31 ส.ค. 2551

เลี่ยง"ชา กาแฟ อาหารเค็ม" เหตุ"กระดูกเปราะ"

นอกจากรูปร่าง หน้าตา ที่ต้องดูแลให้สดชื่น สดใส อยู่เสมอแล้ว "กระดูก" ก็เป็นอีกหนึ่งอวัยวะสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ เพราะหากวันใดวันหนึ่งเกิดอาการกระดูกพรุน กระดูกเปราะขึ้นมา ร่างกายจะสูญเสียการทรงตัว!! ดังนั้น ศูนย์กระดูกและข้อโรงพยาบาลวิภาวดี จึงจัดงาน "คืนความสดใส...ให้กระดูกคุณ" ขึ้น

นพ.ปิยะพันธ์ ธาราณัติ แพทย์ศัลยกรรมกระดูกและข้อ บอกว่า กระดูกต่างจากกล้ามเนื้อที่เสริมสร้างกันไม่ได้ง่ายๆ โดยผู้หญิงอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป และผู้ชายอายุ 45 ปีขึ้นไป กระดูกจะปิดตัวและรอวันเสื่อม ในขณะที่ร่างกายไม่หยุดดูดแคลเซียมไปใช้งานทุกๆ วัน ดังนั้น ถ้าไม่ดูแลให้ถูกวิธีอาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับกระดูกตามมาได้

"วิธีป้องกัน คือ ต้องรับแคลเซียมให้เพียงพอต่ออายุ โดยปกติอาหารไทยต่อมื้อจะมีแคลเซียม 400-500 มิลลิกรัม ขณะที่ร่างกายคนเราต้องการ 1,200-1,500 มิลลิกรัม จึงควรรับประทานแคลเซียมเม็ดเสริมเข้าไป หรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ เพิ่มความแข็งแรงกล้ามเนื้อ เช่น เวทเทรนนิ่ง, เพิ่มความแข็งแรงระบบหัวใจ-หลอดเลือด เช่น แอโรบิค เอ็กเซอร์ไซส์, เพิ่มความคงทนต่อการใช้งาน เช่น จ๊อกกิ้ง วิ่งมาราธอน และเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อ เช่น โยคะ ไท้เก๊ก เป็นต้น ทั้งนี้ ควรออกกำลังกายให้เหมาะสมกับวัยและพละกำลังของตนเองด้วย ถ้าหักโหมมีเสียงกระดูกลั่นก๊อกแก๊ก นั่นเป็นสัญญาณอันตรายที่ควรไปพบแพทย์"

ด้าน พญ.อัจจิมา สุวรรณจินดา ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์วัยวัฒน์ เมดดิไซน์ แนะนำหลักโภชนาการว่า หลักการรับประทานอาหาร ไม่ใช่แค่รับประทานครบ 3 มื้อ แต่ต้องรับประทานสารอาหารให้ครบถ้วน ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งต้องเพิ่มสารอาหารที่เสริมสร้างความหนาแน่นให้กระดูก อาทิ "แคลเซียม" มีมากในงาดำและพริกไทยดำ รับประทานวันละ 1 ช้อนโต๊ะ "แมงกานีส-แมกนีเซียม-ฟอสฟอรัส" พบในน้ำสับปะรด ดื่มวันละ 1 แก้ว ช่วยป้องกันการสลายของกระดูก "วิตามินดี" พบในแสงแดดตอน 8 โมงเช้า และ 4 โมงเย็น "โบรอน" พบมากในกะหล่ำปลี ช่วยเพิ่มเอสโตรเจน ซึ่งสารอาหารเกือบทั้งหมดอยู่ในผักใบเขียวและผลไม้ ตัวอย่าง สลัด 1 จาน มีแคลเซียมทั้งสิ้น 700 มิลลิกรัม

นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงชา กาแฟ และอาหารรสเค็ม ซึ่งมีส่วนทำให้กระดูกเปราะง่าย นอกจากนี้ยังมี "กูรู" ด้านกีฬา มาเผยถึงการออกกำลังกายสำหรับผู้มีปัญหากระดูกด้วย เริ่มจาก "อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ" มาสอนโยคะ และ ผศ.ดร.ราตรี เรืองไทย สอนการออกกำลังกายในน้ำ เนื่องจากในน้ำมีแรงดัน สามารถลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ พัฒนาระบบไหลเวียนของเลือดและหัวใจ และทำให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่น จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้มีปัญหาเรื่องกระดูกและข้อ รวมถึงผู้สูงอายุ สามารถเล่นง่ายๆ ด้วยตนเองด้วยการเดินช้าๆ ในน้ำ แบะขาไป 45 องศา และใช้มือวักน้ำดันไปข้างหน้า เดินไปกลับไปวัน 2 รอบ

ได้สูตรเด็ดไปบำรุงกระดูกกันแล้ว นำไปทำตามกันได้

ไม่มีความคิดเห็น: