ใจร้าย
- เป็นคนเพ้อเจ้อ และประมาทคิดว่าคนอื่นไม่ทันตัวเอง จึงทำให้ถูกหลอกและใช้ง่าย (ถ้าต้องการ)
- ทุกคนที่เขาคบหาในสังคมไม่มีจริงใจกับใคร จับจองแต่จะเอาประโยชน์จากกันทั้งนั้น
สิ่งที่ควรทำ
ทำงานด้วยกันนั้นให้กำหนดสัญญาต่าง ๆ ให้ชัดเจน และให้มีระยะเวลาที่จำกัดสั้น ๆ อย่ายืดเยื้อ ไม่งั้นคนพวกนี้หาผลประโยชน์กับคุณแม่
สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาด
อย่าเพ้อเจ้อไปตามเขา และอย่าไปดูหมิ่นความฝันหรือความคิดเขา คิดซะว่าทุกคนมีสิทธิ์ฝัน แต่อย่าหวังความสัมพันธ์ระยะยาวกับคนเช่นนี้ เขาไม่เคยจริงใจกับใครอย่างแท้จริงอยู่แล้ว พึงระวังไว้ว่ายิ่งยืดยาวยิ่งเจ็บลึก
เพื่อนร่วมงานประเภทใจดีเหลือเกิน
สาธุ!!! โชคดีของคุณที่ได้เพื่อนดี มีน้ำใจ แต่ระวังไว้ว่า บางทีดีจนตามใจกันไปเรื่อย ทำให้ชิ้นงานที่ทำร่วมกันเกิดการพัฒนาช้าหรือไม่พัฒนาเลย โดยข้อดีของคนประเภทนี้ จะมีความหวานแหววอยู่ด้วยแล้วอบอุ่นแน่นอน แต่อย่าฝันหวานเกินไปล่ะ แม้เพื่อนร่วมงานจะหวาน แต่โลกนี้ไม่ได้หวานด้วยหรอกนะ
จุดอ่อนของคนใจดี
- มีแนวโน้มเข้าข่ายหน่อมแน้ม ไม่ทันคน ไม่ทันเหตุการณ์
สิ่งที่ควรทำ
ตัวคุณควรรับผิดชอบงานให้ดี ขวนขวายที่จะพัฒนาเปลี่ยนแปลงการทำงานไปในทิศทางที่ดีขึ้น อย่าย่ำอยู่กับที่ หูตาต้องไววิเคราะห์สิ่งต่าง ๆ ให้รอบด้าน จงเป็นคนหนักแน่น แข็งแกร่งไว้ในการคบหากับเราจริง ๆ พร้อมให้กำลังใจและเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ เพื่อนดี ๆ หายากนัก ฉะนั้นอย่าไปซ้ำเติมเลย นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาจากวันนี้เป็นเพื่อนร่วมงาน แต่วันหน้าอาจเป็นหุ้นส่วนธุรกิจด้วยกันก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ
ห้ามเด็ดขาด
อย่าคิดร้ายกับเพื่อนดี ๆ ผลกรรมจะสนองเร็วไว
เพื่อนร่วมงานจอมงก ไร้น้ำใจ
เพื่อนประเภทนี้มักเอาแต่ได้อย่างเดียว จะให้คนอื่นเมื่อจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น หรือให้ไปแล้วจะต้องได้อะไรกลับมาเป็นการทดแทน อยู่กับเพื่อนจอมงกค่อนข้างอึดอัด เพราะเขาจะเห็นเงินมีค่ามากกว่าคน ใครเอาประโยชน์มาให้ก็ว่าดี ใครทำให้เสียประโยชน์แม้เพียงน้อยนิดก็ว่าคนอื่นชั่วได้แล้วเพื่อนจอมงกจนขาดน้ำใจเป็นคนทำอะไรถี่ถ้วนมาก เพราะเขาต้องคิดสะระตะให้ตัวเองได้ประโยชน์นั้น ๆ มากที่สุด ไม่เสียเวลากับอะไรง่าย ๆ ไม่ค่อยยอมคนด้วย
จุดอ่อนเพื่อนร่วมงานจอมงก
- เอาดีในโลกกว้างไม่ได้หรอก เพราะใจและความคิดแคบเกินไป
- ชีวิตแห้งแล้ง ไร้ความสุข อยู่ด้วยความหวาดระแวง
- อะไรที่มีแนวโน้มว่าได้ประโยชน์จะตาโต ใจแตก อย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ทำให้ทำงานพลาดได้ง่าย ๆ
สิ่งที่ควรทำ
พยายามแบ่งหน้าที่รับผิดชอบกันให้ชัดเจน แล้วต่างคนต่างรับผิดชอบ แยกย้ายทำงานกันไป แต่เพื่อนร่วมงานแบบนี้ หากทำงานร่วมกันไปจะพบว่า เขาเป็นทรายดูด อยู่ด้วยแล้วแห้งแล้งและจมไปเรื่อย ๆ ระวัง…นิสัยใจคอจะได้ของเขาติดตัวกลับมาแยกตัวออกมาได้ให้แยกออกมาเป็นการด่วน
ห้ามทำเด็ดขาด
ห้ามชวนเล่นการพนัน หรืออย่าชวนทำบุญที่ไม่เห็นผลชัด
เพื่อนร่วมงานนิสัยเปิดเผย จริงใจ
เพื่อนประเภทนี้เป็นพวกปากกับใจตรงกัน บางครั้งมักพูดมาก และจะเอาเรื่องสัพเพเหระมาเล่าให้เราฟังจนหูแฉะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว เรื่องส่วนตัว ได้สารพัด ไม่มีลับลมคมใน ทำงานด้านปฏิสัมพันธ์เก่งมาก แต่มักทำงานใหญ่ ๆ ยาก ไม่ได้ดีเท่าไหร่ เป็นคนคบกับใครง่าย ผูกพันง่าย แต่ทิ้งยาก
จุดอ่อนของคนเปิดเผย จริงใจ
- คนแบบนี้เหมือนกับเป็นคนหลวม ๆ ทำให้ผู้ไม่หวังดีทำลายได้ง่าย
- บางทีสร้างความน่ารำคาญกับสารพัดเรื่องที่เขามาเล่าให้ฟัง
สิ่งที่ควรทำ
หาทางพักหูซะบ้าง จัดห้องทำงานให้เป็นส่วนตัว ให้ความจริงใจตอบกลับ เปิดใจ แต่ไม่จำเป็นต้องเผยซะทุกเรื่องหรอกนะ เฉพาะที่เกี่ยวกับงานหรือที่มีผลกระทบต่องานก็พอแต่จำไว้ คนพูดมากมักลืมง่าย มักเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ให้ดีทำเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ในสิ่งที่เขาพูดมา ป้องกันไว้ก่อนที่เขาจะโมเมเอาว่าไม่ได้พูด
ห้ามทำที่สุด
อย่าไปต่อต้านหรือเออออห่อหมกกับคำพล่ามของเขาโดยทันที คิดพิจารณากันเป็นเรื่อง ๆ ไป ชั่งน้ำหนักคำพูดทุกคำพูด
เพื่อนร่วมงานเจ้าระเบียบ
เพื่อนประเภทนี้จุกจิกจู้จี้แม้เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกอย่างต้องให้เข้าที่เข้าทาง อะไรไม่เป็นระเบียบจะบ่นแล้วบ่นอีก แต่ไม่มีอะไรไม่อาฆาตหรือคาดโทษยาว ทำงานเรียบร้อย มีระบบระเบียบ มองโลกในแง่ใหม่ไปตามเหตุการณ์เนือง ๆ
จุดอ่อนของคนเจ้าระเบียบ
-ขี้บ่นจนน่าเบื่อ
สิ่งที่ควรทำ
ทำตัวเองให้เป็นคนมีระเบียบวินัยด้วย จะอยู่และทำงานในออฟฟิศด้วยความสบาย แต่ไม่ใช่ทำตัวเจ้าระเบียบจัดตามเขาไป ทุกอย่างยึดอยู่กับความพอดี
ห้ามทำเป็นอันขาด
ทำตัวเองหรือโต๊ะทำงานสกปรก เลอะเทอะไร้ระเบียบวินัย โดยเฉพาะหากว่านั่งทำงานอยู่ใกล้เคียงกันด้วยแล้ว อย่านะ…ที่ตัวเองทำสกปรกลุกลามไปถึงโต๊ะทำงานคนอื่นเขา โดยเฉพาะไปจุ้นจ้านบนโต๊ะเขายิ่งไม่เป็นอันควร
เพื่อนร่วมงานประเภทเจ้าชู้ไก่แจ้
พวกนี้ส่วนใหญ่บุคลิกดี มีเสน่ห์ ชอบล่าหัวใจเพศตรงข้าม เพื่อขยี้สวาท ตามนิสัยของคนที่ชอบเอาชนะทั้งใจและกาย ข้อดีคงเป็นในเรื่องลีลาแพรวพราว ทำให้หัวใจเพื่อนร่วมงานสาวเช่นคุณได้ลุ้นเป็นพัก ๆ
จุดอ่อนพวกเจ้าชู้
- สร้างความวุ่นวายในหมู่เพื่อนร่วมงาน ทำให้เกิดการแตกแยกกันได้
- หากถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์กัน อาจทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดอำนาจมากกว่า จึงทำต่อไปด้วยความลำบากไม่ใช่น้อย
สิ่งที่ควรทำ
หากเพื่อนพวกนี้มาปิ๊งปั๊งคุณแล้วล่ะก็ อยากให้คุณรักษาความน่าสนใจหมายปองของตัวเองต่อเขาไว้ให้นานที่สุด อย่ายอมลงเอยง่าย ๆ คนประเภทนี้จะชอบของยาก ชอบลุ้น หากให้เขาลุ้นไปตลอดเราจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ เพราะหากถูกชิมไปแล้ว ค่าของเราลดลงสำหรับเขาได้ หือหากคุณไม่อยากเล่นด้วย พยายามเปลี่ยนจุดสนใจให้เขาอยากเอาชนะการแข่งขันในเรื่องมาตรฐานงานแทนที่มามัวบ้าสวาทกับคนรอบข้างอยู่เรื่อย
ห้ามทำเด็ดขาด
อย่าตามใจตัวเองรวมทั้งอย่าตามใจเขา ต้องเข้มแข็ง (ยกเว้นว่าเป็นความรู้สึกตอบกลับที่ทำให้คุณเจริญและเป็นสุขจริง ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัว) ดังนั้นประเมินให้ดีและเที่ยงตรงด้วย อย่าเข้าข้างกิเลสเป็นอันขาด
เพื่อนร่วมงานร่ำรวยและถือตัว
พวกนี้ส่วนใหญ่บ้าเงิน ชอบอวดร่ำอวดรวย พอมีเงินคิดว่าตัวเองวิเศษเลิศเลอ มักดูหมิ่นคนจนและชอบใช้เงินซื้อทุกอย่างแม้แต่หัวใจคน นิสัยของพวกถือตัวและอวดรวยนั้นมักควักจ่ายอะไรยากนะ ต้องมีโครงการที่เข้าท่าและนำพาประโยชน์มาให้หรอกนะ จึงจะยอมควักกระเป๋าตัวเองกัน
จุดอ่อนพวกถือตัวเองว่าร่ำรวย
- เจอคอที่มีเงินมากกว่ามักอ่อนและยอมโดยง่าย ถูกหลอกล่อได้ด้วยผลประโยชน์
- กรรมจากการดูหมิ่นคนอื่นทำให้เขาเป็นที่รังเกียจ หมั่นไส้ หรือขบขันในหมู่คนทั่วไป แม้จะมีเงินมากก็ตาม
สิ่งที่ควรทำ
ทำการใดให้เคลียร์เรื่องระบบผลตอบแทนระหว่างกันและกันให้ชัดตั้งแต่ต้น แต่อย่าแสดงความอยากมากนัก เขาจะกลัวเสียก่อน อยู่กับคนแบบนี้อยากมากก็ไม่ได้ ยอมตามก็ไม่ดี ต้องจัดระบบกำกับตัวเองเข้าไว้
ห้ามทำเป็นที่สุด
อย่าประจบสอพลอกับเพื่อนร่วมงานนิสัยแบบนี้เป็นอันขาด จะทำให้เขาประเมินค่าของคุณต่ำทันที อย่าอยากได้เงินของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง จะทำให้คุณเป็นทาสเขา รวยแค่ไหนอย่าไปสน อนาคตคุณเองก็สามารถรวยได้เท่าเทียมเขาเช่นกัน หรือมากกว่าด้วยซ้ำ หากคุณประสพความสำเร็จในหน้าที่การงานของตัวเอง อย่าไปยุ่งกับตัวตนของเขา ให้เขาแบกไปเถอะ ใครแบกก็หนักเอง จำไว้ว่าของใครของมัน
เพื่อนร่วมงานประเภทพูดมากแต่ทำน้อย
เพื่อนร่วมงานนิสัยแบบนี้ดีแต่พูด ขี้เกียจ เอาแต่สั่ง เอาแต่ใช้ และเอาเปรียบคนอื่น โดยจะเป็นคนพล่ามไปเรื่อย ไร้สาระ ทั้งที่เกี่ยวกับงานและไม่เกี่ยวกับงาน จนทำให้บรรยากาศการทำงานและบริษัทวุ่นวายสับสน เต็มไปด้วยขยะเรื่องราวที่ไม่สร้างสรรค์ผลงานใด ซ้ำร้ายยังบั่นทอนประสิทธิภาพงานด้วย หากถามถึงข้อดี ๆ ของพวกนิสัยดีแต่พูด คงเป็นแค่ช่วยให้บรรยากาศในออฟฟิศไม่เงียบงัน บางครั้งก็ครึกครื้นเท่านั้นเอง
จุดอ่อนพวกที่เอาแต่พูด
- เป็นพวกไร้สาระ
- ความรับผิดชอบในหน้าที่การงานต่ำมาก
- สร้างปัญหาให้หมู่คณะอยู่เนือง ๆ
- มีแนวโน้มเป็นพวกชอบป้ายความผิดให้คนอื่นในที่ทำงานเดียวกัน ในยามไม่รู้จริงในหน้าที่ของตน
สิ่งที่ควรทำ
เพื่อนไม่ยอมทำงานไม่เป็นไร แต่คุณต้องทำให้จริงจังจนงานสำเร็จ แต่รักษาผลประโยชน์ทางปัญญาให้ดีล่ะ เพราะเพื่อนร่วมงานนิสัยเอาแต่พูดมักทึกทักเอาว่า เป็นผลงานของเขา และหากเขาชอบพูดอะไรที่ไม่เกี่ยวกับงาน คุณอาจไม่ฟังหรือไม่ตอบก็ได้ ปล่อยให้เพื่อนพวกนี้อยู่คนเดียวบ่อย ๆ หากคุณและเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ พร้อมใจให้เขาอยู่คนเดียว จะเป็นการช่วยให้เขาคิดหาสาระให้กับตัวเองมากขึ้น
ห้ามทำเด็ดขาด
อย่าพูดมากทำน้อยตามเพื่อนคนนี้ไปซะอีก ไม่ดีกับงานคุณแน่ ๆ อย่าไปต่อว่าตอขานกับคำพูดเขา อยากพูดให้พูดไป พยายามหาประโยชน์จากการพูดของเขา เช่น จัดโปรแกรมให้ออกไปประชาสัมพันธ์บริษัทหรือโครงการภายนอกก็จะดี เพราะหากสามัคคีคือพลังในการทำงานใดให้สำเร็จ
ทั้งนี้ทั้งนั้นการทำงานอย่างมีความสุข สนุกกับงาน เพื่อนร่วมงานนั้นมีบทบาทสำคัญ นั่นหมายความว่าคุณจะมองข้ามการผูกใจเพื่อนร่วมงานไม่ได้เด็ดขาด หากสามารถทำให้แต่ละคนทำงานเข้าขากับเราแล้วล่ะก็ เส้นชัยแค่เอื้อมเท่านั้น
Automatic gear
ได้สอบถามวิศวกรยานยนต์แล้ว ทุกคนยืนยันว่าไม่ควรเปลี่ยนเกียร์จาก D ไป N ในเวลาที่ติดไฟแดงบ่อย ๆ จะช่วยยืดอายุการใช้งานของเกียร์อัตโนมัตินานขึ้น ณรงค์ฤทธิ์
-----
คนที่บอกให้คุณไม่ควรเปลี่ยนเกียร์จาก D ไป N ในเวลาที่ติดไฟแดงบ่อย ๆ ก็คือคนที่เขามีความรู้ และทราบพื้นฐานการทำงานของเกียร์ว่ามันเริ่มต้นทำงานอย่างไรส่วนคนที่บอกว่าปลดเลยเปลี่ยนเป็น N ทุกๆ ไฟแดงนั่นคือคนที่ไม่เคยศึกษาว่าพื้นฐานจริง ๆ ของเกียร์นั้น มันทำงานอย่างไรแต่จะตอบโดยอาศัยประสบการณ์ที่ใช้บนท้องถนนที่ว่า "มันก็ยังไม่เห็นพัง" หรือ "ก็ยังใช้ได้อยู่เลยนี่นา" พูดง่ายๆ เขายังไม่เคยใช้เกียร์จนถึงอายุขัยหรือจนเกียร์เกิดอาการ "คลัทช์ลื่น" ใส่ D แล้วกดคันเร่งแล้วรอบเครื่องขึ้นเอา ขึ้นเอาแต่รถไหลไปได้หน่อยเดียว ก็เลยไม่ทราบว่าอายุการใช้งานของเกียร์สามารถรักษาไว้ให้นานได้อย่างไร
ถ้าหากได้มีโอกาสอ่านหนังสือหรือตำรับตำราที่เกี่ยวกับพื้นฐานของเกียร์ออโตเมติก โดยไม่ได้ฟังใครมาปลุกล้างสมอง คุณจะทราบว่าระบบเกียร์ออโตเมติกนั้น ประกอบด้วยชุดเกียร์ที่ขบกัดกันตลอดเวลา ไม่ได้แยกตัวออกจากกันแบบเกียร์แมนนวล การส่งแรงจะต้องล็อคชุดเฟือง 1ชุดให้หยุดอยู่กับที่ แต่ให้เฟืองอีก 2 ชุด ขบส่งกัน การส่งแรงจากตำแหน่งเกียร์ว่าง ไปยังเกียร์1จะอาศัยการจับของชุด Band brake ส่วนการเปลี่ยนเกียร์จากเกียร์ 1 ---- เกียร์อื่น ๆ จะอาศัยการทำงานของ multiple disc clutch Band Brake มีการสึกหรอในทุกๆ ครั้งที่มีการจับให้ชุดเฟืองหยุดอยู่กับที่ (เพื่อเริ่มส่งแรงจากชุด torque converter ไปยังชุดเฟือง) ถ้าหากมันจับอยู่ตลอดเวลา ก็จะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าหากมัน ต้องปล่อย ๆ จับ ๆ อายุการใช้งานมันก็จะสั้นลง ในขณะที่การเหยียบเบรคอยู่เฉย ๆ ไม่มีอะไรต้องสูญเสียมากไปกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ระบบเบรคก็ไม่ได้ร้อนขึ้นเพราะว่าจานดิสเบรค หรือดุมเบรคไม่ได้หมุน ผ้าเบรคก็ไม่สึกหรอเพราะว่าล้อไม่หมุน แรงที่ใช้ในการเหยียบก็ไม่มากขนาดจะทำให้ชุดแม่ปั๊มเบรคพังหรืออายุการใช้งานลดลง
การเปลี่ยนจาก D -- N---D -- N ---D -- N ---D -- N---D-- N ---D บ่อยๆ นั้น อาจจะไม่เห็นว่าชุดเกียร์มันจะพังในวันนี้ ซึ่งมันก็เหมือนกับการสูบบุหรี่ คนที่สูบบุหรี่จัดๆ ในวันนี้ ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องตายในวันนี้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าอายุมันจะสั้นลง จะตายอย่างน่าเวทนา ฉันใดก็ฉันนั้น เกียร์ออโตก็คล้ายๆ กันครับ ยกเว้นว่าไม่ใช่รถของคุณเองเป็นรถของบริษัท หรือว่าใช้รถไม่ เคยเกิน 2 ปี แล้วขาย อันนี้แล้วแต่สะดวกนะ
-----
คนที่บอกให้คุณไม่ควรเปลี่ยนเกียร์จาก D ไป N ในเวลาที่ติดไฟแดงบ่อย ๆ ก็คือคนที่เขามีความรู้ และทราบพื้นฐานการทำงานของเกียร์ว่ามันเริ่มต้นทำงานอย่างไรส่วนคนที่บอกว่าปลดเลยเปลี่ยนเป็น N ทุกๆ ไฟแดงนั่นคือคนที่ไม่เคยศึกษาว่าพื้นฐานจริง ๆ ของเกียร์นั้น มันทำงานอย่างไรแต่จะตอบโดยอาศัยประสบการณ์ที่ใช้บนท้องถนนที่ว่า "มันก็ยังไม่เห็นพัง" หรือ "ก็ยังใช้ได้อยู่เลยนี่นา" พูดง่ายๆ เขายังไม่เคยใช้เกียร์จนถึงอายุขัยหรือจนเกียร์เกิดอาการ "คลัทช์ลื่น" ใส่ D แล้วกดคันเร่งแล้วรอบเครื่องขึ้นเอา ขึ้นเอาแต่รถไหลไปได้หน่อยเดียว ก็เลยไม่ทราบว่าอายุการใช้งานของเกียร์สามารถรักษาไว้ให้นานได้อย่างไร
ถ้าหากได้มีโอกาสอ่านหนังสือหรือตำรับตำราที่เกี่ยวกับพื้นฐานของเกียร์ออโตเมติก โดยไม่ได้ฟังใครมาปลุกล้างสมอง คุณจะทราบว่าระบบเกียร์ออโตเมติกนั้น ประกอบด้วยชุดเกียร์ที่ขบกัดกันตลอดเวลา ไม่ได้แยกตัวออกจากกันแบบเกียร์แมนนวล การส่งแรงจะต้องล็อคชุดเฟือง 1ชุดให้หยุดอยู่กับที่ แต่ให้เฟืองอีก 2 ชุด ขบส่งกัน การส่งแรงจากตำแหน่งเกียร์ว่าง ไปยังเกียร์1จะอาศัยการจับของชุด Band brake ส่วนการเปลี่ยนเกียร์จากเกียร์ 1 ---- เกียร์อื่น ๆ จะอาศัยการทำงานของ multiple disc clutch Band Brake มีการสึกหรอในทุกๆ ครั้งที่มีการจับให้ชุดเฟืองหยุดอยู่กับที่ (เพื่อเริ่มส่งแรงจากชุด torque converter ไปยังชุดเฟือง) ถ้าหากมันจับอยู่ตลอดเวลา ก็จะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าหากมัน ต้องปล่อย ๆ จับ ๆ อายุการใช้งานมันก็จะสั้นลง ในขณะที่การเหยียบเบรคอยู่เฉย ๆ ไม่มีอะไรต้องสูญเสียมากไปกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ระบบเบรคก็ไม่ได้ร้อนขึ้นเพราะว่าจานดิสเบรค หรือดุมเบรคไม่ได้หมุน ผ้าเบรคก็ไม่สึกหรอเพราะว่าล้อไม่หมุน แรงที่ใช้ในการเหยียบก็ไม่มากขนาดจะทำให้ชุดแม่ปั๊มเบรคพังหรืออายุการใช้งานลดลง
การเปลี่ยนจาก D -- N---D -- N ---D -- N ---D -- N---D-- N ---D บ่อยๆ นั้น อาจจะไม่เห็นว่าชุดเกียร์มันจะพังในวันนี้ ซึ่งมันก็เหมือนกับการสูบบุหรี่ คนที่สูบบุหรี่จัดๆ ในวันนี้ ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องตายในวันนี้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าอายุมันจะสั้นลง จะตายอย่างน่าเวทนา ฉันใดก็ฉันนั้น เกียร์ออโตก็คล้ายๆ กันครับ ยกเว้นว่าไม่ใช่รถของคุณเองเป็นรถของบริษัท หรือว่าใช้รถไม่ เคยเกิน 2 ปี แล้วขาย อันนี้แล้วแต่สะดวกนะ
แก้ปัญหาเครื่องคอมพิวเตอร์ช้า
23 วิธีเร่งสปีด Windows XP
1. ลดเวลาการ boot เครื่อง และเพิ่มประสิทธิภาพ โดยอย่าเอาเงินไปละลายกับ software ที่ช่วย defrag เนื่องจาก defrag ของ windows นั้นใช้งานได้ดีอยู่แล้ว เอาเงินไปซื้อ HD Ultra-133 หรือ SATA ที่มี cache 8 MB จะดีกว่า
2. ถ้า RAM น้อยกว่า 512 ก็ซื้อมาเพิ่มซะ นี่เป็นวิธีที่ไม่แพงและสามารถ upgrade ได้ง่าย ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องได้อย่างชัดเจน
3. ใช้ file system แบบ NTFS : หากคุณไม่รู้ว่ามันเป็น NTFS อยู่แล้วรึยัง ให้ double clcik ที่ my computer icon, คลิกขวาที่ drive C เลือก properties แล้วดูตรง File System type ถ้ามันเป็น FAT 32 อยู่ ก็ back-up ข้อมูลซะ จากนั้นเลือก Start Menu -> Run พิมพ์ cmd แล้วคลิก OK พอมีหน้าต่าง prompt ขึ้นมา ให้พิมพ์ convert c: /fs:ntfs แล้วกด enter โดยขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาสักหน่อย ต้องแน่ใจด้วยว่าไม่มีอะไรรบกวน com คุณระหว่างที่มันทำงานอยู่ และเครื่องคุณต้องไม่ติดไวรัส File System ของ drive ที่คุณใช้ boot นั้น อาจเป็น FAT32 หรือ NTFS ก็ได้ แต่เราแนะนำให้ใช้ NTFS เพื่อประโยชน์ในเรื่องของความปลอดภัย, ความน่าเชื่อถือ และการใช้งาน hd ใหญ่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. Disable file indexing ซะ เจ้า indexing service นี้จะดึงข้อมูลจากเอกสารและไฟล์บน hard drive ของคุณเอามาสร้างเป็นดรรชนีสำหรับค้นหา ซึ่งการทำเช่นนี้มันอาจจะทำให้เครื่องคุณทำงานหนักขึ้น แนวคิดของมันคือ ผู้ใช้งานสามารถค้นหาคำ, วลี, หรือคุณสมบัติภายในเอกสารใดๆ ได้ ในกรณีที่เขามีไฟล์เอกสารเป็นร้อยหรือเป็นพัน และไม่รู้ชื่อเอกสารที่เขาต้องการค้นหา แต่โปรแกรม search ที่ติดมากับ Windows XP นั้นก็สามารถทำแบบนี้ได้อยู่แล้วโดยไม่ต้องใช้ indexing service แค่มันจะใช้เวลานานกว่าเท่านั้น เนื่องจาก OS ต้องเปิดไฟล์ขึ้นมาทีละไฟล์เพื่อค้นหาสิ่งที่ user ต้องการ คนส่วนใหญ่ไม่เคยต้องการ feature search แบบนี้หรอก คนที่ต้องการจะเป็นพวกที่อยู่ในองค์กรใหญ่ที่มีเอกสารเป็นพันๆ ซึ่งอยุ่บน server อย่างน้อย 1 ตัว แต่หากคุณเป็นพวกวางระบบธรรมดาๆ แล้ว ลูกค้าของคุณมักจะเป็นธุรกิจขนาดกลางหรือเล็กเสียมากกว่า และถ้าลูกค้าของคุณไม่ได้ต้องการ feature แบบนี้ เราแนะนำให้คุณ disable มันซะจะดีกว่า วิธีทำ: double click My Computer -> คลิกขวาที่ drive C -> เลือก properties แล้วยกเลิก "Allow Indexing Service to index this disk for fast file searching." ซะ -> Apply change ให้กับ "C: subfolders and files," -> OK และถ้ามี error message เช่น "Access is denied" ปรากฏขึ้นมา ก็ให้เลือก Ignore All ซะ
5. Update driver ให้กับ VGA และ Chipset ของ Mainboard และ config ค่าต่างๆ ใน BIOS ใหม่ โดยวิธี config BIOS อย่างถูกต้องนั้น หาอ่านได้จากบทความใน site ของผมเองครับ (..เจ้าของกระทู้เอามาจากเว็บไหนครับ?)
6. สั่ง Empty Windows Prefetch folder ทุกๆ 3 เดือน Windows XP สามารถคะเนได้ว่า data ส่วนไหนที่มันใช้บ่อยๆ มันจะดึงมาเก็บเตรียมไว้ใน prefetch folder ทำให้ process หลายๆ ตัวดูเหมือนจะทำงานได้เร็วขึ้น ซึ่งเป็น feature ที่ดี แต่พอนานๆ เข้า เจ้า prefetch folder นี้จะมีข้อมูลมากเกินไป โดยที่บางส่วนไม่จำเป็นต้องใช้งานอีกต่อไป ซึ่งจะทำให้ Windows เสียเวลาดึงมันขึ้นมาทำงานมากเกินความจำเป็นและทำให้ประสิทธิภาพต่ำลง ไม่มีข้อมูลสำคัญเก็บอยู่ใน folder นี้ ดังนั้นคุณสามารถลบ file ใน folder นี้ได้ทั้งหมด
7. ใช้ disk cleanup ทุกเดือน โดย double click ที่ My Computer -> คลิกขวาที่ drive C -> เลือก properties -> กดปุ่ม Disk Cleanup ที่อยู่ทางขวาของกราฟวงกลม และเลือกลบ temporary file ทั้งหมด
8. ที่ Device Manger -> double click ที่อุปกรณ์ IDE ATA/ATAPI Controllers และดูว่ามีการใช้งาน DMA กับทุก drive ที่ติดต่ออยู่กับ Primary และ Secondary Controller หรือไม่ โดยการ double click ที่ Primary IDE Channel -> เลือก tab Advanced Settings และตรวจสอบว่า Transfer Mode ถูก set เป็น "DMA if Available" ทั้ง Device 0 และ Device 1 หรือไม่ และทำอย่างเดียวกันกับ Secondary IDE Channel
9. เปลี่ยนสาย cable เทคโนโลยีของ hard disk พัฒนาขึ้น ทำให้จำเป็นต้องใช้สาย cable ที่จะดึงประสิทธิภาพมันออกมาได้ ตรวจสอบว่าคุณใช้ cable แบบ Ultra-133 (80 สาย) กับอุปกรณ์ IDE ทุกตัว ถ้าสายนั้นต่อกับอุปกรณ์ชิ้นเดียว อุปกรณ์นั้นต้องต่ออยู่กับ connector ที่ปลายสาย หากต่อกับ connector ตรงกลางสาย จะทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับสัญญาณ ซึ่งสำหรับ hard disk แบบ Ultra DMA แล้ว ปัญหาเกี่ยวกับสัญญาณนี้จะมีผลให้ drive ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งสายเหล่านี้ support feature "Cable Select" ตำแหน่งของอุปกรณ์บน cable จึงมีความสำคัญ (ใครแปลได้เข้าใจกว่านี้ไหมครับ)
10. กำจัด spyware ออกให้หมด โดยใช้ freeware เช่น AdAware ของ LavaSoft หรือ SpyBot Search & Destroy โดยเมื่อคุณ install โปรแกรมพวกนี้แล้ว ให้ download update ล่าสุดของมันลงมาที่เครื่องคุณ ก่อนที่จะเริ่ม scan และสิ่งใดที่โปรแกรมหาพบนั้น สามารถลบออกได้อย่างปลอดภัยทั้งสิ้น แต่ freeware ที่ require ว่า spyware เหล่านี้จะต้องมีอยู่จะไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไปหากส่วนหนึ่งส่วนใดของ spyware ถูกลบออกไป แต่ถ้าลูกค้าของคุณต้องการใช้โปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่งจริงๆ โดยไม่สนใจว่ามันจะมี spyware ติดมาด้วยหรือไม่ คุณก็คงต้องลงโปรแกรมนั้นให้เขาใหม่ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลบ spyware ให้ดูที่หน้า Web Pro News (เว็บไหนล่ะเนี่ย)
11. เอาโปรแกรมที่ไม่จำเป็นออกจาก Startup ด้วย MSCONFIG โดยเลือก Start -> Run -> พิมพ์ msconfig -> คลิก ok -> เลือก tab StartUp และคลิกเลือก item ที่คุณไม่ต้องการให้ load ตอน startup ออกเสีย หากคุณไม่แน่ใจว่าแต่ละตัวมันคืออะไร ให้เข้าไปดูที่ WinTasks Process Library (มี link รึเปล่าครับ ตัวนี้?) มันจะมีข้อมูลเกี่ยวกับ system process และโปรแกรมที่พบกันบ่อยๆ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับ spyware และคำอธิบาย หรืออาจจะหาข้อมูลของมันอย่างรวดเร็วโดย search ชื่อไฟล์นั้นๆ ใน search engine อย่าง google เลย
12. เอาโปรแกรมที่ไม่จำเป็นออก ด้วย Add/Remove Programs ใน Control Panel
13. ยกเลิกการใช้งาน Active Desktop และ animation ทุกชนิดเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด โดย double click icon System ใน control panel -> เลือก tab Advanced -> กดปุ่ม settings ในส่วนของ Performance โดยคุณสามารถทดลองปรับอะไรเล่นๆ ที่นี่ได้ทั้งหมดเนื่องจากมันไม่มีผลกระทบกับเสถียภาพของเครื่องคุณ ยกเว้นเรื่องความไวของการตอบสนอง
14. ถ้าคุณเป็นพวก advanced user ที่ไม่กลัวการแก้ไข registry ให้ลองใช้งานโปรแกรม Tweak XP ในส่วนของ performance registry tweak
15. แวะไปที่ Windows Update ของ MS บ้าง และ download update ที่ระบุว่า "Critical" มาลงที่เครื่อง ส่วน update อื่นๆ นั้นก็ตามแต่คุณเห็นสมควร
16. update Anti-Virus ทุกสัปดาห์หรือทุกวัน โดยลงโปรแกรม anti-virus แค่ตัวเดียวเท่านั้น การลง anti-virus หลายตัวมีผลอย่างรุนแรงกับประสิทธิภาพและเสถียรภาพของเครื่องคุณ
17. ตรวจสอบว่ามี font น้อยกว่า 500 ตัวบนเครื่องคุณ ยิ่งคุณลง font เยอะ windows คุณก็ยิ่งช้า แม้ว่า Xp จะจัดการ font ได้ดีกว่า OS version ก่อนๆ แต่ font ที่มีจำนวนมากกว่า 500 จะทำให้ประสิทธิภาพเครื่องคุณลดลงอย่างชัดเจน
18. อย่าแบ่ง partiton เพราะว่า NTFS ของ Windows XP ทำงานได้ดีกว่าบน partition ขนาดใหญ่เพียง partition เดียว การแบ่ง partition ไม่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูลของคุณ และการ format ใหม่ก็ไม่จำเป็นเสมอไปหากคุณต้องการ reinstall OS การแบ่ง partition สามารถทดแทนได้ด้วยการใช้ folder เช่น แทนที่คุณจะเก็บ data ไว้ใน drive D คุณก็สร้าง folder 'D drive" ขึ้นมาแทน ซึ่งมันได้ประโยชน์เช่นเดียวกับการแบ่ง partition แต่มีข้อดีกว่าคือไม่ทำให้ประสิทธิภาพของระบบลดลง และทำให้พื้นที่ว่างไม่ถูกจำกัดด้วยขนาดของ partition อีกต่อไป (แต่ถูกจำกัดด้วยขนาดของ hard disk ของคุณแทน) หมายความว่า คุณไม่จำเป็นต้อง resize partition อีกต่อไป ซึ่งเป็นการเสียเวลาและเสี่ยงกับข้อมูลหายด้วย
19. ตรวจสอบ RAM ว่าทำงานอย่างถูกต้อง เราแนะนำให้ใช้โปรแกรม MemTest86 โดยหลังจาก d/l มาแล้ว มันจะสร้างแผ่น CD หรือ diskette ที่ boot ได้ (แล้วแต่คุณจะเลือก) ที่จะทำการทดสอบ 10 อย่างโดยอัตโนมัติหลังจากที่คุณใช้มัน boot เครื่อง ให้ run มันอย่างน้อยสามครั้ง (ครั้งละ 10 test) ถ้าโปรแกรมพบ error ให้คุณปิดเครื่อง, ถอดปลั๊ก, ถอด RAM ออกแผงหนึ่ง (ถ้าคุณมีมากกว่าแผงเดียว) แล้วทำการ run ใหม่อีกครั้ง จำไว้ว่า RAM เสียนั้นซ่อมไม่ได้ ต้องเปลี่ยนใหม่เท่านั้น
20. ถ้าเครื่องคุณมี CD หรือ DVD writer ให้เช็ค web ของผู้ผลิตว่ามี firmware ให้ update หรือไม่ บางทีคุณอาจจะสามารถ upgrade writer ของคุณให้ทำงานเร็วขึ้นได้ และที่เยี่ยมที่สุดคือ วิธีนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ
21. ยกเลิกการใช้งาน service ที่ไม่จำเป็น Windows XP จะ load service ขึ้นมาทำงานเป็นจำนวนมาก โดยหลายๆ ตัวนั้นคุณไม่มีความจำเป็นต้องใช้ ให้ตรวจสอบว่า service ใดที่คุณสามารถ disable ได้จาก Black Viper site for Windows XP configurations (ไม่มี link อีกแล้วอ่ะ)
22. ถ้าคุณเจอปัญหา Windows Explorer ตัวหนึ่ง hang และทำให้ระบบคุณพลอยพังไปด้วย ให้ใช้วิธีนี้ เปิด My Computer -> เลือก menu Tools -> Folder Options -> เลือก tab View -> เลื่อนลงมาด้านล่างจนพบ "Launch folder windows in a separate process" ให้ enable option ตัวนี้ซะ แล้ว reboot
23. เปิด case ของคุณออกอย่างน้อยปีละครั้ง แล้วเป่าเอาฝุ่นออก รวมถึงตรวจสอบว่าพัดลมทุกตัวยังทำงานเป็นปกติ และสังเกตดูที่ตัว capacitor แต่ละตัวบน mainboard ด้วยว่ามีอาการบวมหรือรั่ว
1. ลดเวลาการ boot เครื่อง และเพิ่มประสิทธิภาพ โดยอย่าเอาเงินไปละลายกับ software ที่ช่วย defrag เนื่องจาก defrag ของ windows นั้นใช้งานได้ดีอยู่แล้ว เอาเงินไปซื้อ HD Ultra-133 หรือ SATA ที่มี cache 8 MB จะดีกว่า
2. ถ้า RAM น้อยกว่า 512 ก็ซื้อมาเพิ่มซะ นี่เป็นวิธีที่ไม่แพงและสามารถ upgrade ได้ง่าย ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องได้อย่างชัดเจน
3. ใช้ file system แบบ NTFS : หากคุณไม่รู้ว่ามันเป็น NTFS อยู่แล้วรึยัง ให้ double clcik ที่ my computer icon, คลิกขวาที่ drive C เลือก properties แล้วดูตรง File System type ถ้ามันเป็น FAT 32 อยู่ ก็ back-up ข้อมูลซะ จากนั้นเลือก Start Menu -> Run พิมพ์ cmd แล้วคลิก OK พอมีหน้าต่าง prompt ขึ้นมา ให้พิมพ์ convert c: /fs:ntfs แล้วกด enter โดยขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาสักหน่อย ต้องแน่ใจด้วยว่าไม่มีอะไรรบกวน com คุณระหว่างที่มันทำงานอยู่ และเครื่องคุณต้องไม่ติดไวรัส File System ของ drive ที่คุณใช้ boot นั้น อาจเป็น FAT32 หรือ NTFS ก็ได้ แต่เราแนะนำให้ใช้ NTFS เพื่อประโยชน์ในเรื่องของความปลอดภัย, ความน่าเชื่อถือ และการใช้งาน hd ใหญ่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. Disable file indexing ซะ เจ้า indexing service นี้จะดึงข้อมูลจากเอกสารและไฟล์บน hard drive ของคุณเอามาสร้างเป็นดรรชนีสำหรับค้นหา ซึ่งการทำเช่นนี้มันอาจจะทำให้เครื่องคุณทำงานหนักขึ้น แนวคิดของมันคือ ผู้ใช้งานสามารถค้นหาคำ, วลี, หรือคุณสมบัติภายในเอกสารใดๆ ได้ ในกรณีที่เขามีไฟล์เอกสารเป็นร้อยหรือเป็นพัน และไม่รู้ชื่อเอกสารที่เขาต้องการค้นหา แต่โปรแกรม search ที่ติดมากับ Windows XP นั้นก็สามารถทำแบบนี้ได้อยู่แล้วโดยไม่ต้องใช้ indexing service แค่มันจะใช้เวลานานกว่าเท่านั้น เนื่องจาก OS ต้องเปิดไฟล์ขึ้นมาทีละไฟล์เพื่อค้นหาสิ่งที่ user ต้องการ คนส่วนใหญ่ไม่เคยต้องการ feature search แบบนี้หรอก คนที่ต้องการจะเป็นพวกที่อยู่ในองค์กรใหญ่ที่มีเอกสารเป็นพันๆ ซึ่งอยุ่บน server อย่างน้อย 1 ตัว แต่หากคุณเป็นพวกวางระบบธรรมดาๆ แล้ว ลูกค้าของคุณมักจะเป็นธุรกิจขนาดกลางหรือเล็กเสียมากกว่า และถ้าลูกค้าของคุณไม่ได้ต้องการ feature แบบนี้ เราแนะนำให้คุณ disable มันซะจะดีกว่า วิธีทำ: double click My Computer -> คลิกขวาที่ drive C -> เลือก properties แล้วยกเลิก "Allow Indexing Service to index this disk for fast file searching." ซะ -> Apply change ให้กับ "C: subfolders and files," -> OK และถ้ามี error message เช่น "Access is denied" ปรากฏขึ้นมา ก็ให้เลือก Ignore All ซะ
5. Update driver ให้กับ VGA และ Chipset ของ Mainboard และ config ค่าต่างๆ ใน BIOS ใหม่ โดยวิธี config BIOS อย่างถูกต้องนั้น หาอ่านได้จากบทความใน site ของผมเองครับ (..เจ้าของกระทู้เอามาจากเว็บไหนครับ?)
6. สั่ง Empty Windows Prefetch folder ทุกๆ 3 เดือน Windows XP สามารถคะเนได้ว่า data ส่วนไหนที่มันใช้บ่อยๆ มันจะดึงมาเก็บเตรียมไว้ใน prefetch folder ทำให้ process หลายๆ ตัวดูเหมือนจะทำงานได้เร็วขึ้น ซึ่งเป็น feature ที่ดี แต่พอนานๆ เข้า เจ้า prefetch folder นี้จะมีข้อมูลมากเกินไป โดยที่บางส่วนไม่จำเป็นต้องใช้งานอีกต่อไป ซึ่งจะทำให้ Windows เสียเวลาดึงมันขึ้นมาทำงานมากเกินความจำเป็นและทำให้ประสิทธิภาพต่ำลง ไม่มีข้อมูลสำคัญเก็บอยู่ใน folder นี้ ดังนั้นคุณสามารถลบ file ใน folder นี้ได้ทั้งหมด
7. ใช้ disk cleanup ทุกเดือน โดย double click ที่ My Computer -> คลิกขวาที่ drive C -> เลือก properties -> กดปุ่ม Disk Cleanup ที่อยู่ทางขวาของกราฟวงกลม และเลือกลบ temporary file ทั้งหมด
8. ที่ Device Manger -> double click ที่อุปกรณ์ IDE ATA/ATAPI Controllers และดูว่ามีการใช้งาน DMA กับทุก drive ที่ติดต่ออยู่กับ Primary และ Secondary Controller หรือไม่ โดยการ double click ที่ Primary IDE Channel -> เลือก tab Advanced Settings และตรวจสอบว่า Transfer Mode ถูก set เป็น "DMA if Available" ทั้ง Device 0 และ Device 1 หรือไม่ และทำอย่างเดียวกันกับ Secondary IDE Channel
9. เปลี่ยนสาย cable เทคโนโลยีของ hard disk พัฒนาขึ้น ทำให้จำเป็นต้องใช้สาย cable ที่จะดึงประสิทธิภาพมันออกมาได้ ตรวจสอบว่าคุณใช้ cable แบบ Ultra-133 (80 สาย) กับอุปกรณ์ IDE ทุกตัว ถ้าสายนั้นต่อกับอุปกรณ์ชิ้นเดียว อุปกรณ์นั้นต้องต่ออยู่กับ connector ที่ปลายสาย หากต่อกับ connector ตรงกลางสาย จะทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับสัญญาณ ซึ่งสำหรับ hard disk แบบ Ultra DMA แล้ว ปัญหาเกี่ยวกับสัญญาณนี้จะมีผลให้ drive ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งสายเหล่านี้ support feature "Cable Select" ตำแหน่งของอุปกรณ์บน cable จึงมีความสำคัญ (ใครแปลได้เข้าใจกว่านี้ไหมครับ)
10. กำจัด spyware ออกให้หมด โดยใช้ freeware เช่น AdAware ของ LavaSoft หรือ SpyBot Search & Destroy โดยเมื่อคุณ install โปรแกรมพวกนี้แล้ว ให้ download update ล่าสุดของมันลงมาที่เครื่องคุณ ก่อนที่จะเริ่ม scan และสิ่งใดที่โปรแกรมหาพบนั้น สามารถลบออกได้อย่างปลอดภัยทั้งสิ้น แต่ freeware ที่ require ว่า spyware เหล่านี้จะต้องมีอยู่จะไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไปหากส่วนหนึ่งส่วนใดของ spyware ถูกลบออกไป แต่ถ้าลูกค้าของคุณต้องการใช้โปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่งจริงๆ โดยไม่สนใจว่ามันจะมี spyware ติดมาด้วยหรือไม่ คุณก็คงต้องลงโปรแกรมนั้นให้เขาใหม่ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลบ spyware ให้ดูที่หน้า Web Pro News (เว็บไหนล่ะเนี่ย)
11. เอาโปรแกรมที่ไม่จำเป็นออกจาก Startup ด้วย MSCONFIG โดยเลือก Start -> Run -> พิมพ์ msconfig -> คลิก ok -> เลือก tab StartUp และคลิกเลือก item ที่คุณไม่ต้องการให้ load ตอน startup ออกเสีย หากคุณไม่แน่ใจว่าแต่ละตัวมันคืออะไร ให้เข้าไปดูที่ WinTasks Process Library (มี link รึเปล่าครับ ตัวนี้?) มันจะมีข้อมูลเกี่ยวกับ system process และโปรแกรมที่พบกันบ่อยๆ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับ spyware และคำอธิบาย หรืออาจจะหาข้อมูลของมันอย่างรวดเร็วโดย search ชื่อไฟล์นั้นๆ ใน search engine อย่าง google เลย
12. เอาโปรแกรมที่ไม่จำเป็นออก ด้วย Add/Remove Programs ใน Control Panel
13. ยกเลิกการใช้งาน Active Desktop และ animation ทุกชนิดเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด โดย double click icon System ใน control panel -> เลือก tab Advanced -> กดปุ่ม settings ในส่วนของ Performance โดยคุณสามารถทดลองปรับอะไรเล่นๆ ที่นี่ได้ทั้งหมดเนื่องจากมันไม่มีผลกระทบกับเสถียภาพของเครื่องคุณ ยกเว้นเรื่องความไวของการตอบสนอง
14. ถ้าคุณเป็นพวก advanced user ที่ไม่กลัวการแก้ไข registry ให้ลองใช้งานโปรแกรม Tweak XP ในส่วนของ performance registry tweak
15. แวะไปที่ Windows Update ของ MS บ้าง และ download update ที่ระบุว่า "Critical" มาลงที่เครื่อง ส่วน update อื่นๆ นั้นก็ตามแต่คุณเห็นสมควร
16. update Anti-Virus ทุกสัปดาห์หรือทุกวัน โดยลงโปรแกรม anti-virus แค่ตัวเดียวเท่านั้น การลง anti-virus หลายตัวมีผลอย่างรุนแรงกับประสิทธิภาพและเสถียรภาพของเครื่องคุณ
17. ตรวจสอบว่ามี font น้อยกว่า 500 ตัวบนเครื่องคุณ ยิ่งคุณลง font เยอะ windows คุณก็ยิ่งช้า แม้ว่า Xp จะจัดการ font ได้ดีกว่า OS version ก่อนๆ แต่ font ที่มีจำนวนมากกว่า 500 จะทำให้ประสิทธิภาพเครื่องคุณลดลงอย่างชัดเจน
18. อย่าแบ่ง partiton เพราะว่า NTFS ของ Windows XP ทำงานได้ดีกว่าบน partition ขนาดใหญ่เพียง partition เดียว การแบ่ง partition ไม่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูลของคุณ และการ format ใหม่ก็ไม่จำเป็นเสมอไปหากคุณต้องการ reinstall OS การแบ่ง partition สามารถทดแทนได้ด้วยการใช้ folder เช่น แทนที่คุณจะเก็บ data ไว้ใน drive D คุณก็สร้าง folder 'D drive" ขึ้นมาแทน ซึ่งมันได้ประโยชน์เช่นเดียวกับการแบ่ง partition แต่มีข้อดีกว่าคือไม่ทำให้ประสิทธิภาพของระบบลดลง และทำให้พื้นที่ว่างไม่ถูกจำกัดด้วยขนาดของ partition อีกต่อไป (แต่ถูกจำกัดด้วยขนาดของ hard disk ของคุณแทน) หมายความว่า คุณไม่จำเป็นต้อง resize partition อีกต่อไป ซึ่งเป็นการเสียเวลาและเสี่ยงกับข้อมูลหายด้วย
19. ตรวจสอบ RAM ว่าทำงานอย่างถูกต้อง เราแนะนำให้ใช้โปรแกรม MemTest86 โดยหลังจาก d/l มาแล้ว มันจะสร้างแผ่น CD หรือ diskette ที่ boot ได้ (แล้วแต่คุณจะเลือก) ที่จะทำการทดสอบ 10 อย่างโดยอัตโนมัติหลังจากที่คุณใช้มัน boot เครื่อง ให้ run มันอย่างน้อยสามครั้ง (ครั้งละ 10 test) ถ้าโปรแกรมพบ error ให้คุณปิดเครื่อง, ถอดปลั๊ก, ถอด RAM ออกแผงหนึ่ง (ถ้าคุณมีมากกว่าแผงเดียว) แล้วทำการ run ใหม่อีกครั้ง จำไว้ว่า RAM เสียนั้นซ่อมไม่ได้ ต้องเปลี่ยนใหม่เท่านั้น
20. ถ้าเครื่องคุณมี CD หรือ DVD writer ให้เช็ค web ของผู้ผลิตว่ามี firmware ให้ update หรือไม่ บางทีคุณอาจจะสามารถ upgrade writer ของคุณให้ทำงานเร็วขึ้นได้ และที่เยี่ยมที่สุดคือ วิธีนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ
21. ยกเลิกการใช้งาน service ที่ไม่จำเป็น Windows XP จะ load service ขึ้นมาทำงานเป็นจำนวนมาก โดยหลายๆ ตัวนั้นคุณไม่มีความจำเป็นต้องใช้ ให้ตรวจสอบว่า service ใดที่คุณสามารถ disable ได้จาก Black Viper site for Windows XP configurations (ไม่มี link อีกแล้วอ่ะ)
22. ถ้าคุณเจอปัญหา Windows Explorer ตัวหนึ่ง hang และทำให้ระบบคุณพลอยพังไปด้วย ให้ใช้วิธีนี้ เปิด My Computer -> เลือก menu Tools -> Folder Options -> เลือก tab View -> เลื่อนลงมาด้านล่างจนพบ "Launch folder windows in a separate process" ให้ enable option ตัวนี้ซะ แล้ว reboot
23. เปิด case ของคุณออกอย่างน้อยปีละครั้ง แล้วเป่าเอาฝุ่นออก รวมถึงตรวจสอบว่าพัดลมทุกตัวยังทำงานเป็นปกติ และสังเกตดูที่ตัว capacitor แต่ละตัวบน mainboard ด้วยว่ามีอาการบวมหรือรั่ว
สูตรไข่เจียว
สูตรไข่เจียวต้มยำ
ส่วนผสม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ตะไคร้ซอยแว่นบาง 1 ต้น
- พริกขี้หนูซอยหรือสับหยาบๆ 3-5 เม็ด
- น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำพริกเผา(ไม่เอาน้ำมัน) 1 ช้อนชา
- ใบมะกรูดหั่นฝอย 2 ใบ
- กุ้งสดสับหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ(ไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำ
1. ตอกไข่ใส่ชามปรุงรสด้วยน้ำปลา มะนาวและเครื่องปรุงทั้งหมด ตีให้ขึ้นฟู
2. ทอดไข่ในกระทะน้ำมันร้อนจนสุกเหลือง
3. ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ หมายเหตุ ถ้าเติมกุ้งหั่นลูกเต๋าลงไปด้วยก็จะได้ไข่เจียวต้มยำกุ้งที่อร่อยครบเครื่อง
ไข่เจียวอิตาเลี่ยน
เครื่องปรุง
- มันฝรั่งหั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ 250-300 กรัม
- หอมหัวใหญ่ 1 หัว
- เกลือ พอประมาณ
- น้ำมันพืช 1/4 ถ้วยตวง
- พริกไทยป่นสด พอประมาณ
- พริกหวานแดงหั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ 1 ถ้วยตวง
- ไข่ไก่ 6 ฟอง
- เนยจืด 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชูทำจากไวน์แดง 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1 ต้มมันฝรั่งให้สุกแต่ยังไม่เละ พักไว้
2 ปอกหอมหัวใหญ่แล้วหั่นเป็นแว่นบาง ๆ
3 นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันลงไป เมื่อร้อนนำมันฝรั่งลงไปทอดให้เหลือง แล้วตักออกวางไป บนกระดาษ ซับน้ำมัน
4 ในกระทะเดียวกันผัดหอมหัวใหญ่ และพริกแดงจนกระทั่งเหลือง ตักออกใส่กระดาษซับน้ำมัน
5 เทน้ำมันจากกระทะที่ทอดมันและหัวหอมให้หมด เช็ดด้วยกระดาษซับน้ำมันแล้ว นำเนยใส่ลงไป ตั้ง ไฟให้ละลายและร้อน เมื่อร้อนตี ไข่ 6 ฟองใส่เกลือ และพริกไทยป่นสดลงไปในชามผสม นำมันและหอม ทอดลงไปผัดในกระทะ เร่งไฟแล้วเทไข่ที่ตีไว้ลงไป คนด้วยส้อมจนกระทั่งไข่เป็นไข่เจียว ปิดฝากระทะ ให้สนิท ทอดไฟปานกลาง 2 นาที เปิดฝาไข่จะยังนุ่มอยู่ และเละ ๆ ตรงกลาง
6 โรยน้ำส้มที่ทำด้วยไวน์แดงลงไปบนไข่ แล้วกลับไข่ทอดต่อ 1/2 นาทีเพื่อให้เหลือง แล้วนำจานมาปิด กระทะ คว่ำกระทะเพื่อให้ไข่ออกมาข้างหน้าในจาน เสิร์ฟร้อน ๆ หรือเย็นก็ได้
ไข่เจียวฝรั่งใส่เห็ดนางฟ้าและ Cheese
เครื่องปรุง
- เห็ดนางรมย์ 1 ขีด
- เนย Clarify 1/2 ถ้วยตวง
- หอมแดงสับ 1 ช้อนชา
- เนยแข็งขูด Cheddar 30 กรัม
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- นม 3-4 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ / พริกไทย พอประมาณ
วิธีทำ
1 นำกระทะตั้งไฟแล้วใส่เนย Clarify 2 ช้อนโต๊ะ
2 เมื่อกระทะร้อนนำเห็ดนางรมย์ลงไปผัดกับหอมสับ ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ก่อนตักออก
3 นำกระทะ Omelette (ไข่เจียวฝรั่ง) ตั้งไฟ แล้วนำเนย Clarify ใส่ลงไปให้ร้อนประมาณ 4-5 ช้อน โต๊ะเมื่อร้อนแล้วจึงนำไข่ไก่ที่ตีให้เข้ากันกับนม หรือครีมลงไปในกระทะ คนให้ข้น แล้วกระจายไข่ให้ทั่ว กระทะ
4 ลดไฟอย่าให้ไข่ไหม้หรือเหลือง ตักเห็ดยัดแล้วโรยด้วย Cheese Cheddar ขูด แล้วจึงค่อย ๆ เคาะ กระทะเพื่อม้วนไข่ให้เป็นห่อกลม ๆ เรียว ๆ ยาว ๆ เสิร์ฟร้อน ๆ เป็นอาหารเช้า
ไข่เจียวเสฉวน
เครื่องปรุง
- ไข่ไก่ 6 ฟอง
- หมูสับ 50 กรัม
- ต้นหอมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำซุปไก่ 1 ถ้วย
- แป้งมัน 1/2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- หน่อไม้กระป๋องสับ 60 กรัม
- เห็ดหูหนูสับ 20 กรัม
- ผักกาดดองสับ 20 กรัม
- เกลือ 1 ช้อนชา
- แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันสำหรับทอด 1/2 ถ้วย
วิธีทำ
1 นำไข่ไก่ 6 ฟองมาตีกับแป้งมัน และเกลือ
2 นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันให้ร้อนไม่ต้องมากนัก (ปานกลาง) เทไข่ลงไปแล้วลดไฟให้อ่อน ทอดไข่ข้าง หนึ่ง 3 นาที เมื่อไข่ฟูเสมอกันกลับไข่ ทอดต่ออีกข้างให้เหลือง เมื่อเหลือและ กรอบนิดหน่อย ตักออกแล้ว นำไปหั่นเป็นชิ้นพอคำ ใส่จานพักไว้
3 นำกระทะอีกใบตั้งไฟใส่น้ำมันลงไปนิดหน่อย เมื่อร้อนนำหมูสับลงไปผัดให้สุก แล้วจึงใส่น้ำซุปลงไป ต้มให้เดือด ใส่หน่อไม้ เห็ดหูหนู และผักกาดดองสับ ปรุงรสด้วยเกลือ และ พริกไทย เมื่อรสชาติเป็นที่พอ ใจแล้วทำให้ซอสข้นด้วยแป้งมันผสมน้ำ นำซอสนี้ไปราดบนไข่เจียว โรยหน้าด้วยหอมสับ เสิร์ฟร้อน ๆ
ไข่ทอดน้ำ หน้ากระเพราไก่
เครื่องปรุง :
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- ขนมปัง โฮลวีทปิ้ง 4 ชิ้น
- น้ำต้มสุก 1/2 ลิตร
- น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วยตวง
- พริกขี้หนู รากผักชี กระเทียม พริกไทย โขลก 1 ช้อนโต๊ะพูน
- เนื้อไก่ติดหนังบด 150 กรัม
- น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา พอประมาณ
- น้ำตาลปี๊บ พอประมาณ
- ใบกระเพราสด 1/2 ถ้วยตวง
- ใบกระเพราทอดกรอบ 1/2 ถ้วยตวง
วิธีทำ :
1. นำพริกขี้หนู รากผักชี กระเทียม พริกไทย ที่โขลกหยาบ ๆ ไว้แล้วลงไปผัดไฟอ่อน ๆ เร่งไฟขึ้นนำเนื้อ ไก่ลงไป ผัดต่อให้สุกใส่ใบกระเพราสดลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
2. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ พักไว้สำหรับราดหน้าไข่ทอดน้ำ
วิธีทำไข่ทอดน้ำ :
1. ต้มน้ำผสมน้ำส้มสายชูให้เดือด
2. ตอกไข่สดลงไปในถ้วย แล้วค่อย ๆ เทลงไปในน้ำที่เดือดอยู่ ไข่ขาวจะรวมตัวเป็นลูกเอง
3. ลดไฟ และต้มต่อไปจนกระทั่งไข่ขาวเริ่มแข็งตัว
4. นำทัพพีที่มีรูตักไข่ขึ้นมา ซับน้ำให้แห้งด้วยกระดาษซับมัน แล้วนำไข่ไปวางบนขนมปังที่ปิ้งและตัด ขอบไว้แล้ว
5. ราดหน้าไข่ด้วยไก่ผัดใบกระเพรา
6. แต่งหน้าไข่ด้วยใบกระเพราทอดกรอบ เสริฟร้อน ๆ รับประทานเป็นอาหารเช้า
ไข่อบผักขมหน้าซอสขาวกับชีส
เครื่องปรุง
- ผักขมสับแช่แข็ง 3 ถ้วยตวง
- เกลือ พอประมาณ
- พริกไทย พอประมาณ
- เนยจืด 2 ช้อนโต๊ะ
- ครีมหรือนมจืด 1/4 ถ้วยตวง
- ไข่ไก่ 4 ฟอง
- นมจืด 1 1/2 ถ้วยตวง
- เนยจืด 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งสาลี 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ พอประมาณ
- พริกไทย พอประมาณ
- ลูกจันทร์ป่น 1 หยิบมือ
- เนยแข็ง Parmesan Cheese 2 ช้อนโต๊ะ
- เกล็ดขนมปัง 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1 ต้มผักขมให้สุกโดยการต้มน้ำให้เดือดใส่เกลือลงไป เมื่อน้ำเดือดใส่ผักขมลงไปต้มจนกระทั่งเดือดอีก ครั้งหนึ่ง แล้วจึงเทน้ำออกกรองเอาแต่เนื้อผักแช่น้ำให้เย็น แล้วบีบเอาน้ำออกให้หมด
2 นำกระทะตั้งไฟนำผักขมลงไปผัดกับเนยให้ร้อน ใส่เกลือ พริกไทย และครีม ผัดให้เข้ากันและลองชิมดู ว่าผักขมควรจะมีความเค็มนิด ๆ และความมันด้วย แต่ไม่แห้งจนเกินไป ถ้าแห้งมากก็ต้องเติมนมหรือ ครีม พักไว้
3 ในถาดอบสำหรับต่อคน มีลักษณะคล้ายเรือ ทาข้างในของถาดอบด้วยเนยแล้วนำผักขมลงไปใส่ที่ก้น ถาดเกลี่ยให้ทั่ว แล้วจึงตอกไข่สดลงไปบนผักขมถาดละ 2 ฟอง
4 นำหม้อหางตั้งไฟ แล้วนำเนยมาละลายเติมแป้งสาลีผัดให้สุกแต่ไม่เหลือง แล้วจึงเทนมลงไปตีส่วนผสม ด้วยไม่ตีไข่ให้แป้งกระจายไปทั่วน้ำนม คนด้วยไม้พายให้เข้ากัน แล้วต้มต่อจนกระทั่งเดือด ต้องคนอยู่ ตลอดเวลามิฉะนั้นนมจะเป็นก้อน
5 เมื่อซอสข้นเดือดเราก็จะได้ซอสขาวเติมเกลือ พริกไทยขาว และลูกจันทร์ป่น ตักซอสนี้ ราดหน้าไข่ใน ถาดให้ทั่วแล้ว โรยหน้าไข่ด้วยชีสและขนมปังป่น
6 นำไปอบในเตาอบที่อุ่นไว้แล้วที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส อบจนกระทั่งถาดร้อน และหน้าของถาด เหลือง อบประมาณ 15 - 20 นาที เสิร์ฟร้อน ๆ เป็นอาหารเช้ากับขนมปังปิ้งหรือขนมปังฝรั่งเศสก็ได้
20 เคล็ดลับ บอกให้รู้ว่า เขารักเราจริงรึป่าว
1.เขาโทรหาคุณทุกๆ วันเลย เพื่อเล่าเรื่องต่างๆ ของเขาให้คุณฟัง
2.เขาหัวเราะให้กับมุขตลกของคุณเสมอ ไม่ว่าจะ "ขำ" หรือฝืด"
3.เขาบอกคุณอย่างจริงใจว่า เขาคิดถึงคุณจังเลย
4.เขานวดหลังให้คุณ โดยที่ไม่ขอให้คุณนวดให้เขาเป็นการตอบแทน
5.เขาโทรหาคุณบางช่วงของวัน เพราะเขาแค่ต้องการพูดว่า "คิดถึงคุณจัง"
6.เขามาหาคุณ และอยู่ข้างๆ คุณเวลาที่คุณไม่สบาย
7.เขามีข้อความพิเศษๆ แบบอ่านแล้วยิ้มแก้มปริให้กับคุณ
8.เขาชวนคุณเต้นรำในเพลงช้า
9.เขามีของขวัญพิเศษให้คุณเสมอ แบบไม่ต้องรอวันพิเศษใดๆ
10.เขาจำวันพิเศษของคุณได้เสมอ
11.เขาหอมแก้มคุณ เพราะอยากที่จะหอม ไม่ต้องมีเหตุผลอื่นๆ
12.เขาพาคุณไปเดินเล่น ดูพระอาทิตย์ตกดิน หรือดูดาวกับคุณ
13.เขาเล่าความลับของเขาแบบที่มีแค่เขาเท่านั้นที่ ให้คุณฟัง
14.เขาบอกคุณอย่างจริงใจว่า คุณดูสวยเสมอสำหรับเขา
15.เขายอมดูละครน้ำเน่า เรื่องโปรดของคุณเป็นเพื่อน
16.เขาทำให้คุณประหลาดใจ ด้วยอาหารมื้อค่ำที่ทำให้คุณประทับใจ
17.เขาทำให้คุณรู้สึกประทับใจเสมอ
18.เขาบอกรักคุณ โดยไม่หวังว่าคุณจะตอบว่าอะไร
19.เขาแสดงให้คุณรู้สึกได้ว่า เขาไม่เคยลืมความสำคัญของคุณเลย
20.เขากอดคุณเต็มอ้อมแขน เวลาที่เขาอยากกอดคุณ โดยที่ไม่ต้องรอโอกาสพิเศษใดๆ
ถ้ามีครบ 20 ข้อ รับรอง เขารักคุณหมดใจเลยค่ะ :)
2.เขาหัวเราะให้กับมุขตลกของคุณเสมอ ไม่ว่าจะ "ขำ" หรือฝืด"
3.เขาบอกคุณอย่างจริงใจว่า เขาคิดถึงคุณจังเลย
4.เขานวดหลังให้คุณ โดยที่ไม่ขอให้คุณนวดให้เขาเป็นการตอบแทน
5.เขาโทรหาคุณบางช่วงของวัน เพราะเขาแค่ต้องการพูดว่า "คิดถึงคุณจัง"
6.เขามาหาคุณ และอยู่ข้างๆ คุณเวลาที่คุณไม่สบาย
7.เขามีข้อความพิเศษๆ แบบอ่านแล้วยิ้มแก้มปริให้กับคุณ
8.เขาชวนคุณเต้นรำในเพลงช้า
9.เขามีของขวัญพิเศษให้คุณเสมอ แบบไม่ต้องรอวันพิเศษใดๆ
10.เขาจำวันพิเศษของคุณได้เสมอ
11.เขาหอมแก้มคุณ เพราะอยากที่จะหอม ไม่ต้องมีเหตุผลอื่นๆ
12.เขาพาคุณไปเดินเล่น ดูพระอาทิตย์ตกดิน หรือดูดาวกับคุณ
13.เขาเล่าความลับของเขาแบบที่มีแค่เขาเท่านั้นที่ ให้คุณฟัง
14.เขาบอกคุณอย่างจริงใจว่า คุณดูสวยเสมอสำหรับเขา
15.เขายอมดูละครน้ำเน่า เรื่องโปรดของคุณเป็นเพื่อน
16.เขาทำให้คุณประหลาดใจ ด้วยอาหารมื้อค่ำที่ทำให้คุณประทับใจ
17.เขาทำให้คุณรู้สึกประทับใจเสมอ
18.เขาบอกรักคุณ โดยไม่หวังว่าคุณจะตอบว่าอะไร
19.เขาแสดงให้คุณรู้สึกได้ว่า เขาไม่เคยลืมความสำคัญของคุณเลย
20.เขากอดคุณเต็มอ้อมแขน เวลาที่เขาอยากกอดคุณ โดยที่ไม่ต้องรอโอกาสพิเศษใดๆ
ถ้ามีครบ 20 ข้อ รับรอง เขารักคุณหมดใจเลยค่ะ :)
วิธีคิด วิธีทำงาน ในวันนี้
ในวันนี้ ฉันจะเป็นมิตรกับทุกคนที่ทำงานด้วยให้มากที่สุด จะปฏิบัติเสมือนหนึ่งว่าคนเหล่านั้นมีส่วนให้ฉันได้ทำงานที่นี่ต่อไป และขอขอบคุณที่มีพวกเขาเป็นเพื่อนร่วมงาน
ในวันนี้ ฉันจะไม่ทำตัวเป็นคนช่างตำหนิติเตียน จะพยายามมองเห็นข้อดีในทุกสถานการณ์ และหาข้อดีมาชมเชยทุกคนในที่ทำงานด้วย
ในวันนี้ ฉันจะไม่ยืนกรานว่าทุกสิ่งฉันทำ จะต้องสมบูรณ์เพียบพร้อม จะไม่พยายามทำลายสถิติความเร็วใดๆ จะทำงานทุกอย่างตรงหน้าเต็มกำลังความสามารถ แต่ไม่ใช่ด้วยความรู้สึกบีบคั้นจนทุกข์ทรมาน
ในวันนี้ ฉันคิดว่าตนเองมีความสามารถพอที่จะทำงานในความรับผิดชอบ จะไม่มัวมาตั้งคำถามอย่างไม่จบสิ้นว่า มีตำแหน่งที่เหมาะสม และได้รับคุ้มค่าเหนื่อยแล้วหรือ
ในวันนี้ ฉันจะรู้สึกปลาบปลื้มที่ได้อยู่ในสังคมและยุคสมัย ที่ไม่ต้องทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำ ในสภาพอันโหดร้ายทารุณ และขอบคุณที่ได้อยู่ในประเทศเสรี ที่ไม่มีใครมากะเกณฑ์ใช้งานได้
ในวันนี้ ฉันจะรู้สึกมีความสุขที่ได้ทำงาน และสุขกายสบายใจที่ไม่ต้องออกไปต่อสู้ในสนามรบ หรือเจ็บป่วยจนต้องรอเข้าห้องผ่าตัด
ในวันนี้ ฉันจะไม่คาดหวังให้ใครมาทำดีกับฉัน จะไม่เปรียบเทียบรายได้หรือสถานภาพ ของตนเองกับผู้อื่น จะพอใจอย่างที่ฉันเป็นอยู่
ในวันนี้ ฉันจะไม่คอยเป็นห่วงว่า “แล้วฉันจะได้อะไรจากงานนี้” จะคิดเพียงว่า วันนี้ฉันจะเข้าไปมีส่วนช่วยในเรื่องต่างๆได้อย่างไรบ้างในวันนี้ เมื่อฉันออกจากที่ทำงานฉันจะไม่มัวครุ่นคิดว่าได้ทำงานไปมากแค่ไหนหรือยัง ทำอะไรไม่เสร็จ แต่จะนึกถึงเวลาค่ำที่รออยู่ และรู้สึกขอบคุณสำหรับงานที่ทำสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
หมายเหตุ : เป็นบทแปลและเรียบเรียงจากข้อเขียนของ นอร์แมน วินเซนต์ พีล จากหนังสือเรื่อง “ความคิดเชิงบวก”
ในวันนี้ ฉันจะไม่ทำตัวเป็นคนช่างตำหนิติเตียน จะพยายามมองเห็นข้อดีในทุกสถานการณ์ และหาข้อดีมาชมเชยทุกคนในที่ทำงานด้วย
ในวันนี้ ฉันจะไม่ยืนกรานว่าทุกสิ่งฉันทำ จะต้องสมบูรณ์เพียบพร้อม จะไม่พยายามทำลายสถิติความเร็วใดๆ จะทำงานทุกอย่างตรงหน้าเต็มกำลังความสามารถ แต่ไม่ใช่ด้วยความรู้สึกบีบคั้นจนทุกข์ทรมาน
ในวันนี้ ฉันคิดว่าตนเองมีความสามารถพอที่จะทำงานในความรับผิดชอบ จะไม่มัวมาตั้งคำถามอย่างไม่จบสิ้นว่า มีตำแหน่งที่เหมาะสม และได้รับคุ้มค่าเหนื่อยแล้วหรือ
ในวันนี้ ฉันจะรู้สึกปลาบปลื้มที่ได้อยู่ในสังคมและยุคสมัย ที่ไม่ต้องทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำ ในสภาพอันโหดร้ายทารุณ และขอบคุณที่ได้อยู่ในประเทศเสรี ที่ไม่มีใครมากะเกณฑ์ใช้งานได้
ในวันนี้ ฉันจะรู้สึกมีความสุขที่ได้ทำงาน และสุขกายสบายใจที่ไม่ต้องออกไปต่อสู้ในสนามรบ หรือเจ็บป่วยจนต้องรอเข้าห้องผ่าตัด
ในวันนี้ ฉันจะไม่คาดหวังให้ใครมาทำดีกับฉัน จะไม่เปรียบเทียบรายได้หรือสถานภาพ ของตนเองกับผู้อื่น จะพอใจอย่างที่ฉันเป็นอยู่
ในวันนี้ ฉันจะไม่คอยเป็นห่วงว่า “แล้วฉันจะได้อะไรจากงานนี้” จะคิดเพียงว่า วันนี้ฉันจะเข้าไปมีส่วนช่วยในเรื่องต่างๆได้อย่างไรบ้างในวันนี้ เมื่อฉันออกจากที่ทำงานฉันจะไม่มัวครุ่นคิดว่าได้ทำงานไปมากแค่ไหนหรือยัง ทำอะไรไม่เสร็จ แต่จะนึกถึงเวลาค่ำที่รออยู่ และรู้สึกขอบคุณสำหรับงานที่ทำสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
หมายเหตุ : เป็นบทแปลและเรียบเรียงจากข้อเขียนของ นอร์แมน วินเซนต์ พีล จากหนังสือเรื่อง “ความคิดเชิงบวก”
บ้านของคนเกิดปีต่าง ๆ
บ้านคนปีชวด (พ.ศ. 2527, 2515 และ 2503)
เพื่อความมั่งมีศรีสุข บ้านของคนปีชวด ควรมีเครื่องดนตรีอย่! างน้อย 1 ช ิ้น อยู่ในบ้าน เช่น ขลุ่ย เมาท์ออร์แกน เปียโน กีตาร์ ฯลฯ แม้จะเล่นไม่เป็น เพียงมีไว้ประดับบ้านก็ถือว่าถูกโฉลก นำโชคดีมาสู่ในบ้าน แต่ถ้าเป็นเครื่องดนตรีที่สมาชิกในบ้าสามารถเล่นได้จริงๆ หรือมีการเล่นร่วมดนตรีด้วยกันภายในครอบครัว เสียงดนตรีที่ดังขึ้นดุจดั่งเสียงสวรรค์ที่เรียกทรัพย์นับล้านเข้าสู่บ้านคนปีชวด
บ้านคนปีฉลู (พ.ศ. 2528, 2516 และ 2504)
เพื่อความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านของคนปีฉลู ไม่ควรมีอะไรที่เป็นทรงกลม ยกเว้นโต๊ะอาหารที่เป็นโต๊ะกลมได้ นอกนั้นแล้วสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านควรเป็นเหลี่ยมเป็นมุมทั้งหมด ตัวอย่างเช่น นาฬิการทรง 8 เหลี่ยม อ่างบัวทรง 5 เหลี่ยม กระถางต้นไม้ทรง 4 เหลี่ยม รวมไปถึงลวดลายของเหล็กดัด วอลล์เปเปอร์ ก็ควรเป็นรูปทรงเหลี่ยม หลีกเลี่ยงรูปวงกลมและรูปโค้งมนต่างๆ
บ้านคนปีขาล (พ.ศ. 2529, 2517 และ 2505)
เพื่อความเจริญรุ่งเรือง เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านของคนปีขาล ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เตียง ควรมีขนาดใหญ่กว่าปกติ หน้าบ้านควรมีต้นไม้ใหญ่ หรือ สัญลักษณ์ที่ใหญ่โตโดดเด่น อาทิ มีประตูหน้าบ้านบานใหญ่ มีโอ่งน้ำขนาดใหญ่ มีบ่อน้ำขนาดใหญ่ เป็นต้น ในห้องรับแขกควรมีรูปภาพพระอาทิตย์ขึ้นประดับไว้ จะช่วยเพิ่มพลังอำนาจ และบารมีให้มีมากขึ้นกว่าเดิม บ้านคน!
ปีเถาะ (พ. ศ. 2530, 2518 และ 2506 )
เพื่อความสุขและความสำเร็จ บ้านของคนปีเถาะ ควรเป็นบ้านที่มีความร่มรื่น ร่มเย็น มีสนามหญ้า ต้นไม้ ดอกไม้ อ่างบัว ตัวบ้านมีความโปร่งโล่งสบาย มีแสงแดดและแสงสว่างพอประมาณ ในห้องนอนหรือห้องรับแขก ควรมีตุ๊กตาเซรามิครูปกระต่าย รูปไก่ รูปไข่ รูปหมู รูปเด็กทารก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งร่ำรวย จะช่วยให้เงินทองไม่รั่วไหลไปไหน ได้ปรับเงินเดือน ได้เลื่อนตำแหน่ง ได้พบกับความสมหวังและสมปรารถนาทุกประการ
บ้านคนปีมะโรง (พ.ศ. 2531, 2519 และ 2507)
เพื่อความเป็นสิริมงคล บ้านของคนปีมะโรง ควรจะมีชื่อบ้าน โดยเป็นชื่อที่เป็นมงคลและถูกต้องตามหลักทักษาของเจ้าของบ้าน ซึ่งโดยปกติแล้วมักจะใช้ชื่อหรือนามสกุลของเจ้าของบ้านมาเป็นชื่อบ้าน ซึ่งถ้าชื่อหรือนามสกุลถูกโฉลกอยู่แล้ว ชื่อบ้านก็ย่อมจะดีตามไปด้วย ชื่อบ้านต้องมีความเหมาะสมสอดคล้องกับลักษณะของบ้านและ ผู้อยู่อาศัย ห้ามขัดแย้ง หรือตรงกันข้ามกับความเป็นจริง ตัวอย่างเช่น บ้านทาสีฟ้าทั้งหลังแต่ตั้งชื่อบ้านว่าเรือนสีชมพู หรือ บ้านอยู่ติดภูเขา แต่ตั้งชื่อบ้านว่า บ้านริมทะเล ลักษณะอย่างนี้ถือว่าไม่เหมาะสมจะทำให้อับโชค พบเจอแต่อุปสรรคขวากหนามในการดำเนินชีวิต
บ้านของคนปีมะเส็ง (พ.ศ. 2532, 2520 และ 2508)
เพื่อความเจริญรุ่งเรือง บ้านของคนปีมะเส็งต้องมีแสงสว่างอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ต้องให้ความรู้สึกว่าสว่างอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพ าะในเวลากลางคืน ควรจะมีไฟภายนอกบ้านอย่างน้อยสัก 1 ดวงที่เปิดให้ความสว่างอยู่ตลอดคืนโดยเฉพาะไฟดวงไหนหากเปิดไว้แล้วนอกจากจะให้ความสว่างแก่บ้านของเรา ยังให้ความสว่างและความปลอดภัยแก่บ้านหลังอื่นและผู้ที่เดินทางผ่านไปมา ถือว่าเป็นมงคลอย่างยิ่ง บ้านมืดๆ จะนำภัยอันตรายและโชคร้ายมาสู่คนปีมะเส็ง
บ้านคนปีมะเมีย (พ.ศ. 2533, 2521 และ 2509)
เพื่อความเจริญก้าวหน้า บ้านของคนปีมะเมีย ต้องมีความเคลื่อนไหว เช่น มีธงโบกสะบัด มีน้ำพุ มีกังหัน มีโมบาย มีสุนัขหรือแมววิ่งเล่นกัน มีต้นไม้ใหญ่ที่โอนเอนตามสายลมภายในบ้าน ก็ควรมีสัญลักษณ์ของความเคลื่อนไหวหรือความเร็ว เช่น รถยนต์โบราณ รถไฟ เรือใบ เรือสำเภา เครื่องบิน จรวด ฯลฯ เพื่อเพิ่มความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านที่สงบ นิ่งและเงียบเกินไป จะทำให้คนปีมะเมียอึดอับและอับโชค
บ้านคนปีมะแม (พ.ศ. 2534, 2522 และ 2510)
เพื่อความสุขและความสำเร็จ บ้านของคนปีมะแม ควรเป็นบ้านที่สะสมงานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็น ภาพวาด ภาพถ่าย ภาพวิวทิวทัศน์ งานหล่อ งานปั้น งานแกะสลัก หนังสือ ซีดีเพลง ดีวีดีภาพยนตร์ ฯลฯ ล้วนถูกโฉลกและนำโชคดีมาสู่คนปีมะแม และถ้าผลงานศิลปะเหล่านั้น เป็นฝีมือของเจ้าของบ้านด้วยแล้ว จะยิ่งถูกโฉลกและโชคดีเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
บ้านของคนปีวอก ( พ.ศ. 2523, 2511 และ 2499)
เพื่อความเจริญรุ่งเรือง บ้านของคนปีวอก ควรเป็นบ้านที่มีการขยับขยาย เพิ่มเติม ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปตามวันเวลาเพื่อให้สอดคล้องสมดุลกับผู้อยู่อาศัย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เป็นบ้านที่มีการเจริญเติบโตอยู่ตลอดเวลา ตัวอย่างเช่น มีต้นไม้ใหม่ๆ มาปลูกเพิ่มอยู่เสมอมีเฟอร์นิเจอร์ใหม่มาทดแทนของเดิมที่ชำรุดเสียหาย มีเก้าอี้ม้าหินชุดใหม่มาตั้งแต่เพิ่มในสวน มีการเปลี่ยนผ้าม่านใหม่ทุกๆ 2 ปี และทาสีบ้านใหม่ทุกๆ 3 ปี
บ้านของคนปีระกา (พ.ศ. 2524, 2512 และ 2500)
เพื่อความเป็นสิริมงคล บ้านของคนปีระกาต้องสวย สะอาด สดใส และดูใหม่อยู่เสมอ สิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้าน ควรจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อย รั้วบ้านและอาคารภายนอกบ้านควรทาสีใหม่ทุกๆ 3 ปี ภายในบริเวณบ้าน ห้ามมีสิ่งของแตกหัก ชำรุด เสียหาย ใบไม้แห้ง ต้นไม้หรือกิ่งไม้ที่เหี่ยวเฉาโรยรา โดยเด็ดขาด รอยร้าวบนผนัง หากพบเจอต้องรีบแก้ไขในทันที หลอดไฟ กลอน กุญแจ ประตู หน้าต่าง ต้องพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
บ้านของคนปีจอ (พ.ศ. 2525, 2513 และ 2501)
เพื่อความมั่งมีศรีสุข บ้านของคนปีจอ ควรจะมีสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัข ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงนำโชคของคนปีจอ เพราะความซื่อสัตย์และแสนรู้ของสุนัข จะช่วยให้คนปีจออารมณ์ดี ร่าเริงแจ่มใส สมองปลอดโปร่ง ไม่เครียด ดังนั้นไม่ว่าจะคิดหรือทำอะไรก็ล้วนแต่โชคดีมีความสำเร็จ สุนัขที่เลี้ยงไว้ไม่ควรเลี้ยงตัวเดียว ควรเลี้ยงตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป แต่ก็อย่าให้มากเกิน ควรให้เหมาะสมกับบริเวณบ้านและกำลังในการดูแลเอาใจใส่
บ้านของคนปีกุน (พ.ศ. 2526, 2514 และ 2502)
เพื่อความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านของคนปีกุน ต้องมีห้องครัวที่กว้างขวาง สะอาด สะดวก สบาย มีอุปกรณ์ในการทำครัวครบครัน เพราะการเข้าครัวทำอาหารของคนปีกุน ถือเป็นเรื่องมงคลนำมาซึ่งโชคลาภ ความสำเร็จ และความร่ำรวย และถ้ามีตุ๊กตาเซรามิครูปหมูสีขาวหรือสีชมพู สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ วางไว้ในห้องรับแขกหรือห้องรับประทานอาหารด้วย จะยิ่งถูกโฉลก โชคดี เฮง เฮง เฮง เพิ่มมากขึ้น
เพื่อความมั่งมีศรีสุข บ้านของคนปีชวด ควรมีเครื่องดนตรีอย่! างน้อย 1 ช ิ้น อยู่ในบ้าน เช่น ขลุ่ย เมาท์ออร์แกน เปียโน กีตาร์ ฯลฯ แม้จะเล่นไม่เป็น เพียงมีไว้ประดับบ้านก็ถือว่าถูกโฉลก นำโชคดีมาสู่ในบ้าน แต่ถ้าเป็นเครื่องดนตรีที่สมาชิกในบ้าสามารถเล่นได้จริงๆ หรือมีการเล่นร่วมดนตรีด้วยกันภายในครอบครัว เสียงดนตรีที่ดังขึ้นดุจดั่งเสียงสวรรค์ที่เรียกทรัพย์นับล้านเข้าสู่บ้านคนปีชวด
บ้านคนปีฉลู (พ.ศ. 2528, 2516 และ 2504)
เพื่อความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านของคนปีฉลู ไม่ควรมีอะไรที่เป็นทรงกลม ยกเว้นโต๊ะอาหารที่เป็นโต๊ะกลมได้ นอกนั้นแล้วสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านควรเป็นเหลี่ยมเป็นมุมทั้งหมด ตัวอย่างเช่น นาฬิการทรง 8 เหลี่ยม อ่างบัวทรง 5 เหลี่ยม กระถางต้นไม้ทรง 4 เหลี่ยม รวมไปถึงลวดลายของเหล็กดัด วอลล์เปเปอร์ ก็ควรเป็นรูปทรงเหลี่ยม หลีกเลี่ยงรูปวงกลมและรูปโค้งมนต่างๆ
บ้านคนปีขาล (พ.ศ. 2529, 2517 และ 2505)
เพื่อความเจริญรุ่งเรือง เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านของคนปีขาล ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เตียง ควรมีขนาดใหญ่กว่าปกติ หน้าบ้านควรมีต้นไม้ใหญ่ หรือ สัญลักษณ์ที่ใหญ่โตโดดเด่น อาทิ มีประตูหน้าบ้านบานใหญ่ มีโอ่งน้ำขนาดใหญ่ มีบ่อน้ำขนาดใหญ่ เป็นต้น ในห้องรับแขกควรมีรูปภาพพระอาทิตย์ขึ้นประดับไว้ จะช่วยเพิ่มพลังอำนาจ และบารมีให้มีมากขึ้นกว่าเดิม บ้านคน!
ปีเถาะ (พ. ศ. 2530, 2518 และ 2506 )
เพื่อความสุขและความสำเร็จ บ้านของคนปีเถาะ ควรเป็นบ้านที่มีความร่มรื่น ร่มเย็น มีสนามหญ้า ต้นไม้ ดอกไม้ อ่างบัว ตัวบ้านมีความโปร่งโล่งสบาย มีแสงแดดและแสงสว่างพอประมาณ ในห้องนอนหรือห้องรับแขก ควรมีตุ๊กตาเซรามิครูปกระต่าย รูปไก่ รูปไข่ รูปหมู รูปเด็กทารก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งร่ำรวย จะช่วยให้เงินทองไม่รั่วไหลไปไหน ได้ปรับเงินเดือน ได้เลื่อนตำแหน่ง ได้พบกับความสมหวังและสมปรารถนาทุกประการ
บ้านคนปีมะโรง (พ.ศ. 2531, 2519 และ 2507)
เพื่อความเป็นสิริมงคล บ้านของคนปีมะโรง ควรจะมีชื่อบ้าน โดยเป็นชื่อที่เป็นมงคลและถูกต้องตามหลักทักษาของเจ้าของบ้าน ซึ่งโดยปกติแล้วมักจะใช้ชื่อหรือนามสกุลของเจ้าของบ้านมาเป็นชื่อบ้าน ซึ่งถ้าชื่อหรือนามสกุลถูกโฉลกอยู่แล้ว ชื่อบ้านก็ย่อมจะดีตามไปด้วย ชื่อบ้านต้องมีความเหมาะสมสอดคล้องกับลักษณะของบ้านและ ผู้อยู่อาศัย ห้ามขัดแย้ง หรือตรงกันข้ามกับความเป็นจริง ตัวอย่างเช่น บ้านทาสีฟ้าทั้งหลังแต่ตั้งชื่อบ้านว่าเรือนสีชมพู หรือ บ้านอยู่ติดภูเขา แต่ตั้งชื่อบ้านว่า บ้านริมทะเล ลักษณะอย่างนี้ถือว่าไม่เหมาะสมจะทำให้อับโชค พบเจอแต่อุปสรรคขวากหนามในการดำเนินชีวิต
บ้านของคนปีมะเส็ง (พ.ศ. 2532, 2520 และ 2508)
เพื่อความเจริญรุ่งเรือง บ้านของคนปีมะเส็งต้องมีแสงสว่างอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ต้องให้ความรู้สึกว่าสว่างอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพ าะในเวลากลางคืน ควรจะมีไฟภายนอกบ้านอย่างน้อยสัก 1 ดวงที่เปิดให้ความสว่างอยู่ตลอดคืนโดยเฉพาะไฟดวงไหนหากเปิดไว้แล้วนอกจากจะให้ความสว่างแก่บ้านของเรา ยังให้ความสว่างและความปลอดภัยแก่บ้านหลังอื่นและผู้ที่เดินทางผ่านไปมา ถือว่าเป็นมงคลอย่างยิ่ง บ้านมืดๆ จะนำภัยอันตรายและโชคร้ายมาสู่คนปีมะเส็ง
บ้านคนปีมะเมีย (พ.ศ. 2533, 2521 และ 2509)
เพื่อความเจริญก้าวหน้า บ้านของคนปีมะเมีย ต้องมีความเคลื่อนไหว เช่น มีธงโบกสะบัด มีน้ำพุ มีกังหัน มีโมบาย มีสุนัขหรือแมววิ่งเล่นกัน มีต้นไม้ใหญ่ที่โอนเอนตามสายลมภายในบ้าน ก็ควรมีสัญลักษณ์ของความเคลื่อนไหวหรือความเร็ว เช่น รถยนต์โบราณ รถไฟ เรือใบ เรือสำเภา เครื่องบิน จรวด ฯลฯ เพื่อเพิ่มความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านที่สงบ นิ่งและเงียบเกินไป จะทำให้คนปีมะเมียอึดอับและอับโชค
บ้านคนปีมะแม (พ.ศ. 2534, 2522 และ 2510)
เพื่อความสุขและความสำเร็จ บ้านของคนปีมะแม ควรเป็นบ้านที่สะสมงานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็น ภาพวาด ภาพถ่าย ภาพวิวทิวทัศน์ งานหล่อ งานปั้น งานแกะสลัก หนังสือ ซีดีเพลง ดีวีดีภาพยนตร์ ฯลฯ ล้วนถูกโฉลกและนำโชคดีมาสู่คนปีมะแม และถ้าผลงานศิลปะเหล่านั้น เป็นฝีมือของเจ้าของบ้านด้วยแล้ว จะยิ่งถูกโฉลกและโชคดีเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
บ้านของคนปีวอก ( พ.ศ. 2523, 2511 และ 2499)
เพื่อความเจริญรุ่งเรือง บ้านของคนปีวอก ควรเป็นบ้านที่มีการขยับขยาย เพิ่มเติม ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปตามวันเวลาเพื่อให้สอดคล้องสมดุลกับผู้อยู่อาศัย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เป็นบ้านที่มีการเจริญเติบโตอยู่ตลอดเวลา ตัวอย่างเช่น มีต้นไม้ใหม่ๆ มาปลูกเพิ่มอยู่เสมอมีเฟอร์นิเจอร์ใหม่มาทดแทนของเดิมที่ชำรุดเสียหาย มีเก้าอี้ม้าหินชุดใหม่มาตั้งแต่เพิ่มในสวน มีการเปลี่ยนผ้าม่านใหม่ทุกๆ 2 ปี และทาสีบ้านใหม่ทุกๆ 3 ปี
บ้านของคนปีระกา (พ.ศ. 2524, 2512 และ 2500)
เพื่อความเป็นสิริมงคล บ้านของคนปีระกาต้องสวย สะอาด สดใส และดูใหม่อยู่เสมอ สิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้าน ควรจัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อย รั้วบ้านและอาคารภายนอกบ้านควรทาสีใหม่ทุกๆ 3 ปี ภายในบริเวณบ้าน ห้ามมีสิ่งของแตกหัก ชำรุด เสียหาย ใบไม้แห้ง ต้นไม้หรือกิ่งไม้ที่เหี่ยวเฉาโรยรา โดยเด็ดขาด รอยร้าวบนผนัง หากพบเจอต้องรีบแก้ไขในทันที หลอดไฟ กลอน กุญแจ ประตู หน้าต่าง ต้องพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
บ้านของคนปีจอ (พ.ศ. 2525, 2513 และ 2501)
เพื่อความมั่งมีศรีสุข บ้านของคนปีจอ ควรจะมีสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัข ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงนำโชคของคนปีจอ เพราะความซื่อสัตย์และแสนรู้ของสุนัข จะช่วยให้คนปีจออารมณ์ดี ร่าเริงแจ่มใส สมองปลอดโปร่ง ไม่เครียด ดังนั้นไม่ว่าจะคิดหรือทำอะไรก็ล้วนแต่โชคดีมีความสำเร็จ สุนัขที่เลี้ยงไว้ไม่ควรเลี้ยงตัวเดียว ควรเลี้ยงตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป แต่ก็อย่าให้มากเกิน ควรให้เหมาะสมกับบริเวณบ้านและกำลังในการดูแลเอาใจใส่
บ้านของคนปีกุน (พ.ศ. 2526, 2514 และ 2502)
เพื่อความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านของคนปีกุน ต้องมีห้องครัวที่กว้างขวาง สะอาด สะดวก สบาย มีอุปกรณ์ในการทำครัวครบครัน เพราะการเข้าครัวทำอาหารของคนปีกุน ถือเป็นเรื่องมงคลนำมาซึ่งโชคลาภ ความสำเร็จ และความร่ำรวย และถ้ามีตุ๊กตาเซรามิครูปหมูสีขาวหรือสีชมพู สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ วางไว้ในห้องรับแขกหรือห้องรับประทานอาหารด้วย จะยิ่งถูกโฉลก โชคดี เฮง เฮง เฮง เพิ่มมากขึ้น
29 ต.ค. 2550
** รวมเรื่อง บทความสุขภาพ**
แบบทดสอบตาบอดสี ได้ผลดีมากๆ
วันนี้คุณกินข้าวเช้าหรือยัง
10 health tips
ยิ่งนอนดึก ยิ่งเร่งวันตาย
10 วิธีในการคลายความเครียด
ภาวะสมองเสื่อม..กับไข่ไก่
มังคุดทำลายเซลล์มะเร็ง
ข้าวโพด
ระวัง! ตัวร้ายในสำนักงาน
ชา เป็น Healthy drink หรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพไปแล้ว
14 วิธีขับถ่ายปัสสาวะ เพื่อสุขภาพที่ดี
ย่างอาหารนาน 2 ชั่วโมงเท่ากับสูบบุหรี่ 200,000 กว่ามวน
"วิตามินซี" เพื่อสุขภาพ
นอนไม่หลับ 33 วิธีนี้ช่วยได้
ตากระตุก ไม่ใช่แค่ ขวาร้าย...ซ้ายดี
คำถามยอดฮิต ...ท้องแล้วมีเซ็กซ์ได้ไหม
อาหาร อันตราย สำหรับ สุนัข
พิษปลาปักเป้า & วิธีสังเกตเนื้อปลาปักเป้า
สัญญาณ 10 ประการที่ร่างกายคุณฟ้องว่าคุณทานอาหารไม่เหมาะสม
25 Healthy Tips อย่ามองข้ามเรื่องเล็ก (แต่ร้าย)
อาหาร 7 อย่างที่พึงเลี่ยงเมื่อท้องว่าง
อาหารว่าง 10 ชนิดที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุด
นมวัว กับ นมถั่วเหลือง
อาหารต้องห้ามยามเป็นโรค
ตัวอย่างเครื่องปรุงอาหารไทยที่มีสรรพคุณทางยา
4 อาหารเลวที่ดีต่อร่างกายของคุณ
วิธีแก้ไขปัญหา "หน้ามันเยิ้ม"
ระแวดระวังภัย... โรคจากที่สาธารณะ
ความรู้เรื่องผ้าอนามัย คะ ถ้าใช้ไม่ดีมีสารเคมีเข้าจุดซ่อนเร้นได้นะ
อาหารช่วยลด คอเลสเตอรอล
กินอย่างไรไม่กระทบระบบย่อยอาหาร
หน้าเจ็ดหลังเจ็ด
29 สุดยอดอาหาร คงความอ่อนเยาว์
โรคยอดฮิต ความดันโลหิตสูง และ เบาหวาน
เมนูหลับสบาย คลายเครียด
เป็น " สิว "บอกอะไรได้มากกว่าที่คิด
How do you sleep?
ทุเรียน กินอย่างไรไม่อ้วน แถมเป็นยาถ่ายพยาธิชั้นยอด
brain
นาฬิกาชีวิต
วิธีธรรมชาติขจัดปัญหา ' นกเขาไม่ขัน'
เรื่องดีของ กล้วย
อาหารเสริมกับชีวิตปัจจุบัน
10 ปัญหาคาใจเกี่ยวกับการนอน
นอนแบบไหนหลับสบาย
10 เรื่องจริงของความงาม ที่คุณต้องรู้
ความรู้เล็กๆ เกี่ยวกับ แผลในช่องปาก หรือ ร้อนใน
ข้อควรกระจ่างในการบริจาคเลือด
10 เคล็ดเด็ดรักษาเชพช่ว่งปาร์ตี้ชุก
ฝึกสมองไบรท์ด้วย 9 เทคนิค
ผิวแห้ง คัน ในหน้าหนาว ตัวเลือก
สารอาหารที่ร่างกายต้องการเมื่อมีความเครียด
กินดี อยู่ดี มีประโยชน์ต่อชีวิต
เช็คสุขภาพจิตกันดีกว่า
10 ผลไม้ไทยที่มีสารต้านมะเร็งสูง
10 วิธีหนีร่างกายเสียสมดุล
เพื่อสุขภาพ ตัวเลือก
ผิวแบบไหน...ดูแลอย่างไร
การป้องกันโรคมะเร็ง
วิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้หรือปลอม
อาหารง่ายๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังทางเพศ
มารู้จักยาทากันยุงกันดีกว่า
จุดซ่อนเร้น เรื่องลึ้ก! ลึก …แต่ไม่ลับ
ล้างพิษใน 1 วัน..ที่คุณทำเองได้
เตือนห่วงสุขภาพตับ งดกินพาราฯควบกาแฟ
สูตรแก้แฮงค์นำมาฝากสำหรับนักดื่ม
เวลากินยาก่อนหรือหลังอาหารมีความสำคัญเพียงใด
ใครอยากลด....คลอเรสเตอรอล...บ้าง ?
มือ..บอกสุขภาพ
10 พฤติกรรมที่ทำให้สมองฝ่อเร็ว
วันนี้คุณกินข้าวเช้าหรือยัง
10 health tips
ยิ่งนอนดึก ยิ่งเร่งวันตาย
10 วิธีในการคลายความเครียด
ภาวะสมองเสื่อม..กับไข่ไก่
มังคุดทำลายเซลล์มะเร็ง
ข้าวโพด
ระวัง! ตัวร้ายในสำนักงาน
ชา เป็น Healthy drink หรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพไปแล้ว
14 วิธีขับถ่ายปัสสาวะ เพื่อสุขภาพที่ดี
ย่างอาหารนาน 2 ชั่วโมงเท่ากับสูบบุหรี่ 200,000 กว่ามวน
"วิตามินซี" เพื่อสุขภาพ
นอนไม่หลับ 33 วิธีนี้ช่วยได้
ตากระตุก ไม่ใช่แค่ ขวาร้าย...ซ้ายดี
คำถามยอดฮิต ...ท้องแล้วมีเซ็กซ์ได้ไหม
อาหาร อันตราย สำหรับ สุนัข
พิษปลาปักเป้า & วิธีสังเกตเนื้อปลาปักเป้า
สัญญาณ 10 ประการที่ร่างกายคุณฟ้องว่าคุณทานอาหารไม่เหมาะสม
25 Healthy Tips อย่ามองข้ามเรื่องเล็ก (แต่ร้าย)
อาหาร 7 อย่างที่พึงเลี่ยงเมื่อท้องว่าง
อาหารว่าง 10 ชนิดที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุด
นมวัว กับ นมถั่วเหลือง
อาหารต้องห้ามยามเป็นโรค
ตัวอย่างเครื่องปรุงอาหารไทยที่มีสรรพคุณทางยา
4 อาหารเลวที่ดีต่อร่างกายของคุณ
วิธีแก้ไขปัญหา "หน้ามันเยิ้ม"
ระแวดระวังภัย... โรคจากที่สาธารณะ
ความรู้เรื่องผ้าอนามัย คะ ถ้าใช้ไม่ดีมีสารเคมีเข้าจุดซ่อนเร้นได้นะ
อาหารช่วยลด คอเลสเตอรอล
กินอย่างไรไม่กระทบระบบย่อยอาหาร
หน้าเจ็ดหลังเจ็ด
29 สุดยอดอาหาร คงความอ่อนเยาว์
โรคยอดฮิต ความดันโลหิตสูง และ เบาหวาน
เมนูหลับสบาย คลายเครียด
เป็น " สิว "บอกอะไรได้มากกว่าที่คิด
How do you sleep?
ทุเรียน กินอย่างไรไม่อ้วน แถมเป็นยาถ่ายพยาธิชั้นยอด
brain
นาฬิกาชีวิต
วิธีธรรมชาติขจัดปัญหา ' นกเขาไม่ขัน'
เรื่องดีของ กล้วย
อาหารเสริมกับชีวิตปัจจุบัน
10 ปัญหาคาใจเกี่ยวกับการนอน
นอนแบบไหนหลับสบาย
10 เรื่องจริงของความงาม ที่คุณต้องรู้
ความรู้เล็กๆ เกี่ยวกับ แผลในช่องปาก หรือ ร้อนใน
ข้อควรกระจ่างในการบริจาคเลือด
10 เคล็ดเด็ดรักษาเชพช่ว่งปาร์ตี้ชุก
ฝึกสมองไบรท์ด้วย 9 เทคนิค
ผิวแห้ง คัน ในหน้าหนาว ตัวเลือก
สารอาหารที่ร่างกายต้องการเมื่อมีความเครียด
กินดี อยู่ดี มีประโยชน์ต่อชีวิต
เช็คสุขภาพจิตกันดีกว่า
10 ผลไม้ไทยที่มีสารต้านมะเร็งสูง
10 วิธีหนีร่างกายเสียสมดุล
เพื่อสุขภาพ ตัวเลือก
ผิวแบบไหน...ดูแลอย่างไร
การป้องกันโรคมะเร็ง
วิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้หรือปลอม
อาหารง่ายๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังทางเพศ
มารู้จักยาทากันยุงกันดีกว่า
จุดซ่อนเร้น เรื่องลึ้ก! ลึก …แต่ไม่ลับ
ล้างพิษใน 1 วัน..ที่คุณทำเองได้
เตือนห่วงสุขภาพตับ งดกินพาราฯควบกาแฟ
สูตรแก้แฮงค์นำมาฝากสำหรับนักดื่ม
เวลากินยาก่อนหรือหลังอาหารมีความสำคัญเพียงใด
ใครอยากลด....คลอเรสเตอรอล...บ้าง ?
มือ..บอกสุขภาพ
10 พฤติกรรมที่ทำให้สมองฝ่อเร็ว
เกิดวันอะไร เหมาะกับงานแบบไหน
คนเกิดวันที่ 1
คนที่เกิดวันนี้จะเป็นคนที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ชอบความท้าทายตลอดเวลาสไตล์การทำงาน : เป็นที่ชอบคิดในสิ่งต่างๆ แปลกใหม่ตลอดเวลา สามารถแก้ไขปัญหาให้กับคนอื่นได้ดี ด้วยเหตุผลที่ว่า "สิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ จะมีทางเป็นไปได้" ในการทำงานคุณชอบเป็นคนวางแผนอนาคตไว้ด้วยตัวเองอาชีพที่เหมาะสม : คุณเหมาะกับอาชีพที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ใช้ความคิดของตนเองในการนำเสนอออกมา อาจจะเป็น ดีไซน์เนอร์ ครีเอทีฟ หรือศิลปิน
คนเกิดวันที่ 2
เป็นคนที่มีความประนีประนอม มีเหตุผลในด้านความคิดสไตล์การทำงาน : คุณเป็นคนรู้จักในการวางตัว และวาจาในการพูดคุยกับคนอื่นเป็นเยี่ยม แต่ลักษณะงานของคุณนั้นจะเป็นลักษณะที่ร่วมมือกับผู้อื่นมากกว่าที่จะทำคนเดียวอาชีพที่เหมาะสม :ที่ปรึกษา นักสังคมสงเคราะห์ หรือเป็นเจ้าของกิจการต่างๆ เช่น ร้านอาหาร ร้านหนังสือ นักกฎหมาย สถาปนิก ผู้รับเหมาก่อสร้าง พยาบาล แพทย์
คนเกิดวันที่ 3
เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอ และมีความเป็นตัวของตัวเองมาก จะไม่ค่อยสนใจและแคร์ใคร สไตล์การทำงาน :ชอบทำงานประเภทพบปะกับผู้คนมากๆเหมาะกับทำงานเป็นทีม คือ ในเรื่องติดต่อประสานงานกับบุคคลภายในและภายนอกองค์กร และคุณยังเป็นคนที่จุดประกายความคิดที่ดีเสมอ ทำให้เพื่อนร่วมงานของคุณพอใจอาชีพที่เหมาะสม : งานประชาสัมพันธ์ งานบริการดูแลลูกค้า หรืองานที่เกี่ยวข้องกับการประสานงาน เช่น งานออร์แกไนเซอร์ พนักงานต้อนรับโอเปอเรเตอร์
คนเกิดวันที่ 4
เป็นผู้ที่มีความฉลาด ไหวพริบ เบิกบาน ไม่ยอมใคร แต่ก็ไม่โกงใครด้วย เอาง่ายๆว่าเป็นคนที่เปิดเผย ตรงไปตรงมา สไตล์การทำงาน :คุณเป็นคนใจกว้างมากเลยทีเดียว ทำให้เพื่อนร่วมงานของคุณหาคนมาช่วยเหลือคุณ อาจจะหาได้ไม่เหมาะสมก็ได้ ทำให้การทำงานของคุณต้องพึ่งตัวเองป็นส่วนใหญ่อาชีพที่เหมาะสม :งานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โปรดิวเซอร์ ที่ปรึกษาด้านการเงินทนายความ สถาปนิก ผู้รับเหมา วิศวกร ศิลปินแขนงต่าง ๆ
คนเกิดวันที่ 5
คุณเป็นคนที่ฝักใฝ่หาความรู้อยู่เสมอ รักการค้นหาและศึกษา เป็นคนที่ช่างสังเกต สามารถเป็นผู้นำได้ สไตล์การทำงาน :เป็นคนที่มีความกระตือรือร้นอยู่เสมอ เมื่อได้รับงานที่มอบหมายมาใหม่ แต่ถ้าคุณทำงานในแบบเดิมๆคุณจะเบื่อหน่ายเร็ว และยังมีความสามารถในการสื่อสารที่ดีด้วยอาชีพที่เหมาะสม :วงการโทรทัศน์ หรืองานประชาสัมพันธ์ เช่น นักเขียน นักบรรยาย อาจารย์มหาวิทยาลัย นักการศึกษา นักโฆษณา
คนเกิดวันที่ 6
คุณเป็นคนคิดว่าตัวเองโดดเดี่ยว ไม่กล้าขัดใคร เป็นคนที่ชอบอยู่แวดวงสังคม สไตล์การทำงาน :คุณเป็นคนที่มีพรสวรรค์มาก ชีวิตของคุณจะก้าวหน้ามากกว่าคนอื่น แต่เมื่อคุณได้ทำอะไรบ้างอย่างแล้วนั้นและเป็นสิ่งที่ตนเองถนัดคนก็จะทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว และในทางกลับกันถ้างานไหนคนไม่ชอบคนก็จะไม่ฝืนที่จะทำมัน อาชีพที่เหมาะสม :งานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ อาชีพเพื่อสังคม งานบริการต่าง ๆงานที่ต้องใช้อารมณ์และความสุนทรีภาพสูง ๆ
คนเกิดวันที่ 7
คุณเป็นคนที่ทะเยอทะยานเกินกว่าที่จะเป็น และยังเป็นคนที่ช่างแสวงหาอีกด้วย สไตล์การทำงาน :เป็นคนมีหลักการมาก คิดใคร่ครวญ ไตร่ตรองรอบคอบมากๆ เป็นคนที่ชอบอยู่คนเดียว มีความเป็นส่วนตัวสูง ชอบความสันโดษอาชีพที่เหมาะสม :นักบำบัด นักเขียน นักกฎหมาย ช่างถ่ายรูป นักวิจัย นักวิเคราะห์ ครูบาอาจารย์
คนเกิดวันที่ 8
เป็นผู้นำ ประเภทที่ว่ากล้าได้กล้าเสีย เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย หากแพ้หรือมีข้อผิดพลาดจะขอแก้ตัวอยู่เสมอ สไตล์การทำงาน :คุณเป็นคนที่ทำงานได้ดี และไม่ชอบที่จะอยู่นิ่งๆนานๆ มักจะย้ายๆไปโน้นไปนี่บ่อยๆ เพื่อได้เป้าหมายที่ท้าทายกว่าเดิม คุณเป็นคนที่ทำอะไรรวดเร็ว จนคนรอบข้างคุณปรับตัวไม่ทัน แต่คุณก็ดูมีความสุขกับการทำงานไม่เครียด และยังคงอยู่ในสภาพการทำงานได้นานโดยไม่เหนื่อยกับงานมากเกินไป อาชีพที่เหมาะสม :งานทางด้านการเงิน ฝ่ายติดต่อประสานงานต่าง ๆ ผู้นำทางการเมือง ผู้นำทางศาสนา นักกฎหมาย นักบุญ และธุรกิจบันเทิง
คนเกิดวันที่ 9
คุณจะปราดเปรื่องเรื่องจิตวิทยา เพราะจะเข้าใจในคนใกล้ตัวด้วยการสังเกตการณ์ สไตล์การทำงาน :การประสบความสำเร็จของคุณไม่ค่อยได้เห็นเท่าไร แต่ว่าคุณจะมองเห็นอะไรต่างได้เด่นชัดกว่าผู้อื่น จึงทำให้คุณก้าวก่อนคนอื่นเสมอ แต่คุณยังเป็นคนที่ทำตามใจตัวเองอยู่อาชีพที่เหมาะสม :ครูบาอาจารย์ นักปราชญ์ นักเขียน ช่างภาพ ศิลปิน นักบำบัด นักวางกลยุทธ์ นักแต่งหนังสือ นักขาย นักบริหาร
คนเกิดวันที่ 10
คุณเป็นคนที่ดิ้นรนด้วยตัวคุณเอง จนสำเร็จได้ นับถือตัวเองมากกว่าใครสไตล์การทำงาน :มีความเชื่อมั่นสูง และศรัทธาในตัวเองอยู่ด้วย จึงทำให้คนรอบข้างของคุณอุ่นใจเมื่อมีคุนอยู่ใกล้ๆอาชีพที่เหมาะสม :นักวิทยาศาสตร์ นักบิน นักการศึกษา นักสื่อสารมวลชน ศิลปิน เทรนเนอร์ นักสิ่งแวดล้อม
คนเกิดวันที่ 11
ผู้ที่ไม่เคยหยุดนิ่งจะดิ้นรนเพราะไม่พอใจกับสถานภาพที่เป็นอยู่ของตนเอง แต่เป็นนักคิดสร้างสรรค์ จะริเริ่มในสิ่งใหม่ๆในชีวิตเสมอ สไตล์การทำงาน :คุณจะทำทุกอย่างในสิ่งที่คุณชื่นชอบ เพราะคุณจะสนุกสนานกับการทำงาน โดยคุณจะมีเอกลักษณ์การทำงานไม่เหมือนใคร เพราะคุณจะก้าวหน้ากว่าใครก็ด้วยในสิ่งนี่แหล่ะจะบ่งบอกความเป็นตัวคุณอาชีพที่เหมาะสม : นักเขียน นักแสดง ศิลปิน นักปรัชญา นักศาสนา นักธุรกิจ นักประพันธ์ ที่ปรึกษาทางธุรกิจหรือด้านต่าง ๆ
คนเกิดวันที่ 12
เป็นคนที่มีความเฉลียวฉลาดในตัวของคนเอง เพื่อให้ไปสู่ความประสบความสำร็จ สไตล์การทำงาน :เรื่องที่เค้าว่ายากกัน แต่คุณสามารถสรุปมันให้ง่ายต่อการคิดและการปฏิบัติได้ อย่างกระชับ ชัดเจน สามารถนำไปทำได้ทันที ทำให้คุณทำงานได้รวดเร็วและถูกต้องอยู่เสมอๆอาชีพที่เหมาะสม :งานที่เกี่ยวข้องกับติดต่อกับคนที่มากๆ
คนเกิดวันที่ 13
เป็นคนที่คิดรอบคอบในการแก้ไขปัญหา เพื่อความยุติธรรม มั่นคง และแน่นอน และเอกลักษณ์ของคนที่เกิดวันนี้คือเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์มากคนหนึ่ง สไตล์การทำงาน :บอกได้คำเดียวว่า "ช้าแต่ชัวร์"อาชีพที่เหมาะสม :งานทางด้านเงิน นักสังคมสงเคราะห์ งานก่อสร้าง งานประชาสัมพันธ์ ผู้กำกับ
คนเกิดวันที่ 14
คุณเป็นคนที่มีความทะเยอทะยาน มุ่งมั่นอย่างมาก แต่จะใช้อารมณ์ในการตัดสินใจมากกว่าเหตุผล สไตล์การทำงาน :เรื่องการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคุณ เพราะคนเป็นคนที่มีความยืดหยุ่นสูง คุณเป็นคนที่มีความเข้าใจและการเรียนรู้ที่รวดเร็ว สามารถรู้ความเป็นไปของสถานการณ์ได้ดีเยี่ยมอาชีพที่เหมาะสม : นักเจรจาต่อรอง นักวิทยาศาสตร์ นักโบราณคดี นักสังคมวิทยา นักประมูลผู้จัดการฝ่ายขาย โค้ชกีฬา เทรนเนอร์ นักข่าว นักพาณิชยศิลป์
คนเกิดวันที่ 15
มีความพยายาม ความเพียร เพื่อให้เกิดความสำเร็จ คุณจึงคิดว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับคุณ แต่ก็มีความคิดแบบเห็นแก่ตัวบ้าง สไตล์การทำงาน :ความเด็ดเดี่ยวของคุณ ทำให้คุณคุณวางเป้าหมายอย่างแน่ชัดเพื่อความสำเร็จ คุณยังกระหายการเรียนรู้เสมอ เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ใหม่ๆ คุณเป็นคนที่มีความสามารถมากอาชีพที่เหมาะสม :สถาปนิก ครูอาจารย์ นักวิชาการ มัณฑนศิลป์ บรรณารักษ์ นักวิจัยนักบำบัด นักออกแบบ
คนเกิดวันที่16
น่าสงสารคนเกิดวันนี้ที่ยากลำบากในชีวิตต้องสะสมประสบการณ์ด้วยตนเองมากมาย ถึงจะประสบความสมเร็จ แต่ความพิเศษก็มีเช่นกัน เพราะเป็นคนที่มีไหวพริบและมนุษยสัมพันธ์ดีมาก สไตล์การทำงาน :การทำงานของคุณจะนำไปสู่เป้าหมายให้เร็วที่สุด เพราะสิ่งที่วกวนอ้อมไปอ้อมมาคุณจะไม่ถนัดเลย และยิ่งทำให้คุณเสียเวลา คุณจึงตรงไปตรงมารวมถึงวางแผนอย่างรัดกุมเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่คุณคิดอาชีพที่เหมาะสม :นักประพันธ์เอก วิศวกร นักกฎหมาย นักวิจัย นักสืบ
คนเกิดวันที่ 17
เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ดีมาก และยังมีความเป็นผู้นำ ไม่ชอบเดินตามใครหรือให้ใครบงการ สไตล์การทำงาน :สิ่งที่คุณถนัดคือเรื่องของการเมืองในบริษัท และยังถนัดเรื่องการประสานงานไม่ว่าเรื่องความคิดเห็น คุณจะทำได้ดีมากอาชีพที่เหมาะสม :นักแสดง นักการเมือง ทนาย นักเอนเตอร์เทน นักบริหาร นักการเงิน การธนาคาร ผู้นำทางศาสนา นายหน้า
คนเกิดวันที่ 18
คุณเป็นคนเด็ดขาดและชอบงานอิสระ คนยังสามารถควบคุมบรรดาลูกน้องของคุณได้เพื่อคุณเป็นผู้นำที่มีอำนาจ สไตล์การทำงาน :ชอบการเรียนรู้ด้วยตัวเอง และสามารถเรียนรู้ได้รวดเร็วอีกด้วย คุณยังสามารถจัดการหรือฝ่าวิกฤตที่เกิดขึ้นให้ลุล่วงไปด้วยดี เพราะความเป็นนักสู้ของคุณนั้นเองอาชีพที่เหมาะสม :การจัดการ นักกฎหมาย อัยการศาล นักปรัชญา หรือปรากฏการณ์ บรรณาธิการ นักสื่อสารมวลชนหัวก้าวหน้า นักกีฬานักกรีฑา
คนเกิดวันที่ 19
คุณเป็นคนชังสังเกต และมีความเป็นผู้นำสูง จึงเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปสไตล์การทำงาน :คนเป็นคนที่ชอบการร่วมมือกับคนอื่น ไม่ว่าเป็นเรื่องเวลา การลงทุน ลงแรง คุณจะพร้อม และมีความมั่นใจยิ่งขึ้น และคุณยังเป็นคนที่ไม่ค่อยมีศัตรูอีกด้วยอาชีพที่เหมาะสม :ผู้กำกับฯ นักดนตรี นักเขียน ที่ปรึกษา ผู้กำกับศิลป์ แดนเซอร์ นักเคมี เภสัชกร
คนเกิดวันที่ 20
เป็นคนที่ตรงไปตรงมาจริงใจ ไม่คดโกงใคร ไม่เอาเปรียบใคร ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณก็ไม่อยากให้ใครเอาเปรียบคุณเช่นกัน สไตล์การทำงาน :การทำงานของคุณเป็นคนที่ฉกฉวยโอกาศจากช่องว่างต่างๆได้ดีเยี่ยมอาชีพที่เหมาะสม :งานทุกอย่างที่ต้องทำกันเป็นทีมเพราะคุณจะถนัดงานทางด้านนี้ ที่ปรึกษาสุขภาพ ที่ปรึกษาทางด้านบุคลิกภาพ ครูบาอาจารย์ นักการทูต นักบริหาร
คนเกิดวันที่ 21
คุณเป็นคนที่ลังเล โลเลจนทำให้เสียโอกาศทองไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังเป็นคนที่ช่างฝันอยู่ เพื่อสู้ที่จะทำจริง ความสำเร็จเลยไม่ยากเกินความต้องการคุณ สไตล์การทำงาน :คุณมักจะเลือกงานที่ใช้ความคิด และจินตนาการอย่างเต็มที่ เพราะงานทุกชิ้นของคุณออกมาจากใจจริง นับว่าคุณเป็นศิลปินด้วยจิตวิญญาณอาชีพที่เหมาะสม :งานที่เกี่ยวข้องกับทางสื่อโทรทัศน์ หรือหนังสือพิมพ์ ถ้าคุณทำงานทางด้านสายนี้จะดีเอามากๆเลย เช่น วงการดารา นักร้อง นางแบบ นักสื่อสารมวลชน วงการโฆษณา
คนเกิดวันที่ 22
เป็นคนที่แสวงหาความสุขให้ตัวเองพร้อมกับเรียนรู้ไปพร้อมๆกันได้ และยังเป็นคนที่วางแผนชีวิตอย่างซีเรียสเสมอ สไตล์การทำงาน :คุณพยายามที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆให้หมดเพื่อจะได้ฉกฉวยมาได้ก่อนคนอื่น จริงๆคุณไม่ได้เป็นคนที่โลภะหรอกนะ เพียงแต่ว่าคุณไม่อยากที่จะเสียเวลาในการทำอย่างอื่น เป็นเพียงเพราะคุณเป็นคนที่กระหายความสำเร็จเท่านั้น อาชีพที่เหมาะสม :สถาปนิก ครูบาอาจารย์ นักบริหาร ที่ปรึกษาทางธุรกิจ ทนาย หรือทำงานทางด้านการเงิน
คนเกิดวันที่ 23
คนเกิดวันนี้เป็นคนที่คล่องแคล่วในตัดสินปัญหาทุกๆอย่าง และยังสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้ามีเหตุการณ์บางอย่างทำให้คุณถึงจุดสุดขีดขึ้นมา คุณก็สามารถระเบิดสิ่งนั้นออกมาได้ทันที สไตล์การทำงาน :คุณเป็นคนชั่งสังเกต และมีความรู้สึกพิเศษที่ว่า ใครที่ดีกับคุณ หรือช่วยเหลือคุณได้อาชีพที่เหมาะสม :นักสังคมสงเคราะห์ นักอนุรักษ์ธรรมชาติ นักเขียน ศิลปิน
คนเกิดวันที่ 24
เป็นคนที่ชอบความชัดเจน ตรงไปตรงมา มีความอดทน และยังเป็นนักปกครองที่ดีอีกด้วย สไตล์การทำงาน :คุณเป็นคนที่ทำงานไม่รวดเร็ว แต่ว่าผลลัพธ์ที่ออกมานั้น จะเหนือความคาดหมายที่วางไว้ตอนแรกเสมออาชีพที่เหมาะสม :งานที่ต้องเขียนออกมาหรืองานนักดนตรี ผูนำทางด้านศาสนา
คนเกิดวันที่ 25
เป็นคนที่มีความมั่นใจสูงมากเกินไป คุณเป็นคนที่ใจร้อนในการทำงาน เพื่อให้ผลงานออกมาอย่างรวดเร็ว สไตล์การทำงาน :คุณต้องทำงานที่เริ่มต้น หรืองานประเภทบุกเบิกตั้งแต่แรก เพื่อคุณชอบที่จะพยายาม ใช้ความสามารถในการวางแผนหรือคิดค้นอะไรๆอาชีพที่เหมาะสม :งานทางด้านการเงิน หรืองานที่จะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์
คนเกิดวันที่ 26
คนเป็นคนที่เชื่อมั่นในตนเอง เอาแต่ใจตัวเองบ้าง สมองไหวพริบดี ชอบทำงานที่ท้าทายกับตัวเอง เพื่อความประสบความสำเร็จ สไตล์การทำงาน :เรียนรู้อะไรได้ถูกต้อง เพื่อให้บรรลุความสำเร็จได้เร็ว และก่อนใครคนอื่น แต่งานของคุณต้องเป็นงานที่ทำคนเดียว เพราะคุณชอบที่ทำตั้งแต่เริ่มวางแผนยันลงมือทำงานหมดเลยอาชีพที่เหมาะสม : ครูบาอาจารย์ นักเจรจา นักไกล่เกลี่ย นักสืบ นักตกแต่ง งานการตลาด วานทางด้านการตัดต่อ
คนเกิดวันที่ 27
เป็นคนที่วางแผน คิดรอบคอบ รู้ทันเกม เจรจาเป็นเลิศ แต่ก็ตรงไปตรงมาสไตล์การทำงาน :คุณก็เป็นคนที่คิดรอบคอบ คือ คิดแล้วคิดอีก ก่อนที่จะลงมือทำ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ มิให้เกิดความผิดพลาดในอนาคต แถมคุณยังเป็นคนที่รักงานเอามากๆ ไม่ชอบให้ใครทำงานที่ชุ่ยๆอาชีพที่เหมาะสม : นักอบรม นักจัดงานสัมมนา นักบริหาร นักแสดง นักดนตรี นักวาดรูป วาทยกร
คนเกิดวันที่ 28
จัดว่าคนเป็นเจ้าระเบียบจัดเลยก็ว่าได้ ชอบที่จะคิดปฏิวัติแก้ไขแนวคิดด้วย สไตล์การทำงาน :เอาง่ายๆเลยว่า งานที่ยากๆ เป็นสิ่งที่คุณชื่นชอบอาชีพที่เหมาะสม :ศิลปิน นักแสดง นักออกแบบเสื้อผ้า งานที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ นักพัฒนาพื้นที่ นักพัฒนาองค์กร
คนเกิดวันที่ 29
เป็นคนที่มีความเชื่อมั่น ขยันหมั่นเพียรสูง พยายามที่จะสร้าความคิดใหม่ๆออกมา ชอบคิดวางแผนเสมอ เหมาะที่จะเป็นผู้นำ หัวหน้าคน เพราะเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น และยังมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีอีกด้วย สไตล์การทำงาน :คุณชอบที่จะทำงานหลายๆอย่างในคราวเดียวกัน ประมาณว่าทำงานหลายอย่างพร้อมกันบางทีคุณก็มีความสับสนอยู่บ้าง แต่คุณก็มีทักษะที่สามารถที่ทำหลายอย่างพร้อมกันได้อาชีพที่เหมาะสม :งานทางด้านการทำหนังสือ หรืองานช่วยเหลือสังคม ทางด้านการเงิน
คนเกิดวันที่ 30
จะเป็นคนที่มั่นใจในสิ่งที่ตนเองทำ เพราะตนเองได้วางแผนในการทำงานไว้อย่างรอบคอบแล้ว และเป็นคนที่มีอารมณ์ศิลปินสูงด้วย สไตล์การทำงาน :การทำงานที่คุณควรทำคือ มีความอดทน เข้าใจกับผู้อื่น เพราะคุณมีความสามารถทางด้านจิตวิทยาสูงทำให้เข้าใจอื่นได้ดี แต่ไม่ค่อยเข้าใจกับตัวเองเท่าไหร่อาชีพที่เหมาะสม :งานทางด้านการทำหนังสือ อาชีพการบริการ งานเกี่ยวข้องกับการสื่อสาร
คนเกิดวันที่ 31
เป็นคนที่แสวงหาทุกอย่าง พยายามที่จะทะเยอทะเยานให้ไปได้ไกลๆ แถมยังใฝ่สูงอีกด้วย สไตล์การทำงาน :เป็นคนที่ตัดสินใจแล้วต้องทำให้ได้อาชีพที่เหมาะสม :นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นักระดมทุน นักกายภาพบำบัด นักกฎหมาย งานที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ หรือที่เกี่ยวข้องทางด้านสื่อสารมวลชน
คนที่เกิดวันนี้จะเป็นคนที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ชอบความท้าทายตลอดเวลาสไตล์การทำงาน : เป็นที่ชอบคิดในสิ่งต่างๆ แปลกใหม่ตลอดเวลา สามารถแก้ไขปัญหาให้กับคนอื่นได้ดี ด้วยเหตุผลที่ว่า "สิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ จะมีทางเป็นไปได้" ในการทำงานคุณชอบเป็นคนวางแผนอนาคตไว้ด้วยตัวเองอาชีพที่เหมาะสม : คุณเหมาะกับอาชีพที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ใช้ความคิดของตนเองในการนำเสนอออกมา อาจจะเป็น ดีไซน์เนอร์ ครีเอทีฟ หรือศิลปิน
คนเกิดวันที่ 2
เป็นคนที่มีความประนีประนอม มีเหตุผลในด้านความคิดสไตล์การทำงาน : คุณเป็นคนรู้จักในการวางตัว และวาจาในการพูดคุยกับคนอื่นเป็นเยี่ยม แต่ลักษณะงานของคุณนั้นจะเป็นลักษณะที่ร่วมมือกับผู้อื่นมากกว่าที่จะทำคนเดียวอาชีพที่เหมาะสม :ที่ปรึกษา นักสังคมสงเคราะห์ หรือเป็นเจ้าของกิจการต่างๆ เช่น ร้านอาหาร ร้านหนังสือ นักกฎหมาย สถาปนิก ผู้รับเหมาก่อสร้าง พยาบาล แพทย์
คนเกิดวันที่ 3
เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอ และมีความเป็นตัวของตัวเองมาก จะไม่ค่อยสนใจและแคร์ใคร สไตล์การทำงาน :ชอบทำงานประเภทพบปะกับผู้คนมากๆเหมาะกับทำงานเป็นทีม คือ ในเรื่องติดต่อประสานงานกับบุคคลภายในและภายนอกองค์กร และคุณยังเป็นคนที่จุดประกายความคิดที่ดีเสมอ ทำให้เพื่อนร่วมงานของคุณพอใจอาชีพที่เหมาะสม : งานประชาสัมพันธ์ งานบริการดูแลลูกค้า หรืองานที่เกี่ยวข้องกับการประสานงาน เช่น งานออร์แกไนเซอร์ พนักงานต้อนรับโอเปอเรเตอร์
คนเกิดวันที่ 4
เป็นผู้ที่มีความฉลาด ไหวพริบ เบิกบาน ไม่ยอมใคร แต่ก็ไม่โกงใครด้วย เอาง่ายๆว่าเป็นคนที่เปิดเผย ตรงไปตรงมา สไตล์การทำงาน :คุณเป็นคนใจกว้างมากเลยทีเดียว ทำให้เพื่อนร่วมงานของคุณหาคนมาช่วยเหลือคุณ อาจจะหาได้ไม่เหมาะสมก็ได้ ทำให้การทำงานของคุณต้องพึ่งตัวเองป็นส่วนใหญ่อาชีพที่เหมาะสม :งานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ โปรดิวเซอร์ ที่ปรึกษาด้านการเงินทนายความ สถาปนิก ผู้รับเหมา วิศวกร ศิลปินแขนงต่าง ๆ
คนเกิดวันที่ 5
คุณเป็นคนที่ฝักใฝ่หาความรู้อยู่เสมอ รักการค้นหาและศึกษา เป็นคนที่ช่างสังเกต สามารถเป็นผู้นำได้ สไตล์การทำงาน :เป็นคนที่มีความกระตือรือร้นอยู่เสมอ เมื่อได้รับงานที่มอบหมายมาใหม่ แต่ถ้าคุณทำงานในแบบเดิมๆคุณจะเบื่อหน่ายเร็ว และยังมีความสามารถในการสื่อสารที่ดีด้วยอาชีพที่เหมาะสม :วงการโทรทัศน์ หรืองานประชาสัมพันธ์ เช่น นักเขียน นักบรรยาย อาจารย์มหาวิทยาลัย นักการศึกษา นักโฆษณา
คนเกิดวันที่ 6
คุณเป็นคนคิดว่าตัวเองโดดเดี่ยว ไม่กล้าขัดใคร เป็นคนที่ชอบอยู่แวดวงสังคม สไตล์การทำงาน :คุณเป็นคนที่มีพรสวรรค์มาก ชีวิตของคุณจะก้าวหน้ามากกว่าคนอื่น แต่เมื่อคุณได้ทำอะไรบ้างอย่างแล้วนั้นและเป็นสิ่งที่ตนเองถนัดคนก็จะทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว และในทางกลับกันถ้างานไหนคนไม่ชอบคนก็จะไม่ฝืนที่จะทำมัน อาชีพที่เหมาะสม :งานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ อาชีพเพื่อสังคม งานบริการต่าง ๆงานที่ต้องใช้อารมณ์และความสุนทรีภาพสูง ๆ
คนเกิดวันที่ 7
คุณเป็นคนที่ทะเยอทะยานเกินกว่าที่จะเป็น และยังเป็นคนที่ช่างแสวงหาอีกด้วย สไตล์การทำงาน :เป็นคนมีหลักการมาก คิดใคร่ครวญ ไตร่ตรองรอบคอบมากๆ เป็นคนที่ชอบอยู่คนเดียว มีความเป็นส่วนตัวสูง ชอบความสันโดษอาชีพที่เหมาะสม :นักบำบัด นักเขียน นักกฎหมาย ช่างถ่ายรูป นักวิจัย นักวิเคราะห์ ครูบาอาจารย์
คนเกิดวันที่ 8
เป็นผู้นำ ประเภทที่ว่ากล้าได้กล้าเสีย เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย หากแพ้หรือมีข้อผิดพลาดจะขอแก้ตัวอยู่เสมอ สไตล์การทำงาน :คุณเป็นคนที่ทำงานได้ดี และไม่ชอบที่จะอยู่นิ่งๆนานๆ มักจะย้ายๆไปโน้นไปนี่บ่อยๆ เพื่อได้เป้าหมายที่ท้าทายกว่าเดิม คุณเป็นคนที่ทำอะไรรวดเร็ว จนคนรอบข้างคุณปรับตัวไม่ทัน แต่คุณก็ดูมีความสุขกับการทำงานไม่เครียด และยังคงอยู่ในสภาพการทำงานได้นานโดยไม่เหนื่อยกับงานมากเกินไป อาชีพที่เหมาะสม :งานทางด้านการเงิน ฝ่ายติดต่อประสานงานต่าง ๆ ผู้นำทางการเมือง ผู้นำทางศาสนา นักกฎหมาย นักบุญ และธุรกิจบันเทิง
คนเกิดวันที่ 9
คุณจะปราดเปรื่องเรื่องจิตวิทยา เพราะจะเข้าใจในคนใกล้ตัวด้วยการสังเกตการณ์ สไตล์การทำงาน :การประสบความสำเร็จของคุณไม่ค่อยได้เห็นเท่าไร แต่ว่าคุณจะมองเห็นอะไรต่างได้เด่นชัดกว่าผู้อื่น จึงทำให้คุณก้าวก่อนคนอื่นเสมอ แต่คุณยังเป็นคนที่ทำตามใจตัวเองอยู่อาชีพที่เหมาะสม :ครูบาอาจารย์ นักปราชญ์ นักเขียน ช่างภาพ ศิลปิน นักบำบัด นักวางกลยุทธ์ นักแต่งหนังสือ นักขาย นักบริหาร
คนเกิดวันที่ 10
คุณเป็นคนที่ดิ้นรนด้วยตัวคุณเอง จนสำเร็จได้ นับถือตัวเองมากกว่าใครสไตล์การทำงาน :มีความเชื่อมั่นสูง และศรัทธาในตัวเองอยู่ด้วย จึงทำให้คนรอบข้างของคุณอุ่นใจเมื่อมีคุนอยู่ใกล้ๆอาชีพที่เหมาะสม :นักวิทยาศาสตร์ นักบิน นักการศึกษา นักสื่อสารมวลชน ศิลปิน เทรนเนอร์ นักสิ่งแวดล้อม
คนเกิดวันที่ 11
ผู้ที่ไม่เคยหยุดนิ่งจะดิ้นรนเพราะไม่พอใจกับสถานภาพที่เป็นอยู่ของตนเอง แต่เป็นนักคิดสร้างสรรค์ จะริเริ่มในสิ่งใหม่ๆในชีวิตเสมอ สไตล์การทำงาน :คุณจะทำทุกอย่างในสิ่งที่คุณชื่นชอบ เพราะคุณจะสนุกสนานกับการทำงาน โดยคุณจะมีเอกลักษณ์การทำงานไม่เหมือนใคร เพราะคุณจะก้าวหน้ากว่าใครก็ด้วยในสิ่งนี่แหล่ะจะบ่งบอกความเป็นตัวคุณอาชีพที่เหมาะสม : นักเขียน นักแสดง ศิลปิน นักปรัชญา นักศาสนา นักธุรกิจ นักประพันธ์ ที่ปรึกษาทางธุรกิจหรือด้านต่าง ๆ
คนเกิดวันที่ 12
เป็นคนที่มีความเฉลียวฉลาดในตัวของคนเอง เพื่อให้ไปสู่ความประสบความสำร็จ สไตล์การทำงาน :เรื่องที่เค้าว่ายากกัน แต่คุณสามารถสรุปมันให้ง่ายต่อการคิดและการปฏิบัติได้ อย่างกระชับ ชัดเจน สามารถนำไปทำได้ทันที ทำให้คุณทำงานได้รวดเร็วและถูกต้องอยู่เสมอๆอาชีพที่เหมาะสม :งานที่เกี่ยวข้องกับติดต่อกับคนที่มากๆ
คนเกิดวันที่ 13
เป็นคนที่คิดรอบคอบในการแก้ไขปัญหา เพื่อความยุติธรรม มั่นคง และแน่นอน และเอกลักษณ์ของคนที่เกิดวันนี้คือเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์มากคนหนึ่ง สไตล์การทำงาน :บอกได้คำเดียวว่า "ช้าแต่ชัวร์"อาชีพที่เหมาะสม :งานทางด้านเงิน นักสังคมสงเคราะห์ งานก่อสร้าง งานประชาสัมพันธ์ ผู้กำกับ
คนเกิดวันที่ 14
คุณเป็นคนที่มีความทะเยอทะยาน มุ่งมั่นอย่างมาก แต่จะใช้อารมณ์ในการตัดสินใจมากกว่าเหตุผล สไตล์การทำงาน :เรื่องการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคุณ เพราะคนเป็นคนที่มีความยืดหยุ่นสูง คุณเป็นคนที่มีความเข้าใจและการเรียนรู้ที่รวดเร็ว สามารถรู้ความเป็นไปของสถานการณ์ได้ดีเยี่ยมอาชีพที่เหมาะสม : นักเจรจาต่อรอง นักวิทยาศาสตร์ นักโบราณคดี นักสังคมวิทยา นักประมูลผู้จัดการฝ่ายขาย โค้ชกีฬา เทรนเนอร์ นักข่าว นักพาณิชยศิลป์
คนเกิดวันที่ 15
มีความพยายาม ความเพียร เพื่อให้เกิดความสำเร็จ คุณจึงคิดว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับคุณ แต่ก็มีความคิดแบบเห็นแก่ตัวบ้าง สไตล์การทำงาน :ความเด็ดเดี่ยวของคุณ ทำให้คุณคุณวางเป้าหมายอย่างแน่ชัดเพื่อความสำเร็จ คุณยังกระหายการเรียนรู้เสมอ เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ใหม่ๆ คุณเป็นคนที่มีความสามารถมากอาชีพที่เหมาะสม :สถาปนิก ครูอาจารย์ นักวิชาการ มัณฑนศิลป์ บรรณารักษ์ นักวิจัยนักบำบัด นักออกแบบ
คนเกิดวันที่16
น่าสงสารคนเกิดวันนี้ที่ยากลำบากในชีวิตต้องสะสมประสบการณ์ด้วยตนเองมากมาย ถึงจะประสบความสมเร็จ แต่ความพิเศษก็มีเช่นกัน เพราะเป็นคนที่มีไหวพริบและมนุษยสัมพันธ์ดีมาก สไตล์การทำงาน :การทำงานของคุณจะนำไปสู่เป้าหมายให้เร็วที่สุด เพราะสิ่งที่วกวนอ้อมไปอ้อมมาคุณจะไม่ถนัดเลย และยิ่งทำให้คุณเสียเวลา คุณจึงตรงไปตรงมารวมถึงวางแผนอย่างรัดกุมเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่คุณคิดอาชีพที่เหมาะสม :นักประพันธ์เอก วิศวกร นักกฎหมาย นักวิจัย นักสืบ
คนเกิดวันที่ 17
เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ดีมาก และยังมีความเป็นผู้นำ ไม่ชอบเดินตามใครหรือให้ใครบงการ สไตล์การทำงาน :สิ่งที่คุณถนัดคือเรื่องของการเมืองในบริษัท และยังถนัดเรื่องการประสานงานไม่ว่าเรื่องความคิดเห็น คุณจะทำได้ดีมากอาชีพที่เหมาะสม :นักแสดง นักการเมือง ทนาย นักเอนเตอร์เทน นักบริหาร นักการเงิน การธนาคาร ผู้นำทางศาสนา นายหน้า
คนเกิดวันที่ 18
คุณเป็นคนเด็ดขาดและชอบงานอิสระ คนยังสามารถควบคุมบรรดาลูกน้องของคุณได้เพื่อคุณเป็นผู้นำที่มีอำนาจ สไตล์การทำงาน :ชอบการเรียนรู้ด้วยตัวเอง และสามารถเรียนรู้ได้รวดเร็วอีกด้วย คุณยังสามารถจัดการหรือฝ่าวิกฤตที่เกิดขึ้นให้ลุล่วงไปด้วยดี เพราะความเป็นนักสู้ของคุณนั้นเองอาชีพที่เหมาะสม :การจัดการ นักกฎหมาย อัยการศาล นักปรัชญา หรือปรากฏการณ์ บรรณาธิการ นักสื่อสารมวลชนหัวก้าวหน้า นักกีฬานักกรีฑา
คนเกิดวันที่ 19
คุณเป็นคนชังสังเกต และมีความเป็นผู้นำสูง จึงเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปสไตล์การทำงาน :คนเป็นคนที่ชอบการร่วมมือกับคนอื่น ไม่ว่าเป็นเรื่องเวลา การลงทุน ลงแรง คุณจะพร้อม และมีความมั่นใจยิ่งขึ้น และคุณยังเป็นคนที่ไม่ค่อยมีศัตรูอีกด้วยอาชีพที่เหมาะสม :ผู้กำกับฯ นักดนตรี นักเขียน ที่ปรึกษา ผู้กำกับศิลป์ แดนเซอร์ นักเคมี เภสัชกร
คนเกิดวันที่ 20
เป็นคนที่ตรงไปตรงมาจริงใจ ไม่คดโกงใคร ไม่เอาเปรียบใคร ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณก็ไม่อยากให้ใครเอาเปรียบคุณเช่นกัน สไตล์การทำงาน :การทำงานของคุณเป็นคนที่ฉกฉวยโอกาศจากช่องว่างต่างๆได้ดีเยี่ยมอาชีพที่เหมาะสม :งานทุกอย่างที่ต้องทำกันเป็นทีมเพราะคุณจะถนัดงานทางด้านนี้ ที่ปรึกษาสุขภาพ ที่ปรึกษาทางด้านบุคลิกภาพ ครูบาอาจารย์ นักการทูต นักบริหาร
คนเกิดวันที่ 21
คุณเป็นคนที่ลังเล โลเลจนทำให้เสียโอกาศทองไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังเป็นคนที่ช่างฝันอยู่ เพื่อสู้ที่จะทำจริง ความสำเร็จเลยไม่ยากเกินความต้องการคุณ สไตล์การทำงาน :คุณมักจะเลือกงานที่ใช้ความคิด และจินตนาการอย่างเต็มที่ เพราะงานทุกชิ้นของคุณออกมาจากใจจริง นับว่าคุณเป็นศิลปินด้วยจิตวิญญาณอาชีพที่เหมาะสม :งานที่เกี่ยวข้องกับทางสื่อโทรทัศน์ หรือหนังสือพิมพ์ ถ้าคุณทำงานทางด้านสายนี้จะดีเอามากๆเลย เช่น วงการดารา นักร้อง นางแบบ นักสื่อสารมวลชน วงการโฆษณา
คนเกิดวันที่ 22
เป็นคนที่แสวงหาความสุขให้ตัวเองพร้อมกับเรียนรู้ไปพร้อมๆกันได้ และยังเป็นคนที่วางแผนชีวิตอย่างซีเรียสเสมอ สไตล์การทำงาน :คุณพยายามที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆให้หมดเพื่อจะได้ฉกฉวยมาได้ก่อนคนอื่น จริงๆคุณไม่ได้เป็นคนที่โลภะหรอกนะ เพียงแต่ว่าคุณไม่อยากที่จะเสียเวลาในการทำอย่างอื่น เป็นเพียงเพราะคุณเป็นคนที่กระหายความสำเร็จเท่านั้น อาชีพที่เหมาะสม :สถาปนิก ครูบาอาจารย์ นักบริหาร ที่ปรึกษาทางธุรกิจ ทนาย หรือทำงานทางด้านการเงิน
คนเกิดวันที่ 23
คนเกิดวันนี้เป็นคนที่คล่องแคล่วในตัดสินปัญหาทุกๆอย่าง และยังสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้ามีเหตุการณ์บางอย่างทำให้คุณถึงจุดสุดขีดขึ้นมา คุณก็สามารถระเบิดสิ่งนั้นออกมาได้ทันที สไตล์การทำงาน :คุณเป็นคนชั่งสังเกต และมีความรู้สึกพิเศษที่ว่า ใครที่ดีกับคุณ หรือช่วยเหลือคุณได้อาชีพที่เหมาะสม :นักสังคมสงเคราะห์ นักอนุรักษ์ธรรมชาติ นักเขียน ศิลปิน
คนเกิดวันที่ 24
เป็นคนที่ชอบความชัดเจน ตรงไปตรงมา มีความอดทน และยังเป็นนักปกครองที่ดีอีกด้วย สไตล์การทำงาน :คุณเป็นคนที่ทำงานไม่รวดเร็ว แต่ว่าผลลัพธ์ที่ออกมานั้น จะเหนือความคาดหมายที่วางไว้ตอนแรกเสมออาชีพที่เหมาะสม :งานที่ต้องเขียนออกมาหรืองานนักดนตรี ผูนำทางด้านศาสนา
คนเกิดวันที่ 25
เป็นคนที่มีความมั่นใจสูงมากเกินไป คุณเป็นคนที่ใจร้อนในการทำงาน เพื่อให้ผลงานออกมาอย่างรวดเร็ว สไตล์การทำงาน :คุณต้องทำงานที่เริ่มต้น หรืองานประเภทบุกเบิกตั้งแต่แรก เพื่อคุณชอบที่จะพยายาม ใช้ความสามารถในการวางแผนหรือคิดค้นอะไรๆอาชีพที่เหมาะสม :งานทางด้านการเงิน หรืองานที่จะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์
คนเกิดวันที่ 26
คนเป็นคนที่เชื่อมั่นในตนเอง เอาแต่ใจตัวเองบ้าง สมองไหวพริบดี ชอบทำงานที่ท้าทายกับตัวเอง เพื่อความประสบความสำเร็จ สไตล์การทำงาน :เรียนรู้อะไรได้ถูกต้อง เพื่อให้บรรลุความสำเร็จได้เร็ว และก่อนใครคนอื่น แต่งานของคุณต้องเป็นงานที่ทำคนเดียว เพราะคุณชอบที่ทำตั้งแต่เริ่มวางแผนยันลงมือทำงานหมดเลยอาชีพที่เหมาะสม : ครูบาอาจารย์ นักเจรจา นักไกล่เกลี่ย นักสืบ นักตกแต่ง งานการตลาด วานทางด้านการตัดต่อ
คนเกิดวันที่ 27
เป็นคนที่วางแผน คิดรอบคอบ รู้ทันเกม เจรจาเป็นเลิศ แต่ก็ตรงไปตรงมาสไตล์การทำงาน :คุณก็เป็นคนที่คิดรอบคอบ คือ คิดแล้วคิดอีก ก่อนที่จะลงมือทำ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ มิให้เกิดความผิดพลาดในอนาคต แถมคุณยังเป็นคนที่รักงานเอามากๆ ไม่ชอบให้ใครทำงานที่ชุ่ยๆอาชีพที่เหมาะสม : นักอบรม นักจัดงานสัมมนา นักบริหาร นักแสดง นักดนตรี นักวาดรูป วาทยกร
คนเกิดวันที่ 28
จัดว่าคนเป็นเจ้าระเบียบจัดเลยก็ว่าได้ ชอบที่จะคิดปฏิวัติแก้ไขแนวคิดด้วย สไตล์การทำงาน :เอาง่ายๆเลยว่า งานที่ยากๆ เป็นสิ่งที่คุณชื่นชอบอาชีพที่เหมาะสม :ศิลปิน นักแสดง นักออกแบบเสื้อผ้า งานที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ นักพัฒนาพื้นที่ นักพัฒนาองค์กร
คนเกิดวันที่ 29
เป็นคนที่มีความเชื่อมั่น ขยันหมั่นเพียรสูง พยายามที่จะสร้าความคิดใหม่ๆออกมา ชอบคิดวางแผนเสมอ เหมาะที่จะเป็นผู้นำ หัวหน้าคน เพราะเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น และยังมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีอีกด้วย สไตล์การทำงาน :คุณชอบที่จะทำงานหลายๆอย่างในคราวเดียวกัน ประมาณว่าทำงานหลายอย่างพร้อมกันบางทีคุณก็มีความสับสนอยู่บ้าง แต่คุณก็มีทักษะที่สามารถที่ทำหลายอย่างพร้อมกันได้อาชีพที่เหมาะสม :งานทางด้านการทำหนังสือ หรืองานช่วยเหลือสังคม ทางด้านการเงิน
คนเกิดวันที่ 30
จะเป็นคนที่มั่นใจในสิ่งที่ตนเองทำ เพราะตนเองได้วางแผนในการทำงานไว้อย่างรอบคอบแล้ว และเป็นคนที่มีอารมณ์ศิลปินสูงด้วย สไตล์การทำงาน :การทำงานที่คุณควรทำคือ มีความอดทน เข้าใจกับผู้อื่น เพราะคุณมีความสามารถทางด้านจิตวิทยาสูงทำให้เข้าใจอื่นได้ดี แต่ไม่ค่อยเข้าใจกับตัวเองเท่าไหร่อาชีพที่เหมาะสม :งานทางด้านการทำหนังสือ อาชีพการบริการ งานเกี่ยวข้องกับการสื่อสาร
คนเกิดวันที่ 31
เป็นคนที่แสวงหาทุกอย่าง พยายามที่จะทะเยอทะเยานให้ไปได้ไกลๆ แถมยังใฝ่สูงอีกด้วย สไตล์การทำงาน :เป็นคนที่ตัดสินใจแล้วต้องทำให้ได้อาชีพที่เหมาะสม :นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นักระดมทุน นักกายภาพบำบัด นักกฎหมาย งานที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ หรือที่เกี่ยวข้องทางด้านสื่อสารมวลชน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)