15 ก.พ. 2552

โรคเกี่ยวกับปาก

เริมที่ปาก


ขนานที่ 1
เมื่อเริ่มเป็น ให้เอาน้ำแข็งจี้ที่เริมบ่อยๆ เป็นเวลา 1 ชั่วโมง


ขนานที่ 2
ใช้น้ำเมือกว่านหางจระเข้ทาบ่อยๆ


ริมฝีปากแตก

เข้าหน้าหนาวผิวหนังมักจะแตก โดยเฉพาะริมฝีปากมักจะแตกและแห้งเกรียม ทำให้แสบ และเจ็บมาก


ขนานที่ 1
เด็ดใบของต้นเปล้าจะเป็นเปล้าเล็ก หรือเปล้าใหญ่ก็ได้ เด็ดเอาใบมา 2-3 ใบ ให้ก้านใบติดมา ด้วย จะมีน้ำยางใสๆ ไหลออกมา เอาแต้มที่แผลริมฝีปากวันละ 2-3 ครั้ง สัก 4-5 วัน


ขนานที่ 2
ใช้สีผึ้งทาปากให้มันอยู่เสมอ ฝีที่ริมฝีปาก เอาใบผักคราดหัวแหวนตำพอก


ปากนกกระจอก

โรคนี้เกิดจากขาดสารอาหารพวกไวตามินบี


ขนานที่ 1
เอาฟองน้ำสีขาวที่เกิดจากข้าวกำลังหุงมาทามุมปากที่เป็นปากนกกระจอก วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น


ขนานที่ 2
เด็ดยอดเครือไซสงเอายางมาทาที่มุมปากวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น

ยางมะม่วงกัดปาก
ส่วนมากเป็นกับเด็ก เกิดจากกินมะม่วงที่ปอกเปลือก ไม่หมด มียางติดอยู่ เวลากินมะม่วงทำ ให้ยางติดมุมปาก ริมฝีปาก หรือแก้มยางจะกัดผิวเป็นแผล ให้เอาเม็ดในของมะม่วง (ที่มีสีขาวๆ เมื่อเวลาถูกมีดจะมีสีม่วง) ฝนพอข้นผสมปูนแดงนิดหน่อย (ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใช้ก็ได้) ทาแผลวันละ 2-4 ครั้ง ทาประมาณ 3-4 วันแผลจะหาย

ปากคันเพราะกินบอน
หากกินบอนแล้วเกิดคันปาก ให้เอาน้ำตาลปี๊บกับส้มมะขามเปียก กะให้ความเปรี้ยวหวานเข้มข้นพอกัน ใส่น้ำนิดหน่อย ขยำให้เข้ากัน กินไปอมไปทีละช้อนจะทำให้หายคัน

ปากขม

ขนานที่ 1
ปากขม กินอะไรมันขมไปหมด ให้กินกล้วยน้ำว้าจะไม่รู้สึกขมและทำให้มีแรง ให้กินน้ำ มะพร้าวอ่อนต่างน้ำเกลือ

ขนานที่ 2
ถ้าหายไข้ใหม่ๆ แล้วรู้สึกปากขม หรือปากขมเนื่องจากเหตุใดๆ ก็ดี ให้ทำยานี้กิน คือ เอา เกสรทั้งห้า (มีดอกมะลิ ดอกพิกุล ดอกบุนนาค ดอกสารภี เกสรบัวหลวง) สิ่งละ 2 บาท เนื้อสมอ เทศ เนื้อสมอไทย เนื้อสมอดีงู ผลมะขามป้อม ฝักราชพฤกษ์ รากอ้อยแดง ยาทั้งหมดนี้เอาหนัก สิ่งละ 2 บาท จะบดผงหรือต้มกินก็ได้ ให้แทรกน้ำตาลกรวดก่อนกินด้วย

ปากเป็นแผล
ต้องระวังอย่าให้ท้องผูกควบคู่กับใช้ยา

ยากินขนานที่ 1
กินน้ำเกลืออุ่นๆ ใส่เกลือก1 หยิบมือ ต่อน้ำร้อน 1 แก้ว กินวันละ 3 ครั้งๆ ละ 1 แก้ว

ขนานที่ 2
กินน้ำมะนาว บีบน้ำมะนาว 2 ลูก เติมน้ำให้เต็มแก้ว เติมเกลือ ไม่ต้องเติมน้ำตาล กินวันละ 3 ครั้งๆ ละ 2 ลูก

ขนานที่ 3
กินฝรั่งสดวันละสองสามผล และหลังจากกินอาหารแล้วเด็ดเอาใบฝรั่งมาเคี้ยว จะมีรสฝาด พยายามให้ถูกตรงที่เป็นแผลเปื่อย แล้วจึงบ้วนทิ้ง แล้วก็เคี้ยวใหม่สัก 2-3 หน วันละ 2-3 ครั้ง

ขนานที่ 4
กินฟ้าทะลายโจรเม็ด เอาใบฟ้าทะลายโจรในระยะที่เริ่มออกดอก ตากแดดให้แห้งบดเป็นผง ปั้นน้ำเชื่อมเป็นลูกกลอนขนานเท่าปลายนิ้วก้อย กินครั้งละ 5-8 เม็ด วันละ 2-3 ครั้ง

ขนานที่ 5
อมใบฟ้าทะลายโจรสดๆ อมไม่ต้องเคี้ยว พยายามให้ใบถูกแผลที่ปาก อมตลอดเวลา

ขนานที่ 6
ลูกยอ 33 ลูก สับให้ละเอียด, เถาวัลย์เปรียงสับให้ละเอียด เอาส่วนเท่าลูกยอ ใส่เกลือพอเค็มดองตากแดด ตามน้ำค้าง กินแก้ปากเปื่อยคอเปื่อย กินครั้งละ 1 ถ้วยชา วันละ 3-4 ครั้ง

ปากเปื่อยในเด็ก

ขนานที่ 1
ผลมะกอกเผาไฟ 1 ส่วน ผลมะขามป้อมเผาไฟ 1 ส่วน ยา 2 สิ่งนี้บดผง ทำปั้นเป็นแท่งไว้ ละลายน้ำผึ้งหรือน้ำมะนาวแทรกเกลือเป็นกระสายกวาด หรือชุบสำลีอมเป็นยาสมานปากเปื่อย ใช้ ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

ขนานที่ 2
เอารากหูลิงฝนกับน้ำปูนใสทาวันละ 3-4 ครั้ง

กลิ่นปาก
เศษอาหารที่แทรกอยู่ตามซอกฟันเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก วิธีเอาเศษอาหาร ออก คือ

1) แปรงฟันให้ถูกวิธี
2) ใช้ไม้จิ้มฟันแคะอาหารออก
3) ใช้เชือกถูตามซอกฟัน เชือกนี้มี ขายตามท้องตลาดและคลินิกหมอฟัน เรียกว่า เดนทัลฟรอส วิธีใช้เชือกนี้ทำให้ฟันสะอาดที่สุด นอกจากนี้อาหารที่ค้างอยู่ในกระเพาะลำไส้ ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดกลิ่นปากได้

ขนานที่ 1
เอาน้ำหม่าข้าวหรือน้ำแช่ข้าวเหนียวผสมกับเกลือป่น อมสัก 2-3 นาที แล้วบ้วนทิ้ง อมเป็น ประจำ

ขนานที่ 2
เอาใบพลูค่อยๆ เคี้ยวทีละน้อยหลังอาหาร ถ้าเคี้ยวมากจะทำให้ปากชาและแสบร้อนปาก

ขนานที่ 3
เอาใบฝรั่ง 1 ใบมาเคี้ยวหลังอาหารทุกครั้ง

ขนานที่ 4
ให้กินกล้วยสุกจะเป็นกล้วยน้ำว้า กล้วยหอมหรือกล้วยไข่ก็ได้ กล้วยทอด กล้วยเชื่อมใช้ ไม่ได้ กินในตอนเช้าหลังตื่นนอนสัก 6-7 ลูก ทำสัก 1 อาทิตย์

ขนานที่ 5
เอาใบฝรั่งสดๆ ตากแดดพอหมาดๆ ย่างไฟพอหอม ชงน้ำกินเป็นประจำ โดยใช้ใบฝรั่งสัก 1 หยิบมือ ชงกับน้ำร้อน 2 แก้ว กินครั้งละ 1 แก้ว วันละ 3-4 ครั้ง

กลิ่นปากที่เกิดจากอาหาร เช่น กินต้นหอม กระเทียม สะตอ เหล้า แล้วมีกลิ่นติดปาก ให้ใช้ใบฝรั่งหรือใบพลูเคี้ยวกิน ดับกลิ่นอาหาร

ไม่มีความคิดเห็น: