13 มิ.ย. 2553

เจ็ดสิ่งที่ควรหยุดทำทันทีใน Facebook

บทความนี้เรียบเรียงจาก 7 Things to Stop Doing Now on Facebook
by Consumer Reports Magazine Wednesday, May 12, 2010



1. ใช้รหัสผ่านแบบง่าย ๆ

หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อธรรมดา หรือคำทั่วไปที่สามารถหาพบได้ในพจนานุกรม

หรือแม้แต่ตัวเลขที่ลงท้ายรหัสผ่านดังกล่าว ควรใช้การผสมระหว่าง

ด้านหน้า ด้านหลังตัวอักษร ด้วยตัวเลข หรือสัญลักษณ์

รหัสผ่านควรมีแปดตัวอักษรอย่างน้อย เทคนิคที่ดีอย่างหนึ่งคือ

การเพิ่มตัวเลขหรือสัญญลักษณ์ระหว่างกลางคำผ่าน

เช่นตัวอย่างคำผ่าน houses เป็น hO27usEs!

มีบทความส่วนหนึ่งที่ผมได้เขียนไว้เรื่อง รหัสผ่านคาดเดายาก





2. ระบุวันเดือนปีเกิดในข้อมูลสาธารณะ

โจรภัยทางข้อมูลแบบเบื้องต้น

ผู้ไม่หวังดีมักจะใช้ในการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวคุณ

เพราะมันจะมีประโยชน์อย่างมากในการเข้าถึงข้อมูลธนาคารหรือบัตรเครดิต

ถ้าคุณได้ระบุวันเกิด ให้กลับไปที่ข้อมูลส่วนตัว เข้าไปแก้ไขข้อมูลส่วนตัว

ระบุข้อมูลพื้นฐานคือ ไม่แสดงวันเกิดในข้อมูลส่วนตัว หรือ

แสดงเฉพาะวันและเดือนเกิดในหน้าข้อมูลส่วนตัว


(การติดต่อสอบถามเกี่ยวกับบัตรเครดิต มักจะต้องตอบข้อมูลเรื่องนี้ด้วย)


3. ตรวจสอบการใช้งานของข้อมูลส่วนตัว

ข้อมูลทั้งหมดใน Facebook คุณควรกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงของเพื่อน

หรือเพื่อนของเพี่อน หรือตัวคุณเอง

เช่น การเข้าชมรูปภาพ วันเกิด ศาสนา และข้อมูลของครอบครัว

หรือสิ่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวคุณเอง เช่น ข้อมูลในการติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ สถานที่อยู่

ควรจำกัดสิทธิ์เฉพาะบุคคลหรือกลุ่มที่สามารถจะเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว

หรือจัดการบล็อก(ห้าม)บุคคลบางคน

หรือไม่ให้บุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว


4. ระบุชื่อบุตรหลาน โดยมีข้อความที่อธิบายหรือตำบรรยายใต้ภาพประกอบ

ใม่ควรระบุชื่อบุตรหลานหรือป้ายกำกับ(tags)

หรือ มีคำอธิบาย/บรรยายรายละเอียดใต้ภาพ

และถ้าได้มีคนอื่นหรือเพื่อนคุณทำเช่นว่านั้น

ก็ขอให้ช่วยแก้ไขหรือลบออกพร้อมกับป้ายกำกับด้วย


แต่ถ้าชื่อบุตรหลานของคุณไม่ได้อยู่ใน Facebook

แต่ได้มีบางคนได้ระบุข้อมูลดังกล่าวไว้ใน

ป้ายกำกับ(tags) หรือ หรือมีคำอธิบายหรือบรรยายรายละเอียดใต้ภาพ

ก็ขอให้เจ้าของข้อมูลดังกล่าวแก้ไข/ลบออกด้วย



(เป็นช่องทางให้ผู้ไม่หวังดีใช้ข้อมูลดังกล่าว

ในการก่ออาชญากรรมบางเรื่องได้ง่าย

เพราะรู้ว่าเป็นลูกหลานของใครมีฐานะการเงินเป็นเช่นไร)


5. การบอกว่า กำลังออกจากบ้าน

เป็นนัยที่สื่อความหมายว่า ไม่มีใครอยู่ในบ้าน

หรือคล้ายเป็นการปิดป้ายว่า “ไม่อยู่” ไว้ที่หน้าบ้านเช่นกัน

ให้รอจนคุณกลับถึงบ้านแล้วค่อยบอกถึงการผจญภัยหรือความสนุกสนาน

ในการเดินทางหรือการใช้วันหยุดพักผ่อน โดยอาจจะไม่ต้องระบุ

วันเดือนปีที่เดินทางก็ได้ หรือระบุวันเดือนปีที่เดินทางให้คลุมเครือไม่ชัดเจน


6. การปล่อยให้ Facebook ค้นหา พบคุณ

เพื่อป้องกันคนแปลกหน้าเข้าถึงหน้าข้อมูลของคุณ

ให้ไปที่การค้นหาของ Facebook ข้อมูลส่วนตัว

และเลือกเฉพาะเพื่อนเท่านั้นของ Facebook ที่จะค้นพบข้อมูลดังกล่าว

และให้มั่นใจว่ากล่องข้อมูลสาธารณะไม่ได้ระบุให้เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้


7. อย่าให้เด็กใช้ Facebook โดยไม่ตรวจสอบควบคุม

แม้ว่า Facebook จะไม่อนุญาตให้เด็ก

อายุต่ำกว่าสิบสามขวบหรือยังไม่ถึงเกณฑ์ใช้งาน

แต่หลายคนก็ทำการปลอมอายุเข้าไปใช้ได้

ถ้าคุณมีเด็กหรือวัยรุ่นในความปกครองใช้ Facebook

วิธีการที่ดีที่สุดในการตรวจสอบและควบคุม คือ

การเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกลุ่มเพี่อนของเขา

หรือให้ใช้ email ของคุณแทนในการติดต่อระหว่างบัญชีของเขา

เพื่อที่คุณจะได้รับข้อความหรือตรวจสอบการใช้งานของเขา


“เพราะสิ่งที่พวกเขาคิดว่าไม่เป็นไร ไม่มีอะไร

กลับกลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างง่ายดาย”

เป็นคำกล่าวของ Charles Pavelites, ผู้ชำนาญการพิเศษของหน่วยงาน

ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากอาชญากรรมทางอินเตอร์เนต


ยกตัวอย่างเช่น มีเด็กคนหนึ่งมักจะบอกว่า

"แม่กำลังจะกลับบ้านแล้ว ฉันต้องไปล้างจาน"

มักจะบอกทุก ๆ วัน ในเวลาเดิมเสมอ

มันเป็นการบอกเวลาที่ชัดเจนมาก

เกี่ยวกับการเดินทางไปกลับของพ่อแม่


(บอกช่วงเวลาที่ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ที่บ้าน

คนร้ายอาจกะระยะเวลาก่อกรรมทำชั่วได้ง่ายขึ้น)

ไม่มีความคิดเห็น: