16 มิ.ย. 2553

เหตุการณ์คลาสสิกอาชีพโปรแกรมเม­อร์

สังเกตดูดีๆ คนที่ทำงานสาย software developer นั้น


จะเจอเหตุการณ์ซ้ำไปซ้ำมาอยู่ตลอดชีวิตการทำ

งานสายนี้ และต่อไปนี้ขอเชิญอ่าน

เหตุการณ์สุดคลาสสิคของโปรแกรมเมอร์เมอร์เมอร์….(มีเสียงสะท้อน เล็กน้อย)





* โปรเจ็คที่ได้รับมักจะดูเหมือนง่ายในตอนแรก แต่สับสนวุ่นวายในตอนสุดท้าย

* การให้โปรแกรมเมอร์ทำเอกสาร

เปรียบเสมือนเอานาวิกโยธินสหรัฐไปประกวดนางสาวไทย

* ตอนเขียนโปรแกรมเอง Test เอง ไม่เจอ Bug แต่ตอนไป Test

กับลูกค้าเสือกเจอ!!!

* ตอน Test กับลูกค้าเหมือนจะไม่มีบั้กแล้ว พอเริ่มใช้งานระบบจริง แม่ง

เสือกเจอ!!!

* พอโปรแกรมพังตอนใช้งานจริง โปรแกรมเมอร์มักเอ่ยว่า “ตอน Test

ไม่เห็นเป็นเลย” แล้วก็จบด้วยการทำหน้างงๆ แสดงให้เห็นว่า

กูไม่รู้จริงๆนะเว้ย

* ประเมินเวลาของโปรเจ็ค 10 วัน ไม่ใช่การเขียนโปรแกรม 80 ชั่วโมงต่อคน

แต่อาจะเป็น 100ชั่วโมงต่อคน หรือมากกว่านั้น

* Programmer เก่งกาจจะเป็น System Analyst ทำเอกสารได้ห่วยแตก

* Programmer ที่เก่งกาจมันพูดภาษาคนแล้วเข้าใจยาก

* System Analyst ที่ทำเอกสารได้เก่งกาจ มักจะเคยเป็น Programmer

ที่เขียนโปรแกรมได้ห่วยแตกมาก่อน

* ลูกค้าไม่เคยให้ Requirement ครบ

* ลูกค้าคือพระเจ้า

* นอกจากลูกค้าแล้ว Google ก็เป็นพระเจ้าเหมือนกัน

* งาน Coding ไม่เคยเสร็จก่อนกำหนด

* ออกแบบระบบจนเสร็จ แล้วค่อยเขียนโปรแกรม เป็นแค่เรื่องในฝันเท่านั้น

(สำหรับคนไทย)

* คนให้ Requirement จริงๆ มักจะไม่ค่อยอยากได้ระบบ IT หัวหน้ามันนั้นแหละ

อยากได้

* บางที Bug ก็ไม่มีเหตุผล และไม่ต้องการคำจำกัดความ

* Bug ก็เหมือนความรัก มองไม่เห็น แต่รู้สึกถึงมันได้

* ไม่มี OT มีแต่ O-Free

* Project ที่ โปรแกรมเมอร์ปั่นงานจะจนดึกดื่น มักจะมี Bug เยอะ ถึงเยอะมาก

* ลูกค้ามักจะขี้เกียจ Test โปรแกรมของมันเอง

* แต่พอใช้งานจริงแล้วเจอ Bug ชอบมางอแง

* เขียนโปรแกรมช้า ใช่ว่าจะไม่มี Bug

* เขียนโปรแกรมเทพ ใช่ว่าจะไม่มี Bug

* สรุปว่าเขียนยังไงโปรแกรมก็มี Bug

* การแก้ Code ของคนอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเองเป็นเรื่องที่น่าปวดกบาลมาก

* Code ยิ่งเทพเท่าไหร่ แก้ Bug ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น

* และคนเขียน Code เทพ มักจะโดนสาปแช่งจาก Programmer ที่ต้องมาแก้งานมัน

* ถ้าโปรแกรมช้า เราจะโทษว่า Server ไม่ดี

* System Analyst ที่แก้ Design บ่อยๆ มักจะอ้างกับ Programmer ว่า

“ก็ลูกค้ามันเปลี่ยน”

* System Analyst ที่เพิ่ม Requirement บ่อยๆ มักจะอ้างกับ Programmer ว่า

“ก็ลูกค้ามันขอเพิ่ม”

* Programmer ที่ทำงานไม่ทัน มักจะอ้างว่าประเมินเวลามาน้อยเกินไป

* มีความเชื่อว่า Application ไม่ต้องการความสวยงาม

* Requirement สามารถเปลี่ยน เพิ่ม ได้ตลอดเวลา แต่มันไม่มีทางลดลงแน่นอน

* การเล่น Internet ไร้สาระ คือการผ่อนคลาย

* การเล่น msn คือการผ่อนคลาย

* การเล่น social network เป็นการผ่อนคลาย

* ด่าลูกค้าเป็นความบันเทิง และผ่อนคลาย

* Internet มีทุกอย่างที่โปรแกรมเมอร์ต้องการ

* พิมพ์สัมผัสได้ เป็นผลจาการ Chat อันหนักหน่วง

* มีความเชื่อว่า ถ้าพิมพ์คีย์บอร์ดด้วยความรุนแรง จะดูเท่

* คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า โปรแกรมเมอร์ทำได้ทุกอย่างที่เกียวกับ computer

* ดังนั้น โปรแกรมเมอร์เป็นที่พึ่งให้ เพื่อนๆ พ่อ แม่ พี่น้อง อากง อาม่า

เวลามีปัญหากับเทคโนโลยีใหม่ๆ

* ไม่มีโปรแกรมเมอร์คนไหน กลับบ้านตรงเวลาตลอด

* ชีวิตจะบัดซบทุกครั้ง ที่ไฟดับ

* ตอน Present โปรแกรมให้ลูกค้าดู ต้องไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนทุกครั้ง

* เวลาขี้เกียจแก้งาน โปรแกรมเมอร์จะบอกว่า “Code

ตรงนี้กูไม่ได้เป็นคนเขียนครับ”

* เวลาโปรแกรมมีปัญหา ลูกค้ามักจะบอกว่า “ยังไม่ได้ไปทำอะไรมันเลยนะ

อยู่ๆก็ใช้ไม่ได้”

* โปรแกรมเมอร์ว่างงาน มักง่วงตอนสายๆ หรือบ่ายๆ

* คาเฟอีนคือยาวิเศษ

* การนั่งหลับเวลาง่วงมักไม่ค่อยได้รับความยอมรับจากหัว หน้า

ไม่มีความคิดเห็น: