9 พ.ย. 2550

วิธีขับไล่ความโกรธเกรี้ยว

แม้ว่าอารมณ์โกรธ จะเกิดขึ้นกับใครก็ได้ จากที่ใบหน้าจะไม่รับแขก ไม่สนฝรั่ง หรือเมินไทย ที่เด่นชัดบนใบหน้า ในเวลาที่คุณโกรธไฟลุกแล้วนั้น อารมณ์โกรธที่ สะสมอยู่ภายในจิตใจนานๆ ก็ยังจะก่อให้เกิดผลร้าย ต่อสุขภาพร่างกาย ได้มากมาย เสมือน ลูกไฟแห่งความโกรธที่ค่อยๆ สะสมขึ้นทุกทีๆ จนเผาไหม้ทั้งกาย และใจคุณให้ ร้อนรุ่มได้ ซึ่งผลกระทบที่มีต่อร่างกาย อาจก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ ดังต่อ ไปนี้

• โรคหัวใจ เนื่องจากอารมณ์โกรธจะกระตุ้น ให้หัวใจคุณบีบตัวเร็วและแรงขึ้น
• โรคซึมเศร้า ขาดชีวิตชีวา
• โรคความดันโลหิตสูง ฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ร่างกาย ไม่สามารถ ทำงานได้อย่างเป็นปกติ

นอกจากนี้ ยังเคยมีผลการศึกษาวิจัยพบว่า หากสาวไหนที่เครียดสะสม ตั้งแต่ในวัยทำ งาน ก็จะมีแนวโน้ม ที่จะป่วยเป็นโรคหัวใจในวัยกลางคน ได้สูงกว่าคนปกติ ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ อีกด้วย รู้อย่างนี้แล้ว ต้องรีบหาทางขจัดอารมณ์โกรธด่วนเลย ดับไฟ โกรธให้หมดสิ้นไปด้วย 4 วิธีที่ทรงประสิทธิภาพ

วิธีการที่จะช่วยให้คุณ สามารถขจัดอารมณ์โกรธได้ดีที่สุด ก็คือ การไม่โกรธ อ๊ะๆ อย่าเพิ่งงงไปว่า ทำไมทางแก้ มันถึงได้ขวานผ่าซากเสียขนาดนี้ แต่ที่บอกไปนั่น น่ะ เป็นวิธีที่ผู้เชี่ยวชาญ หรือแม้แต่พระพุทธเจ้าของเราเอง ก็อบรมสั่งสอน บอกกล่าวกันมา ตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว นั่นก็คือ การระงับความโกรธด้วยความไม่ โกรธ แต่ถ้าสาวๆ สมัยใหม่ ยังไม่สามารถบรรลุสัจธรรมข้อนี้ได้ ก็ลองใช้วิธีการ เหล่านี้ไปก่อน เพราะว่าใช้ได้ผลดีใกล้เคียงกัน

1. เข้าใจความต้องการของตนเอง คุณควรแสดงออก ซึ่งอารมณ์โกรธ ไม่พอใจ ในวิถีทาง ที่ถูกต้องเหมาะสม มากกว่าการระบายอารมณ์ ด้วยความก้าวร้าวรุนแรง โดยคุณอาจ จัดการง่ายๆ ด้วยการเข้าอกเข้าใจ ความต้องการของตัวเองเสียก่อนว่า สิ่งที่คุณ ต้องการคืออะไรกันแน่ จากนั้น จึงหาวิธีที่จะได้สิ่งที่ต้องการมา ด้วยสันติวิธี ที่ไม่ทำร้าย ทั้งความรู้สึกของตัวเอง และของผู้อื่น

2. ระงับอารมณ์โกรธ หากอารมณ์คุณค่อยๆ ลุกลาม พลุ่งพล่านขึ้นเรื่อยๆ แล้วล่ะ ก็ คุณก็ต้องรีบระงับอารมณ์นั้นๆ ไว้ให้เร็วที่สุด ด้วยการหยุดยั้งความคิด ที่ รบกวนจิตใจคุณทันที และพยายามมองไปในสิ่ง ที่จะช่วยให้อารมณ์ของคุณ รู้สึกสด ชื่นแจ่มใสมากขึ้นได้ในขณะนั้น เช่น หากคุณมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน คุณอาจหันเห ความสนใจ ไปคิดถึงเรื่องเดทกับหนุ่มฮอตเย็นนี้แทนก็ได้ เพื่อลบความขุ่นข้องหมอง ใจ ที่มีอยู่ให้หมดไปโดยเร็ว แล้วก็แทนที่ด้วยความสดใสซาบซ่า

3. สงบผ่อนคลาย ในเมื่อต้องการจะดับไฟให้มอด ก็ต้องใช้วิธีการรดน้ำลงไป เพราะ ฉะนั้น วิธีการที่จะดับไฟอารมณ์ ที่รุ่มร้อนภายในจิตใจของคุณ ก็ต้องเป็นการดับ อารมณ์ ด้วยการเอาน้ำเย็นเข้าลูบ เอาความสงบนิ่งเข้าแทนที่ภายในใจ ซึ่งคุณอาจ ใช้วิธีการตั้งสมาธิ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกโยคะ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตึงปวด จากความรู้สึกโกรธ การตั้งสมาธิ ด้วยการกำหนดลมหายใจเข้าออก เพื่อช่วยให้อารมณ์ สงบเย็นลง หรือการมองไปที่ทัศนียภาพภายนอก ที่สวยงาม เขียวขจีในสวนสาธารณะ ที่ เต็มไปด้วยเหล่าแมกไม้ และสายน้ำที่สงบนิ่งก็ได้

4. ออกจากสภาวะการณ์ที่ตึงเครียด หากคุณไม่สามารถระงับ อารมณ์โกรธขึ้นในขณะ นั้นลงได้จริงๆ แทนที่คุณจะฝืนทนกดดัน อยู่ภายใต้บรรยากาศ และสภาวะที่ตึงเครียด เหล่านั้น จนต้องระเบิดอารมณ์ร้ายแรงออกมาในที่สุด คุณควรหลีกเลี่ยง ออกมาจาก สถานการณ์ตรงนั้นก่อน เพื่อที่จะช่วยให้อารมณ์ที่ขุ่นเคืองของคุณค่อยๆ บรรเทาลง ก่อนที่จะกลับเข้าไปแก้ไขปัญหา ด้วยความสงบ และสันติอีกครั้ง
แหล่งข้อมูล : www.ku.ac.th/e-magazine - นิตยสารเกษตรศาสตร์ ฉบับที่ 73 กรกฎาคม 2549

ไม่มีความคิดเห็น: