15 พ.ย. 2550

ต้องอ่านนะ เตือนภัยครับ...(โดยเฉพาะช่วง ม.เกษตร ไปทางนนทบุรี)

ต้องอ่านนะ เตือนภัยครับ...(โดยเฉพาะช่วง ม.เกษตร ไปทาง อ.เมือง นนทบุรี) เมื่อคืนวันที่ 09/06/2550 ตอนประมาณ 22.20 น. ผมขับรถผ่านมาทางโรงแรมมารวยและติดไฟแดงตรงแยกเกษตร ระหว่างรอไฟ เห็นผู้หญิงประมาณ 45 ปี เห็นรถเราแล้วก็เดินเข้ามา เราก็นึกว่าคนรู้จักเข้ามาทัก..แกบอกว่าหนูเลี้ยวขวาใช่ไหมขอติดรถไปหน่อย เดี๋ยวเลี้ยวขวาแล้วจะลง...

ตอนนั้นก็ง่วงๆ ประกอบเห็นว่าเป็นผู้หญิงมีอายุและพอเลี้ยวก็ลง คงไม่มีอะไร เลยให้ขึ้นมา ขึ้นเสร็จก็ถามต่อว่าหนูจะไปไหนผมก็เลยแกล้งบอกว่าไปแถวโรงพยาบาลวิภาวดี(จริงๆ บ้านผมอยู่แถวพระราม 5) แกก็บอกงั้นดีเลย งั้นขอไปลงแถววิภาวดีแล้วกัน ผมก็เลยบอกว่าจริง ๆ ผมข้ามสะพานไปทางเดอะมอลล์แกบอกงั้นยิ่งเยี่ยม บ้านน้าอยู่บางบัวทองขอไปลงทางโน่นก็ได้ เราก็เอาๆ ลงโน่นก็ได้ (คิดในใจไหนบอกว่าเลี้ยวแล้วจะลง...) ผมก็ขับมากะให้แกลงฝั่งตรงข้ามพันธ์ทิพย์งามวงศ์วานพอถึงหน้าพันธ์ทิพย์ แกไม่ลงอีก ถามแล้วหนูไปไหนต่อ...ผมก็เลยบอกเดี๋ยวจะเลี้ยงตรงทางด่วนแกดันบอกงั้นเดี๋ยวเล­ี้ยวตรงทางด่วนแล้ว จอดก็ได้ตรงนั้นมี TAXI หนึ่งคัน(รู้ได้ไงว่ามี Taxi 1 คัน) เราก็ชักไม่ดีแล้ว...

อะไรหว่า เราก็เห็นว่าถ้าเลี้ยวตรงทางด่วนจริง ตรงนั้นมันเปลี่ยว อันตรายไม่เอาดีกว่าเลยบอกว่าผมจะไปทางแคลาย แกก็บอกงั้นก็เลี้ยวแครายแล้วค่อยลงก็ได้ น้าไม่กลับบางบัวทองแหละ...ดึกแล้วกลับคอนโดดีกว่าไหนๆ ก็ดึกขนาดนี้แหละ...แล้วแกก็พูดดักใหญ่เลย..คอนโดไปได้หลายทาง ไปทางพระราม 5 ก็ได้ ไปทางตลาดนนท์ฯ ก็ได้ แบบว่าเข้าได้ทุกทาง เหมือนแกจะดักว่าเราไปทางไหนแกก็ไปได้ทุกที่... ผมก็คิดในใจ ดูท่าไม่ดีแล้วตรู เลยเลี้ยวแครายมาจอดฝั่งตรงข้ามซอยเรวดี.. แล้วบอกแกให้ลงตรงนี้แหละ...ไม่เปลี่ยวจะได้โบกรถ Taxi ไปต่อได้ไม่น่ากลัว แกก็ดันถามอีกว่า..แล้วจะไปไหนต่อละ.. ผมบอกไปแยกหน้าแล้วเลี้ยวซ้าย (ที่พูดว่าเลี้ยวซ้ายเพราะที่แกพูดถึงทางไปคอนโดแกจะประมาณว่าต้องเลี้ยวขวา) ผมเลยรีบบอกไปว่าผมจะแวะทำธุระก่อน น๊าลงตรงนี้แหละแกยังอุตสาห์บอกว่าแยกหน้าเลี้ยวซ้ายค่อยลงก็ได้(อะไรหว้า...เล­ี้ยวแล้วลงอีกแล้ว..)

ผมก็บอกน๊าลงนี้แหละ...ก็มีการว่าทำไมหนูไม่ฉลาดเลย..แยกหน้าลงก็ได้ ไม่ต้องกลัวตามไปที่บ้านหรอก ไหนๆ ทำความดีแล้วก็ทำให้สุดสุด... (กรรม...อะไรของเค้าว้าเนี่ย..) ผมก็ยืนยันว่าลงนี้แหละแกก็ถึงลง... เพราะผมรู้สึกว่ามันแปลกๆ มากไปแล้วแล้วทางที่ไปต่อ จะค่อนข้างเปลี่ยวแล้ว ผมคิดว่าต้องเป็นมิชชาชีพแน่ ๆอาจจะมีพวกเค้าขับรถตามเรามา หรือคอยดักแยกไหนก็ได้ แต่ที่ขับมายังไม่สบโอกาส ประกอบกับตัวผมค่อนข้างใหญ่ คงไม่กล้าพลีพลามทำอะไรหรือไม่ผู้หญิงคนนี้ก็คงปล้นเอง..เพราะแกหิ้วกระเป๋าสีด­ำมาด้วยใบหนึ่ง ไม่รู้ข้างในมีอะไร...

พอให้แกลงแล้ว กลับมาถึงบ้านแล้วค่อยนึกได้ว่าน่าเสียดาย น่าจะรอ ๆ ดูว่าแกจะไปไหนต่อ ถ้าเห็นมีพิรุธจะได้แจ้งตำรวจให้พาไปสอบสวน คิดแล้วเสียดาย เพราะห่วงคนอื่นที่อาจจะใจดีให้แกขึ้นมาโดยเฉพาะถ้าคนขับรถเป็นผู้หญิง เลยได้แต่นำมาเล่าเตือนเพื่อนๆ ว่าอย่ารับขึ้นมาเลย สังคมทุกวันนี้ใครจะว่าแล้งน้ำใจก็ช่างเค้าเถิด เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นมาคงไม่คุ้มกัน ใครมีเพื่อนๆ พี่ๆ น้อง หรือคนที่คุณรัก...ที่ขับรถ ช่วยๆ กันบอกต่อว่าอย่าไปรับคนแปลกหน้าขึ้นมา ถึงจะเห็นเป็นผู้หญิงมีอายุดูแล้วไม่น่ามีพิษสงก็ตามเพราะพวกนี้อาจจะทำเป็นขบว­นการ ผู้หญิงคนนี้อาจเป็นพวกนกต่อ อาจจะมีวิธีติดต่อกับกลุ่มเค้า..เช่นเปิดโทรศัพท์ไว้ แล้วพยายามพูดถึงสถานที่จะไป เพื่อให้พวกเค้าตามไปยังไงก็ระวังกันไว้นะครับ...ด้วยความหวังดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น: